ธุรกิจดาวรุ่ง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิด 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2568 ก่อนเข้าสู่ปี 2568 อย่างเป็นทางการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เปิดเผย 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2568 สำหรับ “ธุรกิจดาวรุ่ง” ประกอบด้วย 1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่าตลาดเติบโต 5-7% จากเทรนด์รักสุขภาพและสังคมสูงวัย 2. การแพทย์และความงาม เติบโตจากเทรนด์ใส่ใจสุขภาพ ที่หนุนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 4-6% ต่อปี 3. ธุรกิจท่องเที่ยวหรือฮีลใจ เช่น สัตว์เลี้ยง คอนเสิร์ต มูเตลู หมูเด้ง หมีเนย มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโต 10-15% ตามจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น 4. สินค้าและบริการเกี่ยวกับเด็ก ตลาดสินค้าเด็กเติบโต 4% จากพ่อแม่ที่ต้องการสินค้ามีคุณภาพและปลอดภัย 5. ธุรกิจกรีนหรือปล่อยคาร์บอนต่ำ 58% ของผู้บริโภค เต็มใจจ่ายสินค้าหรือบริการกรีนเพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าปกติ สำหรับ “ธุรกิจดาวร่วง” ประกอบด้วย 1. ธุรกิจผลิตสินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่ง มียอดขายเติบโตชะลอจากกำลังซื้อเปราะบางและแข่งกับสินค้านำเข้า 2. ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์สันดาป การเปลี่ยนผ่านสู่ EV มากขึ้น กดดันยอดขายรถยนต์สันดาป 3. ธุรกิจอสังหาร
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 อาจขยายตัวในกรอบ 3.1-3.6% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว การใช้จ่ายของภาครัฐ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนการส่งออกอาจพลิกเป็นบวกได้ ขณะที่ ต้นทุนธุรกิจยังมีแนวโน้มทรงตัวสูง ทั้งจากราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ค่าจ้างที่ขยับตามการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ อัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ทรงตัวสูงต่อเนื่อง ตลอดจนการเตรียมการรับมือกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่มีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ สำหรับ 3 ธุรกิจรุ่ง ได้แก่ ท่องเที่ยวสุขภาพ-การแพทย์ทางไกล ธุรกิจปล่อยคาร์บอนต่ำ ตู้กดสินค้าอัตโนมัติ 1. การท่องเที่ยวสุขภาพ คาดรายได้จากคนไข้ Medical Tourism เติบโต 8-10% ในปี 2567 สอดคล้องไปกับการฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยและการเดินทางระหว่างประเทศ นอกจากนี้ การแพทย์ทางไกล (Telehealth) ก็คาดว่าจะเติบโตสูงราว 17% ต่อปี4 สอดคล้องไปกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีในการให้บริการด้านสาธารณสุข และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบในปี 2572 2. ธุรกิจปล่อยคาร์
อาหาร เครื่องดื่ม ยังติดเทรนด์ดาวรุ่ง แนะผู้ประกอบการ หาจุดขาย สู้คู่แข่ง คุณสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand 2023 กล่าวถึงธุรกิจกลุ่มกาแฟ เบเกอรี่ กลุ่มบาร์และร้านอาหารว่า ทั้ง 2 กลุ่มยังคงติดอยู่ในกลุ่มธุรกิจดาวรุ่ง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การใช้จ่ายของภาคประชาชนที่มีความมั่นใจขึ้น รวมถึงพฤติกรรมและวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่บริโภคและใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ซึ่งประมาณการมูลค่ารวมของธุรกิจกลุ่มบริการด้านอาหาร-เครื่องดื่ม ในปี 2566 ธุรกิจร้านอาหาร ยังมีมูลค่ารวมมาเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ประมาณ 4.25 แสนล้านบาท (ไม่รวมธุรกิจผับและบาร์) ส่วนตลาดรวมของธุรกิจร้านกาแฟอยู่ที่ประมาณ 65,000 ล้านบาท และตลาดรวมของธุรกิจเบเกอรี่ อยู่ที่ประมาณ 38,000 ล้านบาท แม้ธุรกิจในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับผลจากปัจจัยบวก แต่ผู้ประกอบการควรต้องคำนึงถึงปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อ การแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิ
กายภาพบำบัด ธุรกิจดาวรุ่ง ตอบโจทย์คนเป็น ออฟฟิศซินโดรม ยุคสังคมสูงวัย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จากสถิติจำนวนประชากรไทยช่วงอายุ 25-54 ปี หรือกลุ่มวัยทำงานมีจำนวนมากถึงเกือบ 30 ล้านคน หรือ 45 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั้งหมด อัตราการเกิดและการตายลดลงรวมถึงอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประชากรกลุ่มวัยทำงานมีช่วงเวลาในการทำงานที่ยาวนานมากขึ้น ทำให้ประชากรส่วนนี้เริ่มตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศที่มีพฤติกรรมการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานจึงเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งพบในประชากรสังคมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน คลินิกกายภาพบำบัด จึงถือเป็นทางเลือกใหม่ของคนในวัยทำงาน รวมถึงผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อและกระดูกที่อาจเกิดจากการเล่นกีฬาหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิดปกติ เนื่องจากสามารถเข้าถึงบริการและนวัตกรรมเครื่องมือในการรักษาที่ตอบโจทย์ตามมาตรฐานสากลและสะดวกสบาย โดยคลินิกกายภาพบำบัดจะต้องมีบุคลากรที่เรียนจบด้านกายภาพบำบัดและสอบได้ใบประกอบวิชาชีพตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันนี้ วิชาชีพกายภาพบำบั
รวมดาวเด่นประจำปี! เปิด 10 ธุรกิจสุดรุ่ง มีแนวโน้มดี โตได้อีกในปี 2566 วันที่ 20 ตุลาคม 2565 เว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานข่าว นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และมีการลดระดับโรคโควิด-19 จาก โรคติดต่ออันตราย เป็น โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง รวมทั้งมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศกลับมาสดใสคึกคักอีกครั้ง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ทำการวิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และถือว่าเป็นธุรกิจดาวเด่นที่น่าจับตามองปลายปี 2565 จำนวน 10 ธุรกิจ และคาดว่า ปี 2566 ธุรกิจดังกล่าวก็ยังคงมีความโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทำการวิเคราะห์จากข้อมูลทางธุรกิจของกรม ตั้งแต่สถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ สถานที่ตั้ง งบการเงิน ผลการประกอบธุรกิจ ข้อมูลปัจจัยทางธุรกิจและเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกกรม 10 ธุรกิจ ที่น่าสนใจและมีความโดดเด่นช่วงปลายปี 2565 สามารถจัดประเภท
เช็กลิสต์ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2565 ใครจะอยู่ใครจะไป มาดูกัน! เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และหอการค้าไทย เปิดเผยถึง 10 ธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วง ปี 2565 ว่า จากการประเมินของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ พบว่า 10 ธุรกิจที่เป็นดาวเด่น ได้แก่ 1. ธุรกิจการแพทย์และความงาม และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์) 2. ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์) 3. ธุรกิจโลจิสติกส์ ดีลิเวอรี่ และคลังสินค้า ธุรกิจด้านฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี 4. ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ 5. ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ ธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ ธุรกิจขายตรง 6. ธุรกิจแปรรูปยาง เช่น ถุงมือยาง ถุงยาง เป็นต้น ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป 7. ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ youtuber และการรีวิวสินค้า ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ เช่น อาหารสัตว์สำเร็จรูป การดูแลสุขภาพสัตว์ 8. ธุรกิจบรรจุภัณฑ
เปิดตัวเลขลงทุน R&D อุตฯอาหาร ปิโตรเคมี การเงินประกันภัย สามธุรกิจดาวรุ่ง ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เปิดผลสำรวจตัวเลขค่าใช้จ่ายการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) หรือ R&D ในปี 2562 ที่ สอวช. ได้ทำร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พบว่า มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 193,072 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.14 ของจีดีพี เติบโตขึ้นร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นการลงทุนของภาคเอกชน 149,244 ล้านบาท และการลงทุนของภาครัฐ 43,828 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนภาคเอกชนต่อภาครัฐอยู่ที่ร้อยละ 77 และร้อยละ 23 ตามลำดับ ซึ่งการลงทุนของภาคเอกชนจะเกิดผลกับเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนภาครัฐจะเน้นไปที่การลงทุนการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) ในปีที่ผ่านมาเน้นการศึกษาวิจัยใน 4 เรื่องหลัก คือ 1. Quantum Technology 2. Space Science & Technology 3. High Energy Physics และ 4. Molecular Biology นอกจากนี้ภาครัฐยังได้ลงทุนกับการวิจัยขั้นพื้นฐาน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรวิจัยด้วย สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนวิจ
เช็กเลย 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2564 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ หอการค้าไทย เปิดผลสำรวจ ธุรกิจดาวรุ่ง-ธุรกิจดาวร่วง ประจำปี 2564 โดยพบว่า ธุรกิจดาวรุ่งมาแรง 10 อันดับ ได้แก่ 1. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 2. ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลาง หรือตลาดกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์) และธุรกิจทำคอนเทนต์ ยูทูบเบอร์ และการรีวิวสินค้า 3. ธุรกิจประกันภัย และประกันชีวิต 4. ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ 5. ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์และจัดการข้อมูล 6. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ 7. ธุรกิจบนสตรีตฟู้ด 8. ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ และดีลิเวอรี่ และธุรกิจด้าน Fintech และการชำระเงินฝากบนระบบเทคโนโลยี 9. ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น ร้านสะดวกซัก เครื่องเติมเงิน เครื่องเติมน้ำ เป็นต้น 10. ธุรกิจทางด้านกฎหมายและบัญชี และธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ แพ็กเกจจิ้ง ส่วน ธุรกิจดาวร่วง 10 อันดับ ปี 2564 ได้แก่ 1. ธุรกิจเช่าหนังสือ และธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสาร 2. ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ความจำ Storage Media ก็คือ CD
“ร้านเช่าหนังสือ” ธุรกิจดาวร่วง ปี 63! ผปก. เผย คนไม่เข้าร้าน เพราะหันไปอ่านฟรีในเน็ต จากงานวิจัยของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถึงธุรกิจดาวรุ่ง และธุรกิจดาวร่วง ในปี 2563 สำหรับธุรกิจดาวร่วงที่มาอันดับหนึ่ง นั่นคือ “ร้านเช่าหนังสือ” เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ สอบถามไปยัง ร้านมายด์บุ๊ค เผยว่า เปิดร้านมานานเกือบ 10 ปี แต่ต้องปิดลงได้ปีกว่า เพราะตั้งแต่มีโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ลูกค้าจึงหันไปอ่านฟรีทางช่องทางนั้นมากขึ้น ส่วนลูกค้าบางกลุ่มทำงานหนักขึ้นไม่มีเวลาอ่าน และหนังสือมีราคาแพงขึ้นด้วย ส่วนเจ้าของร้านวีบุ๊ค หนังสือให้เช่า คุณศรีตรัง วัย 57 ปี เผยว่า เปิดร้านเช่าหนังสือมา 30 ปี ยอมรับว่าตอนนี้ธุรกิจคือขาลง รายได้ลดไปครึ่งหนึ่ง ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเป็นร้านเก่าแก่ มีลูกค้าประจำ “ลูกค้าที่ร้านส่วนใหญ่เป็นคนวัยผู้ใหญ่ที่อยากละสายตาจากการอ่านหนังสือผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ อีกอย่างหนังสือสมัยนี้แพงคนไม่มีเงินซื้อ อย่างเล่มละ 790 บาท จะซื้อมาอ่านก็ยาก คนเลยยังเลือกมาเช่าที่ร้าน รายได้หลักก็มาจากนวนิยาย” เจ้าของร้านวัย 57 ปี ยังบอกอีกว่า ถ้าใครคิดจะเปิดร้