นักศึกษา
เปิด 3 เดือน เป็นไวรัลใน TikTok “ร้านเค้ก” สูตรลับจากครัวแม่ สองพี่น้องใช้เวลาช่วงปิดเทอม เริ่มธุรกิจนี้ เพราะอยากหาอะไรทำช่วงปิดเทอม ทำให้สองพี่น้องเกิดแนวคิด ส่งต่อความอร่อยสูตรเค้กของคุณแม่ให้ทุกคนได้กิน ผ่านร้าน Moreplease.bkk ร้านเค้กสุดปังบนโลกออนไลน์ ที่มอบประสบการณ์ให้ลูกค้าทั้งความอร่อย ความสนุก และยังสามารถสร้างคอนเทนต์ได้ด้วยการเคาะหน้าเค้กให้แตกก่อนกิน หรือที่เรียกว่า Knock Knock Cake (น็อก น็อก เค้ก) คุณแอ๊นท์-ญาธิป วชิรโภคา วัย 17 ปี เธอมีเวลาว่างถึง 6 เดือน จากการปิดเทอมเพื่อรอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ในคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนพี่สาว คุณอิ๊ก-ญาวีรินทร์ วชิรโภคา วัย 20 ปี ก็อยู่ในช่วงปิดเทอม ก่อนขึ้นปี 3 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อมีเวลาว่าง คนเป็นน้องสาวจึงชวนพี่สาวและคุณแม่มาร่วมกันทำธุรกิจร้านเค้ก “เรายื่นเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และจะเปิดเทอมในเดือนสิงหาคม ก็จะมีเวลาว่างประมาณ 6 เดือน เลยอยากหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์และได้ประสบการณ์ด้วย ซึ่งการทำธุรกิจ ก็เป็นสิ่งที่ยังไม่เคยทำ และรู้สึกว่ามันเป็น
มัดรวม 10 เมนูขายดีตอนเช้า ตอบโจทย์คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ลงทุนง่าย รายได้งาม มื้อเช้า สำคัญมาก หนุ่มสาวชาวออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่ข้าราชการ ต่างต้องรีบและเข้างานให้ทันเวลา ดังนั้น พวกเขาเหล่านี้มักจะหาสินค้า หรืออาหารที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ โอกาสดีของเหล่าพ่อค้าแม่ขาย หากเรารู้จักปรับตัว เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ ก็อาจจะช่วยสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมก็เป็นได้ โดยเริ่มต้นขายอยู่ที่บริเวณบ้าน คอนโด หรือแม้แต่ตลาดใกล้ๆ บ้าน และเริ่มจากสิ่งง่ายๆ ใกล้ตัว แล้วขยับขยายเมนูต่างๆ ออกไป หากใครที่กำลังกังวล หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีข้อแนะนำให้ทุกๆ คน กล้าที่จะเริ่มต้น และลงมือทำ วางแผนก่อนลงมือทำ 1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย เริ่มแรก พ่อค้าแม่ค้าจะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน จากที่บอกไปข้างต้น กลุ่มเป้าหมายของเราคือ พนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ หรือแม้แต่คนที่มีเวลาเร่งรีบในช่วงเช้า 2. เลือกเมนูที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้า เมื่อเรากำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้ว เราจะสามารถกำหนดเมนูอาหารที่เราจะขายได้ โดยดูว่ากลุ่มคนวัยนี้ เหมาะกับอาหารแบ
ไม่ใช่หน้าที่ แต่คือ Passion อธิการ ม.รังสิต เดินหน้าดูแลนักศึกษา-บุคลากร ทั้งกายใจ “เรื่องทางกายภาพ การบริการ และความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญ เราจะทำให้มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นพื้นที่ปลอดภัยทุกตารางนิ้ว นักศึกษาต้องได้รับการดูแลเหมือนลูกหลาน มีเครื่องอำนวยความสะดวก ตลอดจนมีสิ่งที่สนับสนุนการเรียน-การสอน ทุกระดับ” คือ คำกล่าวของ ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ครั้งเป็นประธานใน “งาน 40 ปี ม.รังสิต” เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้เป็นพ่อ ในฐานะ “ผู้ก่อตั้ง” มหาวิทยาลัยรังสิต อีกด้วย และเมื่อเร็วๆ นี้ มีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการดูแล นักศึกษา-บุคลากร-ชุมชน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ชื่อเรียกขาน RSU Clinic (อาร์เอสยู คลินิก) “มหาวิทยาลัยรังสิต มีบริการสุขภาพคือ คลินิกเวชกรรม และหน่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือคลินิกให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา ให้แก่นักศึกษาและบุคลากร โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ปัจจุบันความต้องการขอเข้ารับบริการเพิ่มมากขึ้น ด้วย 2 ปัจจัยสำคัญ” ดร.อรรถวิท เริ่มต้นให้ข้อมูล ก่อนเผย ปัจจัยแรก ได้แก่ จ
สร้างรายได้แบบปังๆ หลายล้านต่อเดือน หนุ่มนักศึกษาชาวเมกัน ทำอาชีพเสริมหาค่าเทอม ในปี 2017 Carter Osborne ได้ทำอาชีพเสริมเพื่อ “take the edge off” การจ่ายค่าเล่าเรียนสำหรับบัณฑิตวิทยาลัย แต่สุดท้ายมันเติบโตเป็นกิจการที่ใหญ่และมีกำไรมาก วันนี้จะมาเสนอเรื่องราวของ Carter Osborne โดยเริ่มสอนนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือในการเขียนเรียงความการสมัครเข้าวิทยาลัยในปี 2017 และปัจจุบัน ธุรกิจของ Osborne สร้างรายได้ประมาณ 110,000 ดอลลาร์ต่อปี ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท ซึ่งได้มากกว่างานเต็มเวลาของเขาอีกด้วย งานเสริมเริ่มต้นเมื่อไหร่ และพบแรงบันดาลใจจากอะไร? ค่าเล่าเรียนคือแรงผลักดัน เขาเริ่มเรียนปริญญาโทในปี 2017 และธุรกิจติวเตอร์นั้นเดิมทีตั้งใจให้เป็นแค่งานชั่วคราวเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าเล่าเรียนเท่านั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจจากคน 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คนแนะนำเขาในช่วงหลายสัปดาห์หลังจากที่เปิดตัวขึ้น คนหนึ่งคือครูสอนพิเศษเตรียมสอบในนิวยอร์กซึ่งช่วยทำให้เข้าใจระบบโลจิสติกส์การเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง อีกคนหนึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยาลัยในซีแอตเทิลซึ่งเคยให้การสนับสนุนเขาระหว่างขั้นตอนการสมัครเข้าเรีย
ส่องอาชีพเด็กไทย หากโดน ผปค.ไล่ออกจากบ้าน เพราะไปม็อบ โลกออนไลน์ มีการพูดถึงและให้ความสนใจกันไม่น้อย ในกรณี เยาวชนหญิง 2 ราย ยืนถือกล่องขอความช่วยเหลือในม็อบที่ห้าแยกลาดพร้าว โดยเขียนแผ่นป้ายกระดาษ มีใจความว่า ‘หนูโดนไล่ออกจากบ้าน เพราะมาม็อบ ตอนนี้หนูไม่มีเงินแล้วช่วยหนูด้วย‘ ผู้สื่อข่าวเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ สอบถามความเห็นของเยาวชนคนอื่นๆ ว่าด้วยเรื่อง หากโดนไล่ออกจากบ้านเพราะไปม็อบ จะทำอาชีพใดเลี้ยงตัวเอง คุณณัฐ นักศึกษาปี3 แสดงความเห็นว่า โดยส่วนตัวแล้ว หากเกิดเหตุการณ์นี้กับตนเอง สิ่งที่จะทำให้สามารถดำรงอยู่ได้คือ การรับจ้างทำการบ้านหรือเปิดติว และสมัครงานพาร์ทไทม์ เพราะอย่างน้อย ก็ทำให้อยู่ได้ ถ้า รู้จักหาลูกค้า อีกทั้งตนเรียนนิเทศ คณะที่เรียนก็สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้ ได้เหมือนกัน ถึงเเม้จะยังเรียนไม่จบ ทั้งการเป็นพรีเเลนด์ รับจ้างทำกราฟิก ตัดต่อ หรืองานเบื้องหลัง อีเว้นต่าง ๆ เพราะมีความเชื่ออีกอย่างว่า ผู้ใหญ่บางคน ก็อยากได้ความคิดของเด็ก ๆ เพื่อที่จะไปพัฒนาองค์กรเหมือนกัน คุณอุ้ม นักศึกษาคณะการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ วัย 22 ปี กล่าวว่า หากโดนที่บ้านไล่ออกมาเพรา
ชาวเน็ตวิจารณ์! คลิปนศ.ไทยขับรถอะไร จัดเต็ม-คำตอบทำเอาอึ้ง ลัมโบร์ 27 ล้านก็มา เป็นคลิปเรียกที่เรียกเสียงฮือฮา เมื่อเฟซบุ๊กเพจ GMM Grammy Official เผยคลิป ส่องนักศึกษาไทย ขับรถยี่ห้ออะไร ความยาว 1.42 นาที เนื้อหาเกี่ยวกับการสอบถาม นักศึกษาในบางมหาวิทยาลัย ว่าขับรถอะไรกันบ้าง คำตอบของนักศึกษาแต่ละคน ทำเอาชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวาง โดยในคลิป ได้ไปสอบถามนักศึกษาหลายคน ว่าขับรถรุ่นอะไรอยู่ โดยนักศึกษามีคำตอบที่หลากหลาย รถบางคันมีมูลค่าหลายแสน จนถึงหลายล้าน โดยรถที่มีราคาแพงสุดที่นักศึกษารายหนึ่งขับมา คือ คือลัมโบร์กีนี ฮูราคาน มูลค่าถึง 27 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยคลิปนี้มียอดวิวมากกว่า 2 ล้านวิว และมีการแชร์ไปหลายหมื่นครั้ง ที่มา ข่าวสดออนไลน์
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน เมื่อเวลาประมาณ 19.10 น. ที่เต๊นประชุมด้านหลังเต๊นท์ตำรวจสอบสวนกลาง บริเวณรอบสนามหลวง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหภาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงข่าวกรณีชาวต่างด้าว 3 คนล้วงกระเป๋านักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในการเดินทางมาร่วมพิธีซ้อมใหญ่การรับพระราชทานปริญญาบัตรของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ในวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการลักกระเป๋าขโมยโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวน พร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าตำรวจที่ดูแลกรณีการขโมยด้วยการล้วงกระเป๋าโดยเฉพาะจากสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อที่มาส่วนราชการบริเวณท้องสนามหลวง ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบได้ลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นผู้หญิงสาวชาวเวียดนาม 3 คน โดย 2 คนมีหนังสือเดินทาง และอีก 1 คนไม่มีหนังสือเดิน ซึ่งทั้ง 3 คนท่าทีมีพิรุธก่อนขอตรวจสอบค้นกระเป๋า จึงได้พบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องของนักศึกษาดังกล่าวที่ถูกล้วงกระเป๋าขโมยไป ผบช.น.กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้รับสารภา