ผู้สูงอายุ
วัยเกษียณ ยังมีไฟ! โอกาสทำงานมาแล้ว รวมบริษัทเปิดรับสมัครงานผู้สูงวัย พร้อมช่องทางการสมัคร วัยเกษียณ ยังไม่หมดไฟ! หลายบริษัทและองค์กรใหญ่ เปิดรับสมัครงานผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สำหรับใครที่สนใจมาดูรายละเอียดกันได้เลย 1. ซีเจ มอร์ เปิดรับสมัคร ซีเจ ซีเนียร์ พลัส หน้าที่ความรับผิดชอบ พนักงานร้านกาแฟ Bao Café หรืองานอื่นๆ ใน CJ อัตราค่าจ้าง 50 บาทต่อชั่วโมง คุณสมบัติ อายุ 55 ปีขึ้นไป วุฒิการศึกษา ป.6 ขึ้นไป หรืออ่านออกเขียนได้ ลักษณะการทำงาน พนักงานพาร์ทไทม์ ทำงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ตามตารางที่ผู้จัดการสาขากำหนด สวัสดิการ ทำงานวันหยุด กองทุนเงินทดแทน ตรวจสุขภาพประจำปี ประกันชีวิต หมายเหตุ ตรวจสุขภาพประจำปี จะได้รับกรณีที่ทำงานต่อเนื่อง 1 ปี และได้รับการต่อสัญญา ส่วนประกันชีวิตจะได้รับกรณีทำงานต่อเนื่อง 1 เดือนขึ้นไป สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ : 02-026-2233 ไลน์ : @CJMORE 2. บิ๊กซี เปิดรับสมัครผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผ่านโครงการ “พี่ใหญ่ไฟแรง” คุณสมบัติ เพศชาย-หญิง อายุ 60 ปีขึ้นไป วุฒิ ม.3 – ปริญญาตรี มีสัญชาติไทย สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีใจรักงานบริการ สามารถทำงานเป็นกะได้
รวมธุรกิจติดเทรนด์ รองรับสังคมสูงวัย โอกาสเติบโตสูง (อัปเดต 2025) เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา โลกของเรามีประชากรประมาณ 5,735 ล้านคน โดยประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 540 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 9 ของประชากรโลก จนในปี 2558 ประชากรโลกมีจำนวน 7,349 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 901 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 12 จึงกล่าวได้ว่า “ประชากรโลกได้กลายเป็นสังคมสูงวัยแล้ว” สำหรับประชากรไทย ข้อมูลจาก กรมกิจการผู้สูงอายุ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ระบุว่า ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 65,969,270 คน และมีจำนวนผู้สูงอายุประมาณ 13,444,127 คน คิดเป็น 20.69% โดยภาคกลางเป็นอันดับ 1 ของจำนวนผู้สูงอายุที่มากสุด คือ 4,776,960 คน หากเปรียบเทียบจำนวนผู้สูงอายุในไทย เมื่อเดือนธันวาคมปี 2566 มีจำนวนผู้สูงอายุอยู่ที่ 13,064,929 คน จากข้อมูลข้างต้น เป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้สูงอายุในประเทศไทย มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการคาดคะเนว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะลดลง จาก 66 ล้านคน จะเหลือเพียง 60 ล้านคน เพราะอัตราการเกิดมีน้อย แต่ประชากรผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน ดังนั้
ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ จะเริ่มตอนไหน? สูงวัยไม่ใช่ปัญหา คุณแม่วัย 63 บาริสต้ามือใหม่ หัวใจเกินร้อย “Mamma slooowbar ร้านเล็กๆ ของบาริสต้ามือใหม่วัยเกษียณ” ร้านกาแฟแห่งแรงบันดาลใจ ร้านที่เป็นเสมือนตัวอย่างของคนที่กำลังจะหมดไฟ แต่กลับมามีเชื้อเพลิงที่งดงามอีกครั้ง ไม่ผิดที่คนอายุน้อยจะเรียนรู้ได้ไว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนอายุมากจะเรียนรู้เพิ่ม อย่างคุณแม่ตุ๊กตา-ลัดดา วงศ์มณี อายุ 63 ปี ที่เกษียณจากพนักงานบัญชี แล้วเดินตามล่าหาความฝัน พร้อมด้วยลูกสาวคนโปรด คุณไอซ์-วิจิตรา วงศ์มณี อายุ 35 ปี ต่างคนต่างมีความฝันเป็นของตัวเอง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะที่ควร ก็ลงมือทำทันที จนเกิดมาเป็น Mamma slooowbar พร้อมสโลแกนที่ว่า #สโลว์แน่เพราะแม่ทำช้า แต่ก่อนจะมาเป็นร้านกาแฟสุดประทับใจนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนวัยเกษียณ เกษียณยังมีไฟ เรื่องราวต่างๆ ของเขาทั้งคู่เริ่มต้นจากที่คุณแม่ตุ๊กตาเป็นพนักงานบัญชี ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีความคิดที่จะเปิดร้านกาแฟเลยสักนิด แต่ก็กินกาแฟเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งกาแฟที่คุณแม่ตุ๊กตากินนั้นจะเป็นกาแฟโบราณบ้าง กาแฟแบบซองทั่วๆ ไปบ้าง แต่เมื่อพอเออร์ลี่ก่อนเกษียณก็ได้หันม
“ผู้สูงอายุ” เตรียมรับเงิน 10,000 บาท ก่อนตรุษจีน เตรียมตรวจสอบรายชื่อ 20-21 ม.ค. นี้ ผ่านแอปทางรัฐ วันที่ 7 ม.ค. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ว่า ขณะนี้ขั้นตอนเรียบร้อยหมดแล้ว ยืนยันว่าจะมีการโอนเงินให้ก่อนวันที่ 29 ม.ค. นี้ ขั้นตอนนี้คือ การส่งข้อมูลจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA มาที่กระทรวงการคลัง เพื่อตรวจสอบข้อมูล คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ข้อมูลทั้งหมดก็จะเรียบร้อย จากนั้นกระทรวงการคลังก็จะใช้เวลาในการจัดการอีก 3-4 วัน แล้วจึงส่งให้กรมบัญชีกลาง เพื่อตรวจสอบข้อมูล ก่อนโอนเงินอีก 7-8 วัน “เงิน 10,000 บาทน่าจะพร้อมแจกได้ก่อนวันที่ 29 ม.ค. แน่นอน ส่วนรัฐบาลจะแจกเงินวันไหนขอเวลานัดหมายกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง” นายจุลพันธ์ กล่าว นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนวิธีการประกาศรายชื่อ จะใช้ช่องทางของแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เนื่องจากเป็นช่องทางที่ลงทะเบียน ฉะนั้น กระทรวงการคลังจะส่งผลการตรวจสอบไปให้กับทาง DGA เพื่อให้นำเข้าระบบแอปทางรัฐ คาดว่าจะตรวจส
เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ออกหน่วยบริการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุต่อเนื่อง ปีที่ 6 เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม และร้านหอแว่น จัดกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการออกหน่วยตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุ ปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมสุขภาพสายตาและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงผู้สูงอายุในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ในการดูแลของกรมกิจการผู้สูงอายุ เป้าหมาย 10,000 รายในปี 2568 นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม และหอแว่น จัดกิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมสุขภาพสายตาและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจากร้านหอแว่นร่วมตรวจวัดและให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสายตา พร้อมมอบแว่นตาที่เหมาะสมให้กับผู้สูงอายุแต่ละราย ดวงตาและการมองเห็นที่ดีขึ้นไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การหกล้ม แต่ยังสนับสนุนการอ่านหนังสือและกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงจากโรคอัลไซเ
แม็คโคร-โลตัส รับรางวัลองค์กรต้นแบบ สร้างงาน สร้างรายได้ ผู้สูงอายุ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลองค์กรต้นแบบส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ผู้สูงอายุ ปี 2567 จาก นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมี นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานสื่อสารองค์กร และพนักงานในโครงการ “60 ยังแจ๋ว” เป็นผู้แทนรับรางวัล ร่วมด้วย นางสาวอัญชลี จิตรเสนาะ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุให้เกียรติเข้าร่วมงานนี้ พร้อมเยี่ยมชมการทำงานผู้สูงอายุ ณ โลตัส สุขุมวิท 50 รางวัลนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นองค์กรต้นแบบของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่มุ่งสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุในทุกมิติ ผ่านโครงการ “60 ยังแจ๋ว” ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1. การจ้างงานผู้สูงอายุปฏิบัติงานในสาขาของแม็คโครและโลตัส 2. “เถ้าแก่วัยเก๋า” ฝึกอาชีพ สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุที่ต้องการทำงานอิสระ หรือมีธุรกิจของตนเอง 3. “ตลาดสุขใจวัยเก๋า” เปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าในแม็คโคร-โลตัส ให้กับพ
เคาะแล้ว! แจกเงิน 10,000 เฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เตรียมรับก่อนตรุษจีน วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงผลประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งแรก ว่า ที่ประชุมในหลักการ เห็นชอบจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยเป็นกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้กับแอปพลิเคชันทางรัฐและได้รับการตรวจสอบคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดเรียบร้อยแล้ว โดยกลุ่มนี้มีประมาณ 3-4 ล้านคน คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเปราะบางเช่นกันที่จะต้องรีบดำเนินการ โดยคาดว่าสามารถจ่ายได้ก่อนเทศกาลตรุษจีน ส่วนผู้สูงอายุที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็จะมีการเปิดลงทะเบียนต่อไป ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่มีการลงทะเบียนไว้ จะมีการพิจารณาในไตรมาสที่ 2 ช่วงเดือน เม.ย. – มิ.ย. 2568 ว่าจะมีการจ่ายเงินดิจิทัลในเฟส 3 ต่อเนื่องหรือไม่ ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ยืนยันว่าผู้สูงอายุที่จะได้รับแจกเงินในเฟสที่ 2 จะไม่ซ้ำกับกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับเงิน 10,000 บาทไปเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
สรุป 5 วิธี ใช้ LINE ให้ปลอดภัยฉบับวัยเก๋า รู้ไว้ห่างไกลภัยออนไลน์ กลโกงและภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่เกิดขึ้นได้ทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ LINE ประเทศไทย จึงร่วมมือกับ YoungHappy คอมมูนิตี้ผู้สูงวัย สร้างโลกดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน จัดกิจกรรม “LINE Connect Day Smart Senior – ชวนวัยเก๋าเรียนรู้ใช้ LINE ให้สนุกและปลอดภัย” ส่งต่อความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้รู้เท่าทันกลโกงมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้สูงวัยที่มีความเสี่ยงตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ได้ง่าย ด้วย 5 เทคนิคดีๆ ใช้ LINE อย่างไรให้ปลอดภัยในทุกวัน 1. ไม่ไว้ใจข้อความแปลกปลอม อย่าเผลอกดลิงก์แปลกๆ ส่วนมากข้อความแปลกปลอมจากผู้ไม่หวังดีจะมาในรูปแบบชวนลงทุน เสนอเงินรางวัลและดอกเบี้ยเงินกู้ราคาถูกที่จูงใจคน หรือมักแอบอ้างมาในรูปแบบของเจ้าหน้าที่รัฐ ธนาคาร หรือขนส่งพัสดุ ซึ่งหากได้รับข้อความเหล่านี้ อย่าเพิ่งหลงเชื่อไปคลิกลิงก์หรือคลิกเพิ่มเพื่อนใน LINE เพื่อส่งข้อมูลส่วนตัวให้ผู้อื่น 2. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือเป็น รู้จักวิธีสังเกตบัญชีทางการ อีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยคัดกรองความปลอดภัยคือ การรู้จักวิธี
คนไทย “แก่ก่อนรวย” สินทรัพย์น้อย ไร้เงินออม แบกหนี้ หลังเกษียณลำบาก สังคมไทยกำลังเผชิญความไม่พร้อมหลังวัยเกษียณ สะท้อนจากข้อมูลครัวเรือนไทย ส่วนใหญ่คนที่มีรายได้มากที่สุดในครัวเรือนมีอายุเกิน 50 ปี และรายได้ต่ำ (ราว 42% ของครัวเรือนไทย) จึงต้องพึ่งพารายได้นอกครัวเรือน เช่น เงินช่วยเหลือภาครัฐ และรายได้ไม่เป็นตัวเงิน หรือสิ่งของต่างๆ ที่ได้รับมา ส่งผลให้กันชนทางการเงินต่ำ หากมีเหตุฉุกเฉินหรือมีรายได้ลดลง นับเป็นความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ทั้งในด้านความเปราะบางของครัวเรือนและภาระการคลัง ผลสำรวจ SCB EIC Consumer Survey 2023 ชี้ว่า ในระยะสั้น ปัญหาแก่ก่อนรวยของสังคมไทยยังน่าห่วง โดยพบว่า กลุ่มวัยทำงานใกล้เกษียณ 51-60 ปี ส่วนใหญ่ยังมีสินทรัพย์น้อย โดยเฉพาะคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 บาทต่อเดือน มีความเสี่ยงสูงที่จะประสบปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายหลังเกษียณ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการสะสมสินทรัพย์คือ ภาระหนี้ โดย 56% ของครัวเรือนที่มีหนี้ พบว่า มีสินทรัพย์รวมไม่ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนสูง การออมเงินเตรียมความพร้อมหลังเกษียณของคนไทย ในระยะยาว SCB EIC มองว่าปัญหา
ธุรกิจมาแรงตอบโจทย์คนสูงวัย! ปี 2567 ผู้สูงอายุในไทยใช้จ่ายสูงขึ้น ราว 1.7 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านล้านบาท ในปี 2572 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของไทยที่จะกลายเป็นสังคมสูงวัยขั้นสุดยอดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาจทำให้ธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุได้ประโยชน์ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีบางธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น ไปจนถึงผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องปรับตัวให้สอดรับกับตลาดสังคมสูงวัยยิ่งขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายของผู้สูงอายุไทยในปี 2567 จะอยู่ที่ราว 1.7 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน 3.8% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านล้านบาท ในปี 2572 ที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด จากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นจากราว 14 ล้านคนในปัจจุบัน ไปอยู่ที่ 18 ล้านคน หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.3% ทั้งนี้ ธุรกิจที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการขยายตัวของสังคมสูงวัย แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1. ธุรกิจที่เน้นด้านสุขภาพ ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจการดูแลสุขภาพ โดยการใช้จ่ายใน 2 หมวดนี้ มีสัดส่วนรวมกันกว่า 37