พนักงาน
ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต้อง ‘ปรับตัว’ ถึงจะอยู่รอดและเติบโต ซึ่ง AI สามารถช่วยให้พนักงานทำงานได้เร็วขึ้น ในโลกที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรที่สามารถปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาสร้างคุณค่าได้จะเป็นผู้ที่อยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) และการนำ AI มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จึงได้จัดงาน ttb spark REAL change พร้อมด้วยงานเสวนา Spark Talk ภายใต้หัวข้อ “Digital Transformation : Spark the Future” เพื่อให้แนวคิดและแนวทางในการนำองค์กรไปสู่โลกดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ งาน Spark Talk เน้นย้ำว่า Digital Transformation ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยี แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดและวัฒนธรรมองค์กร โดยการนำ AI และ Data Analytics มาใช้ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ สามารถเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจแข่งขันได้ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หัวใจสำคัญของ Digital Transformation คือ การที่องค์กรต้อง “เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนR
งานด่วน งานแทรก! เจ้านายสั่งแบบนี้ ชาวออฟฟิศทำยังไงดี แชร์เทคนิคเคลียร์งาน เอาอยู่ทุกคำสั่ง ช่วงรอยต่อของปีเก่าสู่ปีใหม่ สิ่งที่มักเห็นอยู่บ่อยๆ คือ การที่หลายคนออกมาโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องเป้าหมายชีวิตในปีใหม่ และบางคนแถมด้วยเป้าหมายในปีเก่า ว่าได้บรรลุอะไรไปบ้าง แต่บ่อยครั้งที่ได้อ่านโพสต์ในทำนอง “ไปไม่ถึงเป้าหมาย” หรือสิ่งที่ตั้งอกตั้งใจในปีก่อน “ยังไม่ได้ทำอีกบานตะไท” เจอโพสต์แบบนี้ผมมักสะดุดครับ เพราะบางที ที่ผมเองตั้งอกตั้งใจจะทำเมื่อต้นปีที่แล้ว ยันข้ามปีมาแล้วนี่ก็ยังไม่ได้ทำ เชื่อเถอะครับว่าอุปสรรคของการลงมือทำ มันมากมายกว่าที่เราจะคาดคิด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเบสิกอย่าง “ความขี้เกียจ” หรือ “งานแทรก” หากใครเคยตั้งใจเมื่อปีที่แล้ว และยังไม่บรรลุเป้าหมาย ผมขอไม่เชื่อว่าท่านขี้เกียจนะครับ แต่ผมขอเดาเอาว่า ท่านมีงานแทรกแบบไม่คาดคิดอยู่เนืองๆ กูรูด้านการจัดการทั้งหลาย มักแนะนำให้เรา “จัด Priority” หรือที่เรียกว่า “การเรียงสำดับความสำคัญ” นั่นเอง หลักการง่ายๆ ที่หลายกูรูบอกไว้ร่วมกัน นั่นคือ “อะไรสำคัญมากให้ทำก่อน อะไรสำคัญน้อยทำหลัง” คนทำงานออฟฟิศหลายคน เคยเผชิญชะตากรรมแบบนี้ครั
อิสรภาพทางการเงิน แนวคิดที่มนุษย์ออฟฟิศควรรู้ อนาคตหมดกังวลเรื่องเงินๆ ทองๆ! อิสรภาพทางการเงิน ถือเป็นวิชาสำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ควรทำความเข้าใจ และเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน ถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มีอิสระอย่างใจฝัน หมดกังวลกับเรื่องเงินในอนาคต fintips by ttb ขอแนะนำแนวคิด “บันได 4 ขั้นสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน” ฉบับมนุษย์เงินเดือน ให้พร้อมลงมือวางแผนเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ ดังนี้ 1. “ฉลาดออม ฉลาดใช้” สร้างรากฐานการเงินที่ดี ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ มั่นใจได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ทำให้ง่ายต่อการวางแผน และกำหนดสัดส่วนการเก็บออมเงินที่พอดี โดยเราสามารถเริ่มต้นด้วยสูตรออมเงินง่ายๆ คือ 50:30:20 ดูก่อน ซึ่งอาจจะปรับสัดส่วนให้พอดีกับชีวิตของเราได้ ๐ ส่วนแรก 50% สำหรับใช้จ่ายกับสิ่งที่จำเป็นในชีวิต เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง และค่าอาหารในแต่ละวัน ๐ ส่วนที่สอง 30% สำหรับใช้จ่ายกับสิ่งที่เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า หรือการเดินทางท่องเที่ยว ๐ ส่วนที่สาม 20% สำหรับการเก็บออมเพื่ออนาคตที่มั่นคง โดยอาจจะแบ่งออกเป็น 2 กอง เช่น 10%
สปส. เปิดรับสมัคร พนักงานประกันสังคม กลุ่มวิชาชีพการลงทุน 66 ตำแหน่ง เว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม ประกาศรับสมัครบุคคล เพื่อเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานประกันสังคม กลุ่มวิชาชีพการลงทุน โดยรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-20 กรกฎาคม 2563 รายละเอียดมีดังนี้ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ คลิก สอบถามเพิ่มเติม คลิก
ออมสิน เปิดรับสมัครลูกจ้าง 1,200 อัตรา นาน 3 เดือน เงินเดือน 1.5 หมื่น ออมสิน – เพจ GSB Recruitment ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้าเป็นลูกจ้างโครงการเพื่อปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐ ปฏิบัติงานตามสาขาทั่วประเทศ จำนวน 1,200 อัตรา มีระยะเวลาการจ้างงาน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.63 ถึงวันที่ 31 ก.ค.63 อัตราค่าจ้าง 15,000 บาท โดยคุณสมบัติผู้สมัคร มีดังนี้ 1. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ทุกสาขาวิชา 2. อายุไม่เกิน 45 ปีบริบูรณ์ 3. มีทักษะการสื่อสาร และการใช้คอมพิวเตอร์ 4. สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ภูมิลำเนาหรือที่อยู่ปัจจุบันได้ ผู้ที่สนใจร่วมงานกับธนาคารออมสินในตำแหน่งดังกล่าว สามารถติดต่อในวันและเวลาทำการ ได้ที่ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล ส่วนสรรหาทรัพยากรบุคคล โทร. 02 299-8000 ต่อ 030211-2, 030221 หรือติดต่อได้ที่ธนาคารออมสินภาคทั่วประเทศ
ตะลึงไปตามๆกัน แจ๊กหม่า ย้ำให้พนง.หนุ่มสาวทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน แจ๊กหม่าป้องสูตรทำงานหนัก – เดลีเมล์ รายงานว่า แจ๊ก หม่า ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อาลีบาบา และมหาเศรษฐีจีนผู้โด่งดังไปทั่วโลก กล่าวปกป้องวัฒนธรรมการทำงานหนัก ด้วยกำหนดสูตรระยะเวลาสำหรับพนักงาน “996” คือเริ่ม 9 เอเอ็ม (เก้าโมงเช้า) จบ 9 พีเอ็ม (สามทุ่ม) และทำให้ได้ 6 วันต่อสัปดาห์ ว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แจ๊ก หม่า โพสต์ใน WeChat ของบริษัท เพื่อแจ้งพนักงานว่า การทำงาน 996 หรือ ตั้งแต่ 9.00-21.00 น. เป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์ คิดเป็น 72 จาก 168 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นสิ่งที่ดีและน่าชื่นชม เพราะคนอื่นและบริษัทอื่นไม่มีโอกาสทำงานได้เช่นนี้ “ถ้าไม่ทำงาน 996 ในช่วงวัยหนุ่มสาวแล้ว จะไปทำตอนไหน” หม่ากล่าวพร้อมยกตัวอย่างตัวเองและพนักงานที่เริ่มก่อตั้งอาลีบาบาในปี 2542 มาด้วยกันต้องทำงานยาวนานเป็นประจำ ทุกคนต้องการความสำเร็จ ชีวิตที่ดีและมีคนเคารพนับถือ REUTERS ดังนั้น หนทางสู่ความสำเร็จสำหรับแจ๊ก หม่า คือ ทำงานเวลาให้มากขึ้นและใช้พลังงานหนักขึ้นกว่าคนอื่น ขณะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทุกวันนี้ มีคนตกงานหรือบางบริษัทต้องเผชิญกับการปิดตัว แนวคิ
ยังไม่เลิก! พนักงานนับพัน ประท้วงโบนัส ปักหลักกิน-นอน หน้าบริษัท มา 4 วันเต็ม ประท้วงโบนัส – จากกรณีพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ภายในนิคมอุตสาหกรรม304 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี กว่า 1,000 คน รวมตัวกันประท้วงขอโบนัสประจำปี โดยให้ประกาศให้พนักงานทราบภายในวันที่ 20 พ.ย. 61 หลังจากบริษัทนิ่งเฉยไม่ติดประกาศให้ทราบเกรงว่าจะไม่ได้โบนัส หลังจาก บริษัทฯหารือร่วมกับแรงงาน ตัวแทนส่วนราชการแต่ไม่เป็นผล จึงปักหลักประท้วงห้ามรถสินค้าออกนอกเขตโรงงาน การเจรจาร่วมสามฝ่าย ที่ผ่านมาไม่เป็นผลสำเร็จเพราะฝ่าย บริษัทฯ บอกขาดทุนแต่พนักงานไม่เชื่อยื่นคำเรียกร้องเดิม 1.5+5,000 เท่าเดิม การเจรจาร่วมสามฝ่ายผ่านตัวแทนของบริษัทฯ เมื่อไม่ได้ตามคำเรียกร้องพนักงานกว่าครึ่ง 1,200 คน ปักหลักประท้วงเรียกร้องสิทธิตามที่พึงจะได้ แม้จะมีการเจรจาร่วมกันสามฝ่ายถึง 3-4 ครั้งแต่ก็ไม่เป็นไปตามคำเรียกร้องจึงประท้วงต่อไป โดยซื้อกุญแจมาล็อกประตูใหม่ เป็นฝ่ายถือประตูรั้วโรงงานเอง และปักหลักประท้วงข้ามวันข้ามคืนนอนอยู่ในโรงงาน ล่าสุด วันที่ 23 พ.ย. พนักงานหนุ่ม-สาวพากันนอนกันเป็นกลุ่มๆจุดๆเอาแรง กระทั่งตื่น มีการส่งเสียงอาการเข้า
การทำธุรกิจ หนีไม่พ้น “การบริการ” และในงานบริการ “คน” คือ กลไกสำคัญที่สุด หากให้ความสำคัญกับคน แปลว่า ให้ความสำคัญ และใส่ใจในการให้บริการ แต่พบว่าหลายธุรกิจ กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนมากนัก “คน” ที่ผมกำลังพูดถึง ไม่ได้หมายถึง “ลูกค้า” นะครับ แต่ผมกำลังหมายถึง “พนักงาน” ถ้าเราทำให้พนักงานมีความสุข คนที่มีความสุข ย่อมให้บริการคนอื่นด้วย “ความสุข” เช่นกัน ในทางตรงข้าม หากเราปล่อยปละละเลย มุ่งเอาใจลูกค้า แต่ว่าไม่สนใจพนักงาน จะเป็นอยู่อย่างไร จะมีสุขทุกข์อย่างไร ไม่เคยใส่ใจ แล้วคนอมทุกข์มากมาย จะบริการใครได้ดี เมื่อเร็วๆ นี้ มีรุ่นน้องมาปรึกษาหารือเรื่องงาน รู้สึกอึดอัดใจ ตัวเองทำงานไต่เต้าจากพนักงานธรรมดา จนได้เป็นระดับผู้จัดการ งานที่ต้องรับผิดชอบเป็นสายงานการตลาดและการขาย ต้องตระเวนออกงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ วันดีคืนดี บริษัทก็มีกฎใหม่ออกมาว่า ระดับผู้จัดการเงินเดือนเยอะแล้ว ไม่ต้องมี “เบี้ยเลี้ยง” ของเคยได้รับ กลับหดหายไปเห็นๆ สิ่งที่บริษัทควรทำความเข้าใจ คือ เบี้ยเลี้ยง ไม่ใช่เงินเดือน หรือค่าตอบแทนการทำงาน แต่เป็นเงินพิเศษที่พนักงานต้องออกไปทำงานบางอย่าง นอกเหนือจากภาวะปกติ