ผ้าขาวม้า
ต่อยอดนำ ผ้าขาวม้า เพิ่มมูลค่าเป็น พวงมาลัยสุดเก๋ไก๋ ทำไม่ยาก ขายสร้างอาชีพได้ ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ NAETC จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ และสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม กำแพงแสน ด้วยกิจกรรมอบรมออนไลน์ดีๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ด้วยการ เปลี่ยนผ้าขาวม้าธรรมดา ให้กลายเป็น พวงมาลัยสุดกิ๊บเก๋ โดย คุณอุ๋ย-วราภรณ์ ลาวรรณา โดยวัตถุดิบ ขั้นตอนและวิธีการทำ มีดังนี้ สร้างอาชีพแก้จน ด้วย จิ้งหรีด แมลงทำเงินยุคใหม่ ลงทุนน้อย ขายได้กำไรงาม บ๊ะจ่างเครื่องแน่น ทำกินทำขายง่ายๆ ไม่ต้องห่อใบไผ่ อร่อยไม่แพ้สูตรโบราณ แปลงโฉมมะพร้าวธรรมดา ให้เป็น วุ้นมะพร้าวนมสด สดชื่นแถมอร่อย ทำขายไม่ยาก อุปกรณ์ในการทำ 1. คลิปหนีบสีดำ 2. ผ้าขาวม้า หรือ ผ้าพันคอ (ผ้าถุง ผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติก ผ้ามัดย้อม ก็ได้) 3. หลอดดูดน้ำ ไซซ์ใหญ๋ 4. กรรไกร 5. ลวดริบบิ้น (เอาทั้งขด) วิธีทำ 1. กางผ้าขาวม้าออกให้สุดตามความยาวของผ้า จากนั้นพับสลับไปสลับมา (เหมือนการใช้กระดาษพับเป็นพัด โดยขนาดแล้วแต่ความชอบว่า อยากได้พวงมาลัยกว้าง แคบ เท่าใด) 2. จากนั้น นำคลิปหนีบ หนีบผ้าเอาไว้
ปรับเพื่อรอด! แม่ค้ากิ๊ฟต์ช็อป หันขายผ้าขาวม้าออนไลน์ ทางรอดกู้วิกฤต ยุคสมัยเปลี่ยน วิกฤตมา เป็นตัวเร่งรัดให้ คุณพร-พรสวรรค์ สุริวงศ์ วัย 48 ปี เจ้าของร้านกิ๊ฟต์ช็อปในตลาด 100 ปี ปรับตัวจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ นำสินค้าจากผ้าขาวม้า ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า ฯลฯ ลงขายในช้อปปี้ แม้จะเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มไม่ใช่แฟชั่นหวือหวา แต่สามารถขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ได้สบาย จนกลายเป็นร้านแนะนำ คุณพร เป็นคนสุพรรณบุรี เติบโตมาในครอบครัวค้าขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป เมื่อออกจากงานประจำ จึงกลับมาเปิดร้านกิ๊ฟต์ช็อปในตลาด 100 ปี ในปี 2549 ขายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า และของกิ๊ฟต์ช็อปเล็กๆ เมื่อขายดีขึ้น จึงเริ่มจ้างช่างในพื้นที่มาเย็บกระเป๋าจากผ้าขาวม้า มีซับในอย่างดี วางขายหน้าร้าน จากนั้นขยับขยาย ตัดกางเกงผ้าขาวม้าทรงเล ตัดเสื้อผ้าเด็กและเสื้อผ้าผู้ใหญ่ ขายหน้าร้านและขายส่ง เรื่อยมาถึงทุกวันนี้ ยุคสมัยเปลี่ยน ขายเดิมๆ ไม่ได้แล้ว คุณพร เล่าต่อว่า เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ร้านกิ๊ฟต์ช็อปเริ่มเงียบ ยอดขายลดลง แต่ยังเปิดหน้าร้านและขายส่ง ช่วงก่อนโควิดจึงได้ตัดสินใจขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อระบายสินค้าในสต๊อก “คิดนำสินค้าขายออน
“ร่มผ้าขาวม้า” ไอเดียสุดเก๋จากแม่บ้านกาฬสินธุ์ โกอินเตอร์ไกลแดนปลาดิบ ผ้าขาวม้า บ้างก็เรียกว่า ผ้าเคียนเอว ผ้าสารพัดประโยชน์ที่คนไทยใช้มาแต่โบราณ มีลักษณะเป็นผ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความกว้างประมาณ 2 ศอก ยาวประมาณ 3-4 ศอก สีและลวดลายของผ้าขาวม้าจะแตกต่างกันไปตามความนิยมของท้องถิ่น โดยทางภาคกลาง ผ้าขาวม้าจะมีลวดลายเป็นตาลายสก๊อตโดยมากทอเป็นลายตารางเล็กๆ นิยมใช้ด้ายหลายสีในการทอ ส่วนใหญ่ผู้ใช้ผ้าขาวม้าจะเป็นเพศชาย เพราะสามารถใช้นุ่งอาบน้ำ เช็ดตัวได้ในผืนเดียว หรือจะนำมาคลุมหัวกันแดด ทำเปลก็ได้ ผ้าขาวม้าไม่ค่อยเป็นที่นิยมในเพศหญิงนักเมื่อเทียบกับพวกผ้าซิ่น ทำให้ คุณเกษร เพิ่มขึ้น แม่บ้านชาวกาฬสินธุ์ วัย 50 ปี นำผ้าขาวม้ามาต่อยอดมูลค่าเพิ่ม ด้วยการทำเป็น “ร่มผ้าขาวม้า” สุดน่ารัก ที่สามารถใช้กันแดดกันฝนได้ดี โดยคุณเกษร เล่าให้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟังว่า ที่มาของร่มผ้าขาวม้าเกิดมาจาก การที่เธอได้มีโอกาสเข้าเรียนพวกงานฝีมือกับ กศน. ของจังหวัด ซึ่งมีหลักสูตรฝึกสอนอาชีพให้กับนักศึกษา ประกอบกับในละแวกบ้านที่เธออาศัยอยู่ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทอผ้าขาวม้าขายกัน
งดงามไม่ซ้ำใคร “ผ้าขาวม้าดารา” หมักโคลนนาคี ย้อมสีธรรมชาติ ขายดีสวนกระแสเศรษฐกิจ ไป บึงกาฬ ครั้งนี้ ไม่พลาดแวะ กลุ่มทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองบ้านสะง้อ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 2 บ้านสะง้อ ตำบลหอคำ อำเภอเมือง เมื่อไปถึง คุณสมพร แสงกองมี อายุ 60 ปี ทายาทรุ่น 2 ออกมาต้อนรับอย่างดี พร้อมเริ่มบทสนทนาถึงที่มาของผ้าขาวม้าดารานาคีให้ฟังว่า ผ้าขาวม้าเป็นกิจการตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นโดย คุณพ่อไล และ คุณแม่แว่น คำพุทธา เริ่มทำตั้งแต่ปี 2542 ล้มลุกคลุกคลานกับเพื่อนจัดตั้งกลุ่ม 12 คน ผลิตผ้าขาวม้าลายตารางดั้งเดิม กระทั่งปี 2560 คุณพ่อไลและคุณแม่แว่นวางมือ เธอกับสามี (คุณดารา แสงกองมี และลูกสาว คุณแยม-สุพัตรา แสงกองมี อายุ 23 ปี ทายาทรุ่น 3) เข้ามาสานต่อกิจการ ยกระดับและพัฒนาเป็นผ้าขาวม้าหมักโคลนธรรมชาติที่รู้จักในนาม “ผ้าขาวม้าดารานาคี” จากเคมีสู่ธรรมชาติ “หลังรับมรดก แม่นำผ้าขาวม้าไปขายตามงานแสดงสินค้า มองไปทางไหนเหมือนกันหมด เลยคิดว่าต้องเปลี่ยน ต้องฉีกแนวหาเอกลักษณ์ให้ตัวเอง หาสิ่งที่ชุมชนมีซึ่งก็คือธรรมชาติ” คุณสมพรในวัย 60 ปี เริ่มศึกษาวิชาจากคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านที่มีภูมิปัญญาชาวบ้านดั้ง
เป็นที่คุ้นตากันดีสำหรับผ้าผืนบางลายตารางที่เรียกกันว่า “ผ้าขาวม้า” มีมาแต่สมัยโบราณ ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายเสียมากกว่า ในแต่ละพื้นที่ของไทยมีการทำผ้าขาวม้ากันแพร่หลายรวมถึง จังหวัดบึงกาฬ เหนือสุดแดนอีสานที่นอกจากจะมียางพาราแล้ว ก็ผ้าขาวม้านี่แหละสินค้าขึ้นชื่อ ไป บึงกาฬ ครั้งนี้ ไม่พลาดแวะ กลุ่มทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองบ้านสะง้อ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 2 บ้านสะง้อ ตำบลหอคำ อำเภอเมือง เมื่อไปถึง คุณสมพร แสงกองมี อายุ 60 ปี ทายาทรุ่น 2 ออกมาต้อนรับอย่างดี พร้อมเริ่มบทสนทนาถึงที่มาของผ้าขาวม้าดารานาคีให้ฟังว่า ผ้าขาวม้าเป็นกิจการตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นโดย คุณพ่อไล และ คุณแม่แว่น คำพุทธา เริ่มทำตั้งแต่ปี 2542 ล้มลุกคลุกคลานกับเพื่อนจัดตั้งกลุ่ม 12 คน ผลิตผ้าขาวม้าลายตารางดั้งเดิม กระทั่งปี 2560 คุณพ่อไลและคุณแม่แว่นวางมือ เธอกับสามี (คุณดารา แสงกองมี และลูกสาว คุณแยม-สุพัตรา แสงกองมี อายุ 23 ปี ทายาทรุ่น 3) เข้ามาสานต่อกิจการ ยกระดับและพัฒนาเป็นผ้าขาวม้าหมักโคลนธรรมชาติที่รู้จักในนาม “ผ้าขาวม้าดารานาคี” จากเคมีสู่ธรรมชาติ “หลังรับมรดก แม่นำผ้าขาวม้าไปขายตามงานแสดงสินค้า มองไปทางไหนเหมือน
ใครจะไปคิดว่าผ้าสารพัดประโยชน์ทั้งใช้นุ่งห่ม ผูกเอว โพกหัว ผูกเปลให้เด็ก ผ้าอาบน้ำ ฯลฯ ที่อยู่คู่กับคนไทยทุกยุคทุกสมัยอย่างผ้าขาวม้า โดยเฉพาะ “ผ้าขาวม้าทอมือจากชุมชน” จะได้กลายเป็นชุดแต่งตัวสุดเก๋ของเหล่าคนดัง หากจำกันได้เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีบรรดาเน็ตไอดอลพร้อมใจกันลุกขึ้นมาประชันไอเดียแปลกแหวกแนวด้วยการหยิบผ้าขาวม้าทอมือมาดีไซน์เป็นเสื้อผ้าและพร็อพรับกับปีใหม่ไทยได้อย่างกลมกลืน ถึงวันนี้ ผ้าไทยไม่ได้เป็นเพียงเสื้อผ้าของคนแก่หรือแฟชั่นย้อนยุคเท่านั้น ทั้งบรรดาดีไซเนอร์และกูรูแฟชั่นต่างเริ่มหันมามองคุณค่าและความงามของอัตลักษณ์ “ผ้าขาวม้าทอมือ” รวมทั้งคนรุ่นใหม่ในวงการบันเทิงอีกหลายคนที่ฮิตนำผ้าขาวม้าทอมือมาแต่งตัวหรือดัดแปลงเป็นของตกแต่งบ้าน เป็นต้นว่า “ลูกนัท-สิริวงษ์ สุขเกษมสิน” เจ้าของคอนเซ็ปต์ “What we have x Who we are” สนุกสนานกับการนำสิ่งใกล้ตัวอย่างผ้าขาวม้ามาประยุกต์ใช้ง่ายๆ แล้วจะรู้ว่าของไทยทำอะไรได้มากกว่าที่คิด หรืออดีตบรรณาธิการนิตยสารแมรี แคลร์ “พิยะดา นันทะ” กับแฟชั่น everyday wear วันสบายๆ กับกางเกงเลจากผ้าขาวม้าทอมือที่ออกแบบเอง เธอบอกว่า ชาวบ้านทอด้วยมือ
หากใครเคยไปเดินงานแสดงสินค้าตามสถานที่ต่างๆ ในบ้านเรา จะเห็นผู้ประกอบการบางราย โดยเฉพาะในภาคกลาง และภาคอีสาน นำผ้าขาวม้ามาใช้ทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้หรือของตกแต่งบ้าน ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดีเพราะผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างชื่นชอบลวดลายและสีสันของผ้าขาวม้าที่มีสารพัดสีให้เลือก มีสารพัดแบบหลากหลายสี “คุณจิดาภา กฤชเพชรรัตน์” (ในภาพสวมแว่น) ที่มีความรู้ด้านผ้าและเครื่องแต่งกาย จากวิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดปัตตานี เป็นผู้ประกอบการอีกรายที่นำผ้าขาวม้ามาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งชิ้นงานของเธอค่อนข้างโดดเด่น เนื่องจากมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งเสื้อชายหญิง กระโปรง เป้ ถุงใส่เอกสาร ฯลฯ โดยทำในนามกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นสินค้าโอท็อปของเมืองนนท์ ซึ่งกว่าจะมาทำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก “เมื่อก่อนรับราชการ อยู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และออกจากงานตั้งแต่ปี 2536 ตอนแรกไม่ได้คิดจะมาทำตัวนี้ ช่วงแรกๆ เคยเหมาเสื้อผ้าส่งออกจากโรงงานมาขาย ใช้ทุนเยอะมาก สุดท้ายเหลือ และไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ถึงขั