ผีน้อย
ประกาศอีกครั้ง! เปิด 40 อาชีพที่ต่างด้าวห้ามทำ สงวนเฉพาะคนไทย จากกรณีข่าว บุกรวบผีน้อยเกาหลีลักลอบเข้ามาทำงานเป็นช่างตัดผมและเสริมสวยในประเทศไทย โดยถือวีซ่าท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่การเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย แต่อาชีพที่เลือกทำนั้นเป็นอาชีพสงวนของคนไทย หรือ ‘อาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ’ ซึ่งตามประกาศของกระทรวงแรงงาน พ.ศ. 2563 กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ (อาชีพสงวนเฉพาะคนไทย) ระบุว่า บัญชีที่ 1 งานที่ห้ามคนต่างด้าวทำเด็ดขาด 27 งาน ได้แก่ งานแกะสลักไม้ งานขับขี่ยานต์ยนต์หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกลในประเทศ (ยกเว้นงานขับขี่เครื่องบินระหว่างประเทศหรือขับรถยก หรือ forklift) งานขายทอดตลาด งานเจียระไน ขัดเพชรหรือพลอย งานตัดผม งานดัดผม หรือเสริมสวย งานทอผ้าด้วยมือ งานทอเสื่อหรืองานทำเครื่องใช้ด้วยกก หวาย ปอ ฟาง ไม้ไผ่ เยื่อไม้ไผ่ พืชหญ้า ขนไก่ ก้านทางมะพร้าว เส้นใย ลวด หรือวัสดุอื่นๆ งานทำกระดาษสาด้วยมือ งานทำเครื่องเขิน งานทำเครื่องดนตรีไทย งานทำเครื่องถม งานทำเครื่องทอง เงิน หรือนาก งานทำเครื่องลงหิน งานทำตุ๊กตาไทย งานทำบาตร งานทำผ้าไหมด้วยมือ งานทำพระพุทธรูป
รมช.สาธิต เตือนผีน้อยที่ไม่เข้าพื้นที่ควบคุมโรค รายงานตัวใน 3 วัน ฝ่าฝืนถูกดำเนินคดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตือน แรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้ ที่ยังไม่เข้ารับการเฝ้าระวังอาการในพื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐกำหนด รายงานตัวด่วนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดใกล้บ้านภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ 2558 ส่วนที่ฐานทัพเรือสัตหีบ มีแรงงานนอกระบบเข้ารับการเฝ้าระสังเกตุอาการล็อตแรก 60 คน วันที่ 8 มี.ค. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการรับชาวไทยจากเกาหลีใต้เข้ารับสังเกตอาการที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันจัดพื้นที่ควบคุมโรคเพื่อสังเกตอาการเริ่มป่วย รองรับแรงงานนอกระบบที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้เพื่อสังเกตอาการ ตามข้อสั่งการของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้การดูแลคนไทยกลุ่มนี้อย่างดีที่สุด ให้รับตัวไว้เฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน จนพ้นระยะฟักตัวของโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และความปลอดภัยของคนในประเทศ โดยจะนำแรงงานนอกระบบที่เ
ตัวอย่างที่ดี! สาวไทยกลับจากเกาหลี กักตัวเองในสวน 1 เดือนอัพเดตชีวิตล่าสุดมีไฟฟ้าใช้แล้ว เป็นเรื่องราวน่าชื่นชม เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก MissyNok Chamaiporn ซึ่งเป็นสาวไทยที่ไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้นาน 4 ปี 7 เดือน เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากสัญญาจ้างสิ้นสุดลง ไม่ได้หนีโรคระบาดแต่อย่างใด โดยหญิงสาวรายนี้ได้โพสต์ว่า หลังเดินทางมาถึงประเทศไทย ทางครอบครัวได้มารับที่สนามบิน และให้นั่งกระบะหลัง จากนั้นได้พาไปยังที่พักในสวนที่จัดเตรียมไว้สำหรับสำหรับกักตัวเฝ้าดูอาการมีระยะห่างจากบ้านและชุมชน ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเธอระบุว่า จะกักตัวเองเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเธอได้อัพเดตชีวิตประจำวันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว มีไฟฟ้าใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. ล่าสุดวันนี้ (8 มี.ค.) เข้าสู่วันที่ 7 ของการกักตัว “วันที่ 7 ของการกักตัวเอง วันนี้ตื่นเช้ามากมาตอบข้อความคอมเม้นท์พี่ๆ น้องทุกท่าน ต้องขออภัยในความล่าช้าจ้า กิจวัตรประจำวันเช่นเคย ให้ข้าวไก่ พรวนดิน รดน้ำต้นไม้ วันนี้วันเสาร์ ผู้คนอาจนอนพักผ่อนตื่นสาย น้ำจึงไหลแรงดี สะใจฉันล่ะ! แม่บอกว่าต้นไม้ถ้ามีคนอยู่ใกล้ชิดมันจะงาม มันไม่เหงา ม
อยู่เมืองไหนอยากตามไป…! ชุมชน “ผีน้อย” ระอุ ชวนไล่ล่าสาวโพสต์คลิปด่ากราด “ผีน้อย” – จากกรณีคลิปฮอต แชร์กันทั่วบ้านทั่วเมือง ที่สาวไทยรายหนึ่งออกมาโพสต์ด่ากราด “เป็นผีน้อยแล้วหนักหัวใคร” และขอหนีไวรัสโควิด-19 จากประเทศเกาหลีใต้ กลับมายังบ้านเกิดนั้น ล่าสุด มีรายงานข่าวจากชุมชนคนไทยในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีทั้งผู้ที่เดินทางไปทำงานอย่างถูกกฎหมาย และหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือที่เรียกกันว่า “ผีน้อย” ว่า กำลังเกิดกระแสความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับพฤติกรรมการโพสต์ของหญิงสาวคนดังกล่าว ทั้งยังมีการระบุว่า ไม่ใช่ “ผีน้อย” ทุกตัว ที่ต้องการให้รัฐบาลไทยเข้ามาช่วยเหลือ “ในไลน์กลุ่ม คนไทยที่ทำงานในเกาหลี กำลังพากันต่อว่า ผีน้อย ที่ออกมาโพสต์คลิป เพราะการไปพูดแบบนั้น คนที่เกลียดอยู่แล้ว ยิ่งจะเกลียดผีน้อยเข้าไปอีก บางคนถึงกับถามไถ่ นางอยู่เมืองไหน จะพากันไปไล่กระทืบ” รายงานข่าว ระบุ ก่อนบอกด้วยว่า เมืองที่ “ผีน้อย” ของไทย นิยมไปทำงาน คือ เมืองซูวอน กับ เมืองอันซาน ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงโซล และค่อนข้างห่างจากเมืองแทกู-คยองซัง ที่กำลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนงานที่ “ผีน้อย”
ไม่สนกักตัว! ผีน้อยกลับจากเกาหลี โผล่ร้านหมูกระทะ-ลานเบียร์ เดือดร้อนต้องปิดร้านฆ่าเชื้อ ไม่สนกักตัว – กำลังเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล ถึงพฤติกรรมของผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะแรงงานไทยจำนวนมากจากประเทศเกาหลีใต้ ที่กลับมายังประเทศไทยแต่กลับออกไปใช้ชีวิตปกติ พบปะผู้คน อยู่ในสถานที่สาธารณะที่มีคนเยอะๆ โดยชาวเน็ตตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบต่อสังคมจากกลุ่มคนเหล่านี้ ในช่วงที่ไวรัสระบาด โดยพฤติกรรมแรกที่มีการแชร์ต่อๆ กันมาจากผู้พบเห็น เป็นพฤติกรรมของหญิงรายหนึ่ง ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แม้จะไม่มีไข้และผ่านการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจากสนามบินแล้ว แต่อยู่ในกลุ่มฝ่าฝืนการขอความร่วมมือกักตัว 14 วัน ออกไปทานหมูกระทะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย กระทั่งเวลาต่อมา เจ้าของร้านหมูกระทะดังกล่าวทราบข่าว จึงสั่งปิดร้านด่วน 1 วัน เพื่อทำการทำความสะอาดร้านป้องกันไวรัส พร้อมโพสต์ขออภัยลูกค้าที่จองโต๊ะมาล่วงหน้า รวมถึงขอความเห็นใจจากคนกลุ่มเสี่ยง ในการเข้ารับบริการในพื้นที่สาธารณะ เพื่อป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นในวงกว้
กลับมาแล้ว 3 พันกว่า! ทูลกระหม่อมฯ ทรงแนะ ตามหาผีน้อยกลับไทย ช่วงโควิด-19 ระบาด ไวรัสโควิด-19 – ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องไวรัสโควิด-19 ในอินสตาแกรมอีกครั้งว่า Good morning วันสีส้มค่ะ ได้ติดตามสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในเกาหลีใต้และฮ่องกง ณ ตอนนี้สถานการณ์ที่เกาหลียังวิกฤตมาก และยังไม่ peak ส่วนเรื่อง “ผีน้อย” ตามข่าวทราบว่ารัฐบาลเกาหลีใต้อนุญาตให้คนต่างชาติที่อยู่เกาหลีใต้โดยไม่ถูก blacklisted ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 จึงมีคนไทยเหล่านี้แสดงความจำนงจะกลับไทย 5,000 กว่าคน แต่ดิฉันได้ทราบว่าคนกลุ่มนี้ทยอยกลับกันมาแล้ว 4,700 กว่าคน! และคนที่กลับมาช่วงระบาดของ COVID-19 นี้ก็มี 3,000 กว่าคนแล้ว จะตามกันอย่างไร คงเป็นงานหนักพอสมควร และยังเหลือที่จะกลับมาอีก 1,200 คน เรามาคลายเครียดพากันไปทานข้าวอร่อยๆ ดีกว่า เพราะที่เมืองไทยยังไม่ห้ามไปไหนเหมือนที่อื่นๆ เราก็ใส่ masks พอไปถึงห้องทานข้าวก็ถอด masks ได้ เพราะที่ร้านนี้คือร้าน “The Most” ถนนราชพฤกษ์ อาหารอร่อยมากๆ #ไม่ว่าง
ผีน้อยฟังทางนี้! ตม.เกาหลี ไฟเขียวกลับไทย ไม่ติดแบล็กลิสต์-ไม่เสียค่าปรับ ถึง มิ.ย. 63 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. เฟซบุ๊กเพจ สำนักงานแรงงานไทย ณ กรุงโซล Office of Thai Labour in Seoul เผยแพร่ประกาศ ประกาศมาตรการ ตม.เกาหลีใต้ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562 รายละเอียดระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ถึง 30 มิถุนายน 2563 เปิดให้รายงานตัวกลับโดยสมัครใจ โดยไม่เสียค่าปรับ และไม่ห้ามเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะต้องจ่ายค่าปรับ เมื่อรายงานตัวเดินทางกลับ โดย 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2563 จะเสียค่าปรับ 30% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป จะเสียค่าปรับ 50% ผู้ที่ถูกจับ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 จ่ายค่าปรับตามระยะเวลาที่อยู่เกินวีซ่า ผู้ที่ถูกจับ และอยู่เกินวีซ่า 3 ปีขึ้นไป จะเสียค่าปรับ 20 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 500,000 บาท ผู้ที่จ่ายค่าปรับก่อนกลับประเทศ ไม่ห้ามเดินทางเข้าประเทศ (ตม. จะตรวจสอบก่อนอนุญาตให้เข้าประเทศ) ผู้ที่เดินทางกลับ และไม่จ่ายค่าปรับ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2563 จะห้ามเข้า 1-10 ปี ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป จะห้ามเข้า 3-10 ปี ตั้งแต่
บิ๊กตู่ จับมือ มุน แช-อิน ลั่นจัดการปัญหาผีน้อยหนีทำงานผิดกฎหมาย จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายมุน แช-อิน (H.E. Mr. Moon Jae-in) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 6 ฉบับ จากนั้น ผู้นำทั้งสองร่วมกันแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยตอนหนึ่งได้ระบุถึงประเด็นแรงงานไทย “สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้นั้น ตนย้ำกับท่านประธานาธิบดีมุนฯ ว่า รัฐบาลไทยสนับสนุนให้แรงงานไทยเดินทางไปทางานในเกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจจัดส่งแรงงานไปทำงานในเกาหลีใต้ตามระบบจ้างแรงงานต่างชาติระหว่างสองประเทศ ที่มีอยู่ และไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย”นายกรัฐมนตรี
เกาหลีเข้ม ส่งคนไทยกลับยกลำ ไม่ให้เข้าประเทศ หลังผีน้อยอาละวาดหนัก! การเดินทางไปทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ได้รับการแจ้งเตือนอยู่เสมอ โดยหลายประเทศที่อนุญาตให้เดินทางโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ถือเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมในกลุ่มแรงงานที่ลักลอบเดินทางไป จนทำให้หลายประเทศเริ่มมีความเข้มงวด เช่น เกาหลีใต้ที่กวาดล้างอย่างจริงจัง และมีการนิรโทษกรรมให้แรงงานได้เดินทางกลับประเทศและจะไม่บันทึกเป็นบัญชีดำ ซึ่งก็มีแรงงานเดินทางกลับประเทศจำนวนหนึ่ง โดยล่าสุดโลกออนไลน์มีการแชร์เหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากช่วงสงกรานต์ โดยพบว่า คนไทยที่เดินทางเข้าประเทศเกาหลีโดนส่งกลับเกือบทั้งลำ นอกจากนั้นในเวลาต่อมา ยังคงพบว่า มีคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศเกาหลี ยังคงติด ตม. อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก ทางการเกาหลีมีความเข้มงวดอย่างมาก จึงมีการแจ้งเตือนผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงาน ซึ่งนอกจากจะเสียเงิน แล้วยังอาจโดนดำเนินคดีอีกด้วย https://www.facebook.com/littleprincessofandaman/posts/1026295497567865
สาวเซ็ง เซ็นรับรองเพื่อนเข้าเกาหลี สุดท้าย หนีพร้อมแฟนหนุ่มเป็นผีน้อย ทำติดบัญชีดำไปด้วย เรื่องการหนีไปทำงานต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่แจ้งเตือนกันมาโดยตลอด ซึ่งประเทศที่แรงงานนิยมเดินทางไปจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เป็นต้น โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ พบว่า มีการนิรโทษกรรมแรงงานให้เดินทางมารายงานตัวกลับประเทศเพื่อจะได้ไม่มีประวัติติดตัวโดนขึ้นบัญชีดำ หรือ โดนดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งหลังจากพ้นระยะเวลาผ่อนผัน ทางประเทศเกาหลีก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป โดยพบว่า มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์ประสบการณ์ ในกลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวเกาหลี โดยระบุว่า ได้เดินทางเข้าประเทศเกาหลี แต่พบว่าเพื่อนที่ไปด้วยและแฟน ไม่ผ่าน ตม. ทำให้เธอต้องไปเซ็นรับรองให้ เพราะเพื่อนรับปากว่า จะกลับพร้อมกันไม่หนี แต่เมื่อออกไปซื้อของ ก็กลับส่งข้อความมาหาว่า จำเป็นต้องหนีไปทำงาน ทำให้เธอต้องกลายเป็นคนที่รับความเสี่ยงโดนบัญชีดำ เพราะเป็นคนเซ็นรับรอง จึงนำเรื่องมาเตือนคนอื่นๆ ต่อไป โดยข้อความระบุว่า “เมื่อวานมาเกาหลี เพื่อนกับแฟนเขาไม่ผ่าน เรารับรองให้ รับปากว่าจะกลับพร้อมกัน พอตอนเย็นเราออกไ