ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
LH Bank ยกระดับให้บริการ ด้านการวางแผนทางการเงิน การลงทุน ครบวงจร วันที่ 18 พ.ย. 2564 นายพีรพัฒน์ เกษบุญชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Omni Channel Management ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า สำหรับช่องทางสาขา ธนาคารได้พัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ และสามารถให้คำปรึกษาด้านการวางแผนทางการเงินได้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเพื่อบริหารสภาพคล่อง การวางแผนการลงทุนเพื่อต่อยอดความมั่งคั่ง การวางแผนภาษี การวางแผนความคุ้มครองเพื่อป้องกันความเสี่ยง การสร้างแผนเกษียณหรือหลักประกันแก่ทายาทที่เหมาะสมกับลูกค้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายของธนาคาร ล่าสุด ธนาคารได้ยกระดับการให้บริการ ด้วยการปรับโฉมสาขารูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Advisory Branch โดยเน้นการให้บริการที่ปรึกษาด้านวางแผนการลงทุนทุกรูปแบบอย่างเจาะลึกผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเน้นให้บริการแบบเป็นส่วนตัวเฉพาะบุคคล เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการในการลงทุนของลูกค้าอย่างตรงจุด ทั้งนี้ The Adviso
LH Bank จับมือ MTL เปิดตัว ประกันยูนิตลิงค์ แอล เอช แบงก์ เฟล็กซี่ อินเวสท์ ลิงค์ (LH Bank Flexi Invest Link) ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร่วมกับ เมืองไทยประกันชีวิต ผสานความเชี่ยวชาญด้านการเงินและด้านประกันชีวิต ด้วยการเปิดตัวประกันยูนิตลิงค์ “แอล เอช แบงก์ เฟล็กซี่ อินเวสท์ ลิงค์ (LH Bank Flexi Invest Link)” ซึ่งเป็นประกันชีวิตควบการลงทุนที่สามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนได้ตามความต้องการ โดยมีทีมที่ปรึกษาทางการเงินให้คำแนะนำ เพื่อตอบโจทย์การสร้างผลตอบแทนที่ดีผ่านการลงทุนในกองทุนรวม ที่ได้คัดสรรมาให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า คุณชมภูนุช ปฐมพร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเปลี่ยนไป โดยลูกค้าต้องการความยืดหยุ่นและสภาพคล่องมากขึ้นแต่แบบประกันทั่วไปไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ธนาคารจึงนำความเชี่ยวชาญด้านการเงินผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านประกันชีวิตของ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดตัวประกันชีวิตควบการลงทุน “แอล เอช แบงก์ เฟล็กซี่ อินเวสท์
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร่วมรับรางวัล SMEs Excellence Awards 2020 คุณจินตนา ใกล้สุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสินเชื่อ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) เป็นผู้แทนธนาคาร ร่วมรับรางวัลและแสดงความยินดีกับลูกค้าของธนาคารที่ได้รับรางวัล SMEs Excellence Awards 2020 จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีลูกค้าสินเชื่อธุรกิจของธนาคารจำนวน 2 บริษัท ได้รับรางวัล ได้แก่ บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายสินค้ากลุ่ม Built-in Kitchen Appliance คุณภาพจากประเทศอิตาลี ได้รับรางวัล Silver Award ประเภทธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง (Trading) และ บริษัท ทีทีซี น้ำดื่มสยาม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่ม-น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ”สยาม” ได้รับรางวัล Gold Award ประเภทธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) สะท้อนให้เห็นถึงธนาคารให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
LH Bank ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 2% ต่อปี ช่วยลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 วันที่ 27 มี.ค. นางสาวชมภูนุช ปฐมพร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังยืดเยื้อ จึงได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ดังนี้ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ เช่น ปลอดเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และขยายระยะเวลาเงินกู้เพื่อให้ภาระการผ่อนชำระลดลง หลังหมดช่วงปลอดเงินต้น สนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพิ่ม ลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าในช่วงที่มีปัญหา สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน โดยพิจารณาเป็นรายๆ ไป ช่วยเหลืออื่นๆ ตามที่เห็นสมควรโดยพิจารณาเป็นรายๆ ไป ทั้งนี้ ธนาคารได้ร่วมให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รายละไม่เกิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 นี้ และนอกจากนี้ ธนาคารได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำสำหรับลูกค้าที่ยังไม่เป็น NPL
LH Bank ห่วงใยลูกค้า ออกมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุน ลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา นางสาวชมภูนุช ปฐมพร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ดังนี้ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ เช่น ปลอดเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และ ขยายระยะเวลาเงินกู้ เพื่อให้ภาระการผ่อนชำระลดลง หลังหมดช่วงปลอดเงินต้น สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ธนาคารคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าได้ในระดับหนึ่งโดยมาตรการดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงตามผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะต่อไป และตามความเหมาะสมทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งในระหว่างนี้จะมีการติดตามและประเมินผลกระทบของลูกค้าอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อ ธนาคารจะพิจารณาการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมต่อไป การออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในครั้งนี้เพื่อช่วยคลายความวิตกกังวลและเพื่อให้ลูกค้ามีความพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ ลูกค้าธน