น้ำมันพืช
สวีท มีท ผุด เพลิน น้ำมันพืชน้องใหม่ ลงสนามชิงแชร์ตลาด ร่วม 30,000 ล้าน ไม่หวั่นวิกฤต นายเอกภัท เตมียเวส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ เตมียเวส กรุ๊ป และประธานกรรมการ บริษัท สวีท มีท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย ถึงการเติบโตของตลาดน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคว่า ตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งตลาดและราคาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคทั่วโลกมีการเติบโตและมีระดับราคาที่สูงขึ้นในทุกกลุ่ม โดยปัจจัยหลักในปีนี้ เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ในภาพรวมไปทั่วโลกในหลายด้าน ทั้งภาคการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารและการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อการบริโภค ทำให้นอกจากจะมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ยังส่งผลทำให้เกิดความผันผวนด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้ผลกระทบโดยตรง ทั้งด้านปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มของประเทศผู้ผลิตหลักอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการในการบริโภคในช่วงเวลาดังกล่าว การฟื้นตัวของธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจอาหารหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย มีส่วนทำให้มีปริมาณการบริโภคสูงขึ้น และท
อุปทานโลกตึงตัว ดันราคา น้ำมันพืช เฉลี่ยทั้งปี 2565 อยู่ที่ 65-68 บาท/ขวด ราคาน้ำมันพืชในตลาดโลกปี 2565 ยังมีแนวโน้มขยับขึ้น จากปัญหาอุปทานตึงตัวจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน การระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มของผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของโลกอย่างอินโดนีเซีย ท่ามกลางสถานการณ์สินค้าทดแทนที่มีจำกัด และอุปสงค์ในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะความต้องการจากผู้ซื้อรายใหญ่อย่างอินเดียและจีน ซึ่งนอกจากปัจจัยเหล่านี้ที่กดดันราคาน้ำมันพืชในตลาดโลกและไทยแล้ว ยังมีปัจจัยในประเทศ ได้แก่ ความต้องการน้ำมันพืชหลักในไทยยังอยู่ในระดับสูง ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันของไทยที่ใกล้จะหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว สต๊อกปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงเหลืออยู่ในระดับต่ำกว่า Safety Stock และต้นทุนการผลิตที่ขยับสูงขึ้น ซึ่งกดดันราคานำมันพืชในไทยด้วย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด ในช่วงที่เหลือปี 2565 ราคาน้ำมันพืชหลักในไทยอย่าง น้ำมันปาล์ม ยังมีโอกาสขยับสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วง 4 เดือนแรกปี 2565 และทำให้ราคาน้ำมันปาล์ม (สำเร็จรูปบรรจุขวด) เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 65-68 บาท/ขวด (1 ลิตร) เพิ่มขึ้น 35-41% (YoY) จากปี 2564 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 48
ปรับขึ้นทุกอาทิตย์! ผู้ผลิตและจำหน่าย น้ำมันพืช ขอขึ้นราคาขายอีก 2.50 และ 3 บาท ต่อขวด เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ เผยข่าว แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกและค้าส่ง ย่านบางบัวทอง เปิดเผยว่า วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ได้รับแจ้งจาก 3 บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์มและถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ขอขึ้นราคาขายอีก ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และสินค้ามีน้อย โดย น้ำมันปาล์มขวด ปรับขึ้นอีก 30 บาทต่อลัง (ลังละ 12 ขวด (ลิตร)) จากเดิมลังละ 780 บาท เป็น 810 บาท หรือ ขึ้น 2.50 บาทต่อขวด (ลิตร) จาก 65 บาท เป็น 67.50 บาทต่อขวด โดยราคาใหม่นี้เป็นช่วงราคาแค่วันที่ 4-8 พฤษภาคม เท่านั้น จากนั้นอาจปรับราคาอีกครั้ง ขณะที่ น้ำมันถั่วเหลือง ปรับขึ้น 10 บาทต่อลัง จาก 732 บาท เป็น 742 บาทต่อลัง หรือขึ้น 3 บาทต่อขวด จากเดิม 62 บาท เป็น 65 บาทต่อขวด และจำกัดจำนวนซื้อกับร้านค้า “ตอนนี้น้ำมันพืชขวด ปรับขึ้นแทบทุกอาทิตย์ ร้านไหนมีสต๊อกเก่า ก็ยังขายราคาเดิมได้ แต่ถ้าสั่งสินค้าล็อตใหม่ ราคาต้องปรับขึ้นตามต้นทุนใหม่”
น้ำมันพืชใช้แล้วจากการทอดไข่ ทอดปาท่องโก๋ และประกอบอาหารอื่นๆ คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่นำกลับมาใช้ซ้ำ ซึ่งมีอันตรายจากสารก่อมะเร็ง ขณะที่บางคนเททิ้งท่อระบายน้ำโดยไม่ได้คิดอะไร ซึ่งเป็นการสร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตามมา มีคราบน้ำมันอุดตันตามท่อระบายน้ำ คำถามคือ.. แล้วจะให้ทิ้งที่ไหน? กำจัดยังไง? หรือตามร้านฟาสต์ฟู๊ดที่วันๆใช้เป็น 10 ลิตร มันหายไปไหนหมด? บทความนี้มีคำตอบ ขอแนะนำ “โครงการรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วเพื่อผลิตไบโอดีเซล” โดยบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ทำมาตั้งแต่ปี2550 ถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์และน่าสนใจมากทีเดียว โดยบางจากเปิดรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วเพื่อนำไปผลิตเป็นพลังงานเชื้อเพลิงไบโอดีเซล เพื่อนำกลับมาให้รถที่ใช้น้ำมันดีเซลสามารถใช้ใหม่ได้อีก ประหยัดการนำเข้า รักษาสิ่งแวดล้อม และเพื่อสุขภาพที่ดีของเราอีกด้วย ปัจจุบัน บางจาก มีจุดรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วตามปั๊มน้ำมันบางจาก ประชาชนสามารถนำน้ำมันพืชไปขายได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. นำน้ำมันพืชใช้แล้วบรรจุใส่ขวดให้เรียบร้อย แล้วรวบรวมนำมาที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่รับซื้อ 2. เมื่อมาถึงจุดรับซื้อ จะมีป้ายระบุราคาร