พืชผักสวนครัว
ผักตบชวาเป็นไม้น้ำที่ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว มีลำต้นสั้นแตกใบเป็นกอลอยไปตามน้ำ มีความทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี แต่จะไม่ทนน้ำเค็ม คลองมหาสวัสดิ์ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธฆณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นอีกแหล่งที่มีปริมาณต้นผักตบชวา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนในชุมชน เพราะคนในชุมชนได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส นำผักตบชวาที่หลายคนมองว่าไร้ค่า มาแปรรูปเป็นดินผสมพร้อมปลูกจำหน่ายสร้างรายได้ ผักตบชวา คุณวันชัย สวัสดิ์แดง ประธานกลุ่มวิสาหกิจกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านศาลาดิน เล่าว่า เนื่องจากผักตบชวา เป็นปัญหาต่อการสัญจรในคลอง เลยมองเห็นว่าถ้านำมาใช้ประโยชน์ก็น่าจะได้ช่วยกำจัดได้อีกทางหนึ่ง จึงขึ้นป้ายรับซื้อผักตับชวาตากแห้งในราคากิโลกรัมละ 20 บาท จากนั้น ก็นำมาผสมรวมกับวัสดุอื่น บรรจุถุงเป็นดินพร้อมปลูก สำหรับส่วนผสมประกอบไปด้วย ผักตบชวาสับตากแห้ง / แกลบ / ขี้เถ้า / ดินบดผสมขี้วัว ทั้งหมดนี้อย่างละ 1 ส่วน ผสมเข้ากัน วันชัย สวัสดิ์แดง ด้วยคุณสมบัติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิดที่ผสมอยู่ในดิน สามารถไปปลูกพืชได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว ไม้ดอก ไม้ประดับ และยิ่งเป็นไม้ผลจะเจริญเติบโตไว้และให้ผลดกมากๆเลยละครั
เกษตรกรด่านมะขามเตี้ยไม่ยอมจำนนต่อสภาพขาดแคลนน้ำ เลิกปลูกพืชไร่ หันมาปลูกมะกรูด พืชเศรษฐกิจอนาคตสดใส ดูแลง่าย ไม่ต้องคอยพรวนดิน ทำกินยันลูกหลาน “มะกรูด” พืชผักสวนครัว จำพวกเดียวกับขิง ข่า ตะไคร้ หอมแดง ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องต้มยำ ส่วนใบของมะกรูด ก็มีน้ำมันหอมระเหยกลิ่นหอมมากๆ เป็นได้ทั้งพืชผักที่นำมาประกอบอาหาร และสมุนไพร บำรุงหัวใจ แถมปลูกที่ไหนขายได้ตลอดทุกฤดูกาล ราคาขึ้นลงตามภาวะของตลาด มะกรูดตัดใบขายส่งแต่ละสวนแม้นจะขายได้ราคาไม่แพง ตั้งแต่ 10 บาท ต่อกิโลกรัม ไปจนถึงราคาแพงแบบสุดๆ หลังฝนไปแล้ว 35 บาท ต่อกิโลกรัม ขายลูกก็ได้ราคาดี 50 สตางค์ ต่อผล หรือจะจำหน่ายขายกิ่งพันธุ์ก็โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ คุณสันติ คงคา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 176/2 หมู่ที่ 1 ตำบลจระเข้เผือก อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี โทร.087-161-2074 และ 093-682-1067 การทำสวนมะกรูดครอบครัว “คงคา” เรียกได้ว่า เป็นอาชีพมรดกจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก สร้างฐานะและรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับครอบครัวเกษตรกรตัวอย่างรายนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ปัจจุบัน คุณสันติ นับเป็นเกษตรกรผู้ปลูกมะกรูดรายใหญ่ในท้องถิ่นแห่
เนรมิตที่ดิน 1 ไร่ ทำเกษตร ปลูกผัก ทำนา เลี้ยงปลา ได้เงินเดือนเป็นแสน ที่บ้าน คุณภีรพร หอมสมบัติ ชาวบ้านบ่อใหญ่ หมู่ 2 ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม และภรรยา คือคุณทัศนีวรรณ์ หอมสมบัติ โทร. (088) 036-2139 เจ้าของพื้นที่ทำการเกษตร 1 ไร่ ได้แสน โดย คุณภีรพร กล่าวว่า แปลง 1 ไร่ ได้แสน เน้นการปลูกข้าวอินทรีย์เคมี ใช้มูลโค มูลกระบือ มูลไก่ รองพื้น ตามด้วยปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-8 จำนวน 5-10 กิโลกรัม ต่อไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 7-10 กิโลกรัม ต่อไร่ ช่วงปลูกในเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม การดูแลรักษา ทำโดยการสูบน้ำเข้านา ประมาณต้นเดือนกันยายน ให้ปุ๋ยสูตร 12-24-12 จำนวน 10 กิโลกรัม ต่อไร่ ได้ผลผลิตต่อฤดูกาล 700-800 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาข้าว ขายตามราคาจำนำ เกวียนละ 15,000 บาท “ผมเลี้ยงปลาดุกในนาข้าว จำนวน 20,000 ตัว ขายได้ปีละกว่า 20,000 บาท ปลูกมะนาว พันธุ์พิจิตร 1 จำนวน 20 ต้น ในวงบ่อซีเมนต์ รอบแปลงและรอบบ่อปลา ได้ผลผลิตนอกฤดูกาล มีรายได้วงบ่อละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 40,000 บาท ขยายพันธุ์มะนาวด้วยวิธีการตอนกิ่งจำหน่ายภายในชุมชน ปีละ 100-200 ราคากิ่งละ 100 บาท ปลูกพืชฤดูแล้ง ถั่วลิสง จำนวน 1
ที่ โรงเรียนบ้านคะปวง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เด็กนักเรียนช่วยกันเก็บพืชผักสวนครัวที่ปลูก เพื่อนำไปประกอบอาหารกลางวัน ตามโครงการ ส่งเสริมการบริโภคผัก ผลไม้เพื่อสุขภาพในโรงเรียนบ้านคะปวง ซึ่งทางโรงเรียนได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัต กรรม (สำนัก 6) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนโรงเรียนบ้านคะปวงได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในเรื่องความสำคัญของการบริโภคผักและผลไม้ การปลูกพืชผักสวนครัว การลงมือปฏิบัติจริงในกิจกรรมโครงการปลูกผักปลอดสารพิษ เพื่อนำผลผลิตที่ได้ไปประกอบอาหารกลางวันและสร้างรายได้ให้กับนักเรียน จากรั้วโรงเรียนสู่ครอบครัว โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงของเด็กนักเรียนในระดับชั้นประถม ศึกษาปีที่ 4-5-6 ซึ่งเป็นแกนนำในการร่วมกันปลูกพืชผักปลอดสารพิษ อาทิเช่น ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักชี ถั่วฝักยาว ผลไม้ อาทิเช่น แก้วมังกร สับปะรด เป็นต้น ซึ่งเด็กแต่ละคนจะจับคู่กันในการเริ่มการทำแปลงเพาะปลูก การว่าน การปลูก และ การดูแลผลผลิตจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายให้กับโรงเรียนเพื่อเข้าสู่ โครงการอาหารกลางวัน