น้ำมัน
สวีท มีท ผุด เพลิน น้ำมันพืชน้องใหม่ ลงสนามชิงแชร์ตลาด ร่วม 30,000 ล้าน ไม่หวั่นวิกฤต นายเอกภัท เตมียเวส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ เตมียเวส กรุ๊ป และประธานกรรมการ บริษัท สวีท มีท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย ถึงการเติบโตของตลาดน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคว่า ตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งตลาดและราคาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคทั่วโลกมีการเติบโตและมีระดับราคาที่สูงขึ้นในทุกกลุ่ม โดยปัจจัยหลักในปีนี้ เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ในภาพรวมไปทั่วโลกในหลายด้าน ทั้งภาคการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารและการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อการบริโภค ทำให้นอกจากจะมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ยังส่งผลทำให้เกิดความผันผวนด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้ผลกระทบโดยตรง ทั้งด้านปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มของประเทศผู้ผลิตหลักอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการในการบริโภคในช่วงเวลาดังกล่าว การฟื้นตัวของธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจอาหารหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย มีส่วนทำให้มีปริมาณการบริโภคสูงขึ้น และท
ปรับขึ้นทุกอาทิตย์! ผู้ผลิตและจำหน่าย น้ำมันพืช ขอขึ้นราคาขายอีก 2.50 และ 3 บาท ต่อขวด เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ เผยข่าว แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกและค้าส่ง ย่านบางบัวทอง เปิดเผยว่า วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ได้รับแจ้งจาก 3 บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์มและถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ขอขึ้นราคาขายอีก ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และสินค้ามีน้อย โดย น้ำมันปาล์มขวด ปรับขึ้นอีก 30 บาทต่อลัง (ลังละ 12 ขวด (ลิตร)) จากเดิมลังละ 780 บาท เป็น 810 บาท หรือ ขึ้น 2.50 บาทต่อขวด (ลิตร) จาก 65 บาท เป็น 67.50 บาทต่อขวด โดยราคาใหม่นี้เป็นช่วงราคาแค่วันที่ 4-8 พฤษภาคม เท่านั้น จากนั้นอาจปรับราคาอีกครั้ง ขณะที่ น้ำมันถั่วเหลือง ปรับขึ้น 10 บาทต่อลัง จาก 732 บาท เป็น 742 บาทต่อลัง หรือขึ้น 3 บาทต่อขวด จากเดิม 62 บาท เป็น 65 บาทต่อขวด และจำกัดจำนวนซื้อกับร้านค้า “ตอนนี้น้ำมันพืชขวด ปรับขึ้นแทบทุกอาทิตย์ ร้านไหนมีสต๊อกเก่า ก็ยังขายราคาเดิมได้ แต่ถ้าสั่งสินค้าล็อตใหม่ ราคาต้องปรับขึ้นตามต้นทุนใหม่”
สต๊อกขาดตลาดรับสงกรานต์! ห้าง จำกัดการซื้อ น้ำมัน-น้ำปลา ไม่เกิน 6 ขวดต่อ 1 ใบเสร็จ เว็บไซต์ ข่าวสดออนไลน์ เผยข่าว ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ถึงปริมาณสินค้าอุปโภคบริโภคภายในห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง พบว่า หลายสินค้าเริ่มไม่มีสินค้าวางบนชั้นวางสินค้าเพื่อจำหน่ายและสต๊อกขาด จากการสำรวจห้างค้าปลีกย่านบางเขน พบว่า น้ำมันพืชบรรจุขวด (1 ลิตร) ทุกชนิด ทั้งน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว เริ่มไม่มีสินค้าวางบนชั้นวางสินค้า ขณะที่บางห้างมีการนำสินค้าอื่นมาวางจำหน่ายแทน บางห้างจำกัดจำนวนซื้อต่อครอบครัวไม่เกิน 6 ขวด จากการสอบถามพนักงานในห้าง ได้รับการยืนยันว่า น้ำมันถั่วเหลืองที่สต๊อกหมดทุกยี่ห้อ โดยราคาสูงขึ้น เฉลี่ยขวดละ 61.00-65.00 บาท ส่วนน้ำมันปาล์มเฉลี่ย 64.00-69.75 บาท น้ำมันรำข้าวอยู่ที่ 66.00-69.00 บาท น้ำมันดอกทานตะวันอยู่ที่ 85 บาท นอกจากนี้ หลายสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มลดน้อยและหาซื้อยาก โดยเฉพาะน้ำปลายี่ห้อยอดนิยม ขวด 700 ซีซี ปิดป้ายจำกัดจำนวนการซื้อครอบครัวละไม่เกิน 6 ขวดต่อ 1 ใบเสร็จ และมีบางสินค้าปิดป้ายแจ้งว่าสต๊อกขาดชั่วคราว
วิกฤตความขัดแย้ง หนุนราคา “ทองคำ-น้ำมัน” ไปต่อ สร้างผลตอบแทนระยะยาว วันที่ 7 มีนาคม 2565 นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ทองคำ มีโอกาสจะเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ดีในปีนี้ เนื่องจากโลกมีความเสี่ยงเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างประเทศตลอดทั้งปี โดยประเมินความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงในระยะยาว แม้ว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายได้ แต่ทั่วโลกจะหันมาจับตาการเคลื่อนไหวของรัสเซียหลังจากนี้ “ประเด็นของรัสเซียกับยูเครน น่าจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ปัญหาความขัดแย้งของโลก ความไม่ลงรอยของกลุ่มผู้นำประเทศเดินหน้าเข้าสู่ภาวะตึงเครียด ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไปอีกนาน โดยผลการโหวตในสหประชาชาติได้สะท้อนแล้วว่า โลกถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายสหรัฐอเมริกา ที่มี NATO เป็นแกนนำกับฝั่งทางรัสเซีย ขณะที่ จีน ยังมีประเด็นอ่อนไหวของไต้หวันที่รอจะเกิดขึ้นอีก ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ทุกฝ่ายมองแล้วว่า เป็นตัวเลือกปลอดภัยอันดับที่หนึ่ง หากโลกเข้าสู่ภาวะไม่แน่นอน และน่าจะเป็นสินทรัพ
ขึ้นไม่แผ่ว! ราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซิน ปรับขึ้นอีก 60 สตางค์ น้ำมันดีเซลคงราคาเดิม ใครยังไม่เติม เข้าปั๊มเลย เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 เฟซบุ๊ก PTT Station เผยประกาศ การปรับขึ้นราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซิน โดยน้ำมันในกลุ่มเบนซินปรับขึ้น 60 สตางค์/ลิตร โดยในส่วนน้ำมันดีเซลคงราคาเดิม มีผลวันที่ 5 มี.ค. 65 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ดังนี้
ข่าวดีคนใช้รถ! ปตท. ประกาศ ลดราคาน้ำมันทุกชนิดลง 60 สตางค์ เพจ PTT Station ประกาศ ปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิดลง 60 สตางค์ ยกเว้น E85 ที่ลด 40 สตางค์ โดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ระบุ ข่าวดี!!! ส่งท้ายสัปดาห์ พรุ่งนี้มีการปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิด* ก่อนไปทำงานอย่าลืมแวะเติมน้ำมันที่ พีทีที สเตชั่น ให้เต็มถังกันนะครับ โดยน้ำมันกลุ่มดีเซล ปรับลด 60 สตางค์/ลิตร ส่วนน้ำมันในกลุ่มเบนซินปรับลด 60 สตางค์/ลิตร ยกเว้น E85 ปรับลด 40 สตางค์/ลิตร มีผลวันที่ 29 พ.ย. 64 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป *ราคาที่ประกาศเป็นราคาขายปลีกในกรุงเทพมหานคร ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น
ดีเดย์รับต้นเดือน บางจาก ปรับน้ำมันลงทุกชนิด สูงสุด 50 สต. เว็บไซต์ BangChak ระบุว่า ราคาน้ำมันในกลุ่ม แก๊สโซฮอล์และกลุ่มดีเซลทุกชนิด จะมีการปรับลดราคาลง -50 สต. ยกเว้น E85 -30 สต. ดังนี้
ค่ายน้ำมัน ขานรับดีเซล B10 สวนปาล์มเฮ ราคาพุ่ง 3.50 บาท หลังจากที่กระทรวงพลังงาน กำหนดให้ผู้ประกอบการค้าน้ำมันปรับเปลี่ยนประเภทน้ำมันไบโอดีเซล ด้วยการให้จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล B10 เป็นหลัก และให้น้ำมันไบโอดีเซล B7 และ B20 เป็นทางเลือก ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยเบื้องต้นรัฐบาลจะสนับสนุนเงิน “ชดเชย” ให้กับผู้ค้า เพื่อช่วยให้ราคาน้ำมันไบโอดีเซล B10 “ต่ำกว่า” น้ำมันดีเซลปกติลิตรละ 3 บาท จะส่งผลดีในแง่ของการเพิ่มปริมาณจำหน่าย B100 ที่นำมาผสมเป็น B10 มากขึ้น โดยด้านหนึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำมันปาล์มที่ล้นสต๊อกอยู่ในขณะนี้ถึง 557,000 ตัน (ณ เดือนกรกฎาคม 2563) และอีกด้านหนึ่งยังช่วยพยุงราคาปาล์มน้ำมันไม่ให้ตกต่ำ หรือตั้งเป้าหมายไว้ที่ กก.ละ 3.50 บาท และค่อยๆ ปรับให้เข้าไปใกล้กับราคาประกันรายได้ปาล์มที่กำหนดไว้ กก.ละ 4.50 บาทในที่สุด “กระทรวงพลังงาน” หนุน B10 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การส่งเสริมการผลิตไบโอดีเซลเป็นนโยบายที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ความสำคัญสนับสนุนให้มีการใข้น้ำมันดีเซล B10 เป็นหลัก เพื่อช่วยเหลือเก
เทคนิคก้นครัวที่ควรรู้ ทอดอาหาร ไม่ให้อมน้ำมัน ด้วย น้ำส้มสายชู เคล็ดลับในการทำอาหาร เป็นเทคนิคเรื่องง่ายแสนง่าย และใช้ของที่มีอยู่ในครัว ก็สามารถช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับสายทอดแล้ว การทานอาหารมันมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะในอาหารทอดนั้น มีน้ำมันสะสมในอาหารเยอะเกินไป เทสโก้ โลตัส มี เคล็ดลับ การทอดอาหารไม่ให้อมน้ำมัน สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ น้ำส้มสายชู เท่านั้นเอง โดยขั้นตอนมีดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 : ตั้งกระทะ เปิดไฟ จากนั้นใส่น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ใช้ตะหลิวเกลี่ยให้น้ำส้มสายชูทั่วกระทะ ขั้นตอนที่ 2 : รอให้น้ำส้มสายชูเดือด จนระเหยแห้งไปในกระทะ จากนั้นให้ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไป ปรับไฟสูง ขั้นตอนที่ 3 : รอให้น้ำมันร้อนได้ที่ ให้ใส่อาหารสำหรับทอดลงไป เมื่อทอดเสร็จเรียบร้อย นำขึ้นพักในตะแกรงหรือกระดาษทิชชูซับมัน ค่อยนำไปรับประทาน ข้อแนะนำ ห้ามใช้น้ำมันปาล์ม เทลงในกระทะก่อนใส่น้ำส้มสายชู เพราะอาจทำให้เวลาลงทอดกระเด็นเป็นวงกว้าง จะสกปรกและต้องทำความสะอาดเยอะ
ว่าด้วยเรื่อง “น้ำมัน” เลือกอย่างไร ให้ปลอดภัยต่อการบริโภค? น้ำมัน จัดอยู่ในหมวดของไขมันที่เป็นแหล่งพลังงานและยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการประกอบอาหาร ปัจจุบันมีน้ำมันหลากหลายประเภทให้เลือกบริโภค แม้ว่าจะมีความสำคัญต่อร่างกาย แต่หากรับประทานหรือเลือกใช้ไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดผลเสียให้กับร่างกายได้ ดังนั้น เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาหาข้อมูลของน้ำมันแต่ละอย่าง เพื่อเปรียบเทียบเและเลือกชนิดของน้ำมัน จะได้นำมาปรุงอาหารได้อย่างถูกต้อง โดย กระทรวงสาธารณสุข ได้เผยแพร่อินโฟกราฟิกให้ความรู้ในการเลือกน้ำมันไว้ง่ายๆ ดังนี้ 1.หากต้องการทำอาหารโดยการทอดหรือผัด น้ำมันที่ควรเลือกใช้คือ น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันเมล็ดทานตะวัน, น้ำมันคาโนลา (น้ำมันเพื่อสุขภาพที่ได้จากเมล็ดของต้นคาโนลา) และ น้ำมันเมล็ดชา 2.หากต้องการทำอาหารโดยการทอดแบบใช้น้ำมันเยอะหรือท่วมอาหาร และใช้อุณหภูมิสูงในการทอดนานๆ ควรเลือกใช้น้ำมันปาล์ม, น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันหมู และไม่ควรใช้น้ำมันทอดเยอะๆ นานๆ ซ้ำเกิน 2 รอบ 3. อาหารประเภทสลัด ควรใช้น้ำมันมะกอกในการป