ประธานองคมนตรี
เปิดประวัติชีวิต พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2463 ที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) และนางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์) เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน เข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2469 ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา หมายเลขประจำตัว 167 สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2478 เข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7-8 แผนกวิทยาศาสตร์ ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย หมายเลขประจำตัว 7587 ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ณ โรงเรียนเท็ฆนิคทหารบก (ปัจจุบัน คือ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) เมื่อปี พ.ศ.2481 โดยเข้ารับการศึกษาเป็นรุ่นที่ 5 มีเพื่อนร่วมรุ่น 55 นาย สำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2484 ใช้เวลาเพียง 3 ปี ไม่ครบ 5 ปี ตามหลักสูตร เนื่องจากเกิดกรณีพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับฝรั่งเศสขึ้น จึงจำเป็นต้องให้นักเรียนนายร้อยออกรับราชการก่อนกำหนด พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เริ่มรับราชการเป็นผู้บังคับหมวด ประจำกรมรถรบ เมื่อวันที่ 3 มกรา
‘ป๋าเปรม’ รับ ห่วงบ้านเมือง ขอยืนข้างประเทศ กล่าวติดตลก อยู่ 120 ปี คงต้องคลาน ให้พรทหารม้าอายุยืนยาว มุ่งมั่นถวายความจงรักภักดีปกป้องชาติบ้านเมือง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดให้สื่อมวลชนขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ โดยสื่อมวลชนได้อวยพรให้ป๋าเปรมอายุยืน 120 ปี โดยพล.อ. เปรม บอกว่า เราต้องอายุยืนสิ ในเมื่อเราอวยพรให้คนอื่นอายุยืน เราก็ต้องอายุยืนด้วย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าจะต้องอยู่ให้บ้านเมืองสงบก่อน พล.อ. เปรม ตอบว่า ขณะนี้ยังไม่สงบหรืออย่างไร ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจด้านการเมืองเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง บางทีก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง ก็ขอให้พวกเราช่วยกันรักษาชาติบ้านเมือง สื่อมวลชนสำคัญที่สุด ตนก็ยังรู้สึกเป็นห่วงชาติบ้านเมือง เมื่อถามว่า พล.อ.เปรมเคยบอกว่า จะอยู่ให้อายุยืนถึง 120 ปี พล.อ. เปรม กล่าวติดตลกว่า ถ้าอายุ 120 ปีก็คงต้องคลานแล้ว แต่อย่างไรก็จะอยู่เคียงข้างประเทศชาติบ้านเมือง หลังจากนั้น พล.อ. เปรมใช้กระบอกฉีดน้ำผสมน้ำอบไทยฉีดให้สื่อมวลชน ถามว่า เย็นไหม ก่อนจะเดินกลับเข้าไปภายในบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 มีประกาศแต่งตั้งประธานองคมนตรี ระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ประธานองคมนตรี ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรีและทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งประธานองคมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ประกอบกับมาตรา 12 มาตรา 13 และมาตรา16 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานองคมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่มา : มติชนออนไลน์