ฝ่าวิกฤต
โชคดีที่รอดมาได้ ปีต่อไปของร้านอาหารดัง ต้องปรับตัวเกือบ 360 องศา คุณลินดา บูรณะชน ทายาทเจน 2 กิจการ “ครัวเจ๊ง้อ” ร้านอาหารชื่อดัง เจ้าของตำนานเมนูดัง “หมี่ผัดกระเฉด” ให้สัมภาษณ์ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ถึงการพากิจการฝ่าวิกฤตโควิด ว่าก่อนช่วงโควิด มีสาขาที่เป็นสแตนด์อะโลน อยู่ทั้งหมด 9 สาขา ที่ต้องรับมือกับโรคระบาด ควบคู่กับการดูแลพนักงาน ครอบครัว ให้ปลอดภัย ช่วงเวลาดังกล่าวจึงปรับตัวด้วยการ ขายอาหารดีลิเวอรีผ่านแอปต่างๆ “ปรึกษากับทีมครัว ให้ทำอาหารกล่องมาขาย กล่องละ 100 บาท ไปวางขายหน้าร้าน ทำให้พอจะมีรายได้เข้ามาประทังในส่วนของการจ่ายเงินเดือนให้กับลูกน้อง เพราะว่าเรายังดูแลเขา เพราะลูกน้องของครัวเจ๊ง้อ ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดและต่างด้าว เราต้องดูแลเขา” คุณลินดา เล่า และว่า แม้จะลำบากกันทุกคนก็สามารถผ่านพ้นมาได้ แต่ความเสียหายในเรื่องของรายได้ค่อนข้างเยอะ ร้านสแตนด์อะโลน ที่เคยมี 9 สาขา พอหลังโควิด หมดสัญญาเช่าไปบ้าง อะไรบ้าง จึงเลิกสัญญาไป ฉะนั้น หลังโควิด ร้านครัวเจ๊ง้อ ที่เปิดบริการได้ปกติ เลยเหลืออยู่ 4 สาขาใหญ่ คือที่ สี่พระยา ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ สาขาถนนพระราม 2 สาขาถนนพระราม
ถอดรหัส Neelor ธุรกิจเสื้อผ้าญี่ปุ่นสัญชาติไทย ฝ่าวิกฤต โดยใช้ โซเชียล เข้าถึงลูกค้า คนไทยจำนวนมากชื่นชอบสินค้าและท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ด้วยธรรมชาติคนประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับดีไซน์และรูปลักษณ์ของสินค้าผลิตภัณฑ์มาก การออกแบบว่าจ้างดีไซเนอร์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยหรือควรมองข้าม ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า สินค้าหรือบริการบางชนิดเมื่อใส่พลังความคิดดีไซน์ลงไป ก็สามารถทำให้แบรนด์สินค้านั้นถูกพูดถึงในตลาดออนไลน์และออฟไลน์และทำยอดขายได้สูงมาก โดยใช้งบการตลาดไม่มากจนเกินไป ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยหันมาออกแบบและผลิตสินค้าเชิงวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก สามารถแข่งขันได้อย่างมีศักยภาพ ที่สำคัญ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างดี แม้ต้องเผชิญภาวะวิกฤตไวรัสโคโรนา 2019 มาหลายปี นายนฤเบศร์ หน่อคำ ผู้บริหารเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นแบรนด์ Neelor เล่าว่า ตนเป็นศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่เรียนในรั้วมหาวิทยาลัยช่วยสร้างแบรนด์เสื้อผ้าสไตส์ดั้งเดิมญี่ปุ่น มีการผสมผสานความเป็นโมเดิร์นแบบสมัยใหม่ ดั้งเดิมแต่ยังดูใหม่ ภา