ยากจน
เผย 10 จังหวัดรายได้ครัวเรือนต่ำสุด หวังใช้วิจัย-นวัตกรรม แก้ปัญหายากจน ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร สอวช. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้สั่งการให้ สอวช. ดำเนินการนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาแก้ไข ปัญหาความยากจน อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ในส่วนของ สอวช. โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้ดำเนินโครงการ “การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาคนจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ” โดยมีเป้าหมายเพื่อหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ บพท. กล่าวว่า การดำเนินโครงการเริ่มต้นจากพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ที่มีรายได้ภาคครัวเรือนต่ำที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ชัยนาท ปัตตานี กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ มุกดาหาร และ สกลนคร โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและยั่งยืน โดยประชากรกลุ่มยากจนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน แล
องคมนตรี ยก “ศาสตร์พระราชา” ขจัดปัญหายากจนตรงจุด ลดเหลื่อมล้ำหลังโควิด เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดเวที Recover Forum เพื่อหาแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของไทยหลังโควิด-19 โดยมีการหารือถึง การขจัดความยากจนอย่างตรงจุด ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยยุคหลังโควิด-19 ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้ให้เกียรติบรรยายและร่วมแลกเปลี่ยน ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวว่า โดยส่วนตัวสนใจเรื่องความยากจนมานานแล้ว เพราะได้มีโอกาสถวายงานใกล้ชิดในโครงการหลวง ซึ่งให้ความสำคัญกับปัญหาความยากจน เกิดเป็น “ศาสตร์พระราชา” ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือรับมือวิกฤตของโลก และเชื่อว่ากลยุทธ์การพัฒนา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ที่ สอวช.จัดทำนั้น ถือเป็นครั้งแรกที่มีการบรรจุเศรษฐกิจพอเพียงไว้ อยากให้ไปศึกษาศาสตร์พระราชามาปรับใช้เพื่อการแก้ปัญหาความยากจนอย่างตรงจุด เช่น โครงการหลวง โครงการพระราชดำริทั่วประเทศ เป็นโครงการแก้จน ที่พลิกความจนเป็นความพอดี จนไปสู่อยู่ด
คุณยายสู้ชีวิต สามี-ลูกตาย ต้องหาบขนมขายเช้ายันดึกทุกวัน หาเงินใช้หนี้สหกรณ์ คุณยายสู้ชีวิต – เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 มี.ค. จากกรณีที่โซเชียลแชร์ภาพคุณยายหาบขนมขาย หน้าตลาดเมเจอร์รังสิต และได้มีการนำเสนอข่าวออกไปนั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับ นางบอม ซ่อนกลิ่น วัย 71 ปี ที่หอพัก ซอยรังสิต-นครนายก 24 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายลำจวล คำวงศ์ เจ้าของหอพัก เผยว่า ยายบอม เข้ามาพักอยู่ตั้งแต่ปี 2554 พร้อมลูกและหลาน ต่อมาลูกหลานได้ย้ายหนีไป นานทีจะมาหายาย หลังๆไม่มาหาเลย ปล่อยให้ยายต้องช่วยเหลือตัวเองมาตลอด ด้วยการหาบขนมเร่ขายไปตามสถานที่ต่างๆตังแต่เช้า จนมีข่าวออกมา ด้าน ยายบอม เผยว่า วันนี้มาขายขมที่หน้าไปรษณีย์ รังสิต ตั้งแต่ 8.00 น. ช่วงบ่ายจะไปขายต่อที่หน้าศาลพระภูมิเมเจอร์ รังสิต จนกว่าจะหมด อาจจะถึง 3-4 ทุ่ม ค่อยกลับเข้าบ้าน ตอนนี้ยายเป็นหนี้กับสหกรณ์อยู่เยอะ ต้องชดใช้หนี้ทั้งหมด หลังจากที่สามีและลูกได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว ต้องขายขนมต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะใช้หนี้หมด
ยายอยู่ตัวคนเดียว.. หาบขนมเลี้ยงชีพ ขายไม่ค่อยได้ แต่จำต้องสู้ชีวิต ฝืนยื้มทั้งน้ำตา เป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตต่างพากันแชร์ออกไปจำนวนมาก หลังจากสมาชิกเฟซบุ๊ก Much Nannaphatโพสต์บอกเล่าเรื่องราวของคุณยาย คนหนึ่ง ที่แม้อายุมากแล้ว แต่ยังต้องสู้ชีวิต เพราะอยู่ตัวคนเดียว ลูกและสามีเสียชีวิตไปหมดแล้ว ทำให้ต้องดูแลตัวเอง โดยสมาชิกเฟซบุ๊กรายนี้ ระบุเรื่องราวว่า “ตอนแรกที่เห็นคือคุณยายนั่งอยู่หน้าศาลพระภูมิวินรถตู้ข้างเมเจอร์รังสิต นั่งคนเดียวอย่างในรูป กวักมือเรียกคนที่เดินผ่านไปมาแต่ก็ไม่มีใครสนใจเลยสักคน เลยเดินเข้าไปหาคุณยาย คุณยายน่าสงสารมาก ยายชื่อบอน พูดไปจะร้องไห้ไป ยายบอกลูกกับสามีตายหมดแล้ว เหลือตัวคนเดียว มาจากสุรินทร์ ใช้ชีวิตคนเดียว เพราะไม่มีคนเลี้ยงดู ไม่มีญาติ ยายขายขนมแถวฟิวเจอร์-เมเจอร์รังสิต ยายบอกขายไม่ค่อยได้หรอก แต่ก็ต้องขายต้องสู้ชีวิต เพราะไม่มีจะกิน สีหน้าตอนพูดคือยายยิ้มแต่น้ำตาปริ่ม เราคนคุยด้วยเรายังจะร้องไห้ตามเลย ใครที่ผ่านมาแถวนี้ช่วยอุดหนุนยายหน่อยนะคะ ยายน่ารักมาก ขนมที่ยายขายมีหลายอย่างเลย ห่อละ 35 บาท 3 ห่อ 100”
จากเด็กยากจน ณวัฒน์ พลิกชีวิตมีบ้าน100ล้าน ยังกับสวรรค์ โก๊ะตี๋ เคยไม่ชอบหน้า! ขอแบ่งปันให้คนยากจนบ้าง วันนี้มีทุกอย่างแล้ว – พิธีกรดังจากเด็กยากจน พลิกชีวิตตัวเองจนร่ำรวย ยอมเปิดบ้านหรู ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เผยมีความฝัน เพราะเคยเป็นเด็กยากจน อะไรยิ่งใหญ่เราก็อยากได้ ท้าตัวเองว่าจะทำได้ไหม ก็ทำได้ ให้พ่อแม่ แม้วันนี้พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว โดย โก๊ะตี๋ อารามบอย และ เอ๊าะ กีรติ สองเพื่อนซี้พิธีกร บอกบ้านยังกับสวรรค์ บ้านหรูเสาโรมันทั้งหลัง วันนี้ยอมเปิดด้วย โก๊ะตี๋ รุ่นน้องคนสนิท เผยเมื่อก่อนเห็นเขา ยังไม่รู้จักกัน รู้สึกคนนี้ดูเริ่ดเชิดหยิ่ง ไม่ค่อยชอบขี้หน้า ไม่ถูกชะตาเลย จนมาทำงานกันเป็นสิบปี เขาเป็นคนแก่ขี้เหงา บ้านๆ ไม่ได้เริ่ดเชิดหยิ่งเลย บ้านหลังเป็นร้อยล้าน ก็นั่งดูทีวี กินมะขามเปียกจิ้มเกลือ เขาน่ารักมาก วันนี้รักเคารพเขามาก ไหว้ได้อย่างสนิทไจ ณวัฒน์ เผย ไม่เหงา ยังทำธุรกิจ ทำรายการมากมาย ส่วนที่ทำนางงามมา 15 ปี ได้กำไรมา ก็ทำธุรกิจอีกตัว ลงทุน 10 ล้าน ซีรั่มรักแร้นางงาม เปิดขายออนไลน์ คนยากคนจนใครสนใจ เราทำถูกกฎหมาย เสียภาษีถูกต้อง เพราะพูดตรงๆ เอาไปขายร้านสะดวกซื้อฟันกำไร 45% เราเอามา
ถ้าไม่ช่วยทำงานจะยิ่งจนกว่านี้…แม้ไร้พ่อแม่ แต่ ด.ญ.มิเชล ดิ้นรนทุกวันไม่มีหยุด เด็กหญิงวัย 13 ดิ้นรนทุกวันไม่มีหยุด … แต่ความจนอาจไม่หนักเท่ากับการไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ที่แท้จริง มิเชล นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล จ.นครพนม เติบโตมากับญาติตั้งแต่เล็ก ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ ส่วนแม่ไม่เคยเลี้ยงดู ก่อนหน้านี้เธออยู่กับยายทวดที่ จ.สระแก้ว หลังยายทวดเสีย ป้าและยายจึงรับมาอยู่ด้วยกัน การย้ายมาอยู่ที่นี่ต้องช่วยกันหาเลี้ยงปากท้อง มิเชลวัย 13 แบ่งเบาทุกวันทั้งเช้าและเย็นเพื่อเป็นโอกาสในอนาคต แม้จะรู้ว่าเป็นไปได้ยาก เพราะป้าต้องรับภาระลูกสาวอีกสองคน แต่มิเชลก็พยายามสุดความสามารถเท่าที่มี ❝ บ้านยากจนก็ต้องช่วยกันทำมาหากิน ❞ … แต่ความขยันก็ไม่อาจหลุดพ้นความจนไปได้สักที … ♡ สนับสนุนทุนการศึกษา ชื่อบัญชี ด.ญ.นีเดีย บุสทิพย์ และ นางเกศินี เชื้อเอี่ยมพันธุ์ และ น.ส.นิลดา กันกา ธนาคารกรุงไทย สาขาเรณูนคร เลขที่บัญชี 435-0-42660-4 #แชร์เพื่อโอกาส #หัวใจกตัญญู #คนเก่งนครพนม #เด็กดีเรณูนคร
วันที่ 25 ก.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง ว่ามีเด็กหญิงอายุ14 ปี ยอดกตัญญูที่ต้องรับภาระดูแลพ่อตาบอดทั้งสองข้าง จึงประสานกับผู้นำท้องถิ่น อาทิ นายคำพูล นงค์พรหมมา กำนัน ต.ย่านรี พระครูวาปี ศีลคุณเจ้าคณะตำบลย่านรี เขต 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบด.ญ.จันจิรา มาบัง อายุ14 ปีเป็นนักเรียนกำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียนบ้านเขาด้วน ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สภาพบ้านของเธอปลูกเป็นไม้ลักษณะคล้ายกระท่อม ยกพื้นสูง 50 ซม.โดยมีหลังคามุงด้วยสังกะสีสภาพเก่าๆผุๆ ทั้งฝาบ้าน และ หลังคารวมถึงห้องน้ำ ในสภาพที่ผุพัง ไม่พร้อมใช้งาน ไม่มีหลังคา จากการสอบถามนายปาง มาบัง อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านซึ่งตาบอด กล่าวว่า “ ตนเองมีรวมลูก 4 คน แยกทางกับภรรยาแล้ว เมื่อหลายปีที่ผ่านมา โดยมีอาชีพรับ จ้างทั่วไป วันหนึ่ง เมื่อ4 ปี ที่ผ่านมา ตนไปรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัส ได้เกิดอุบัติเหตุ กิ่งไม้ได้ฟาดลงมาถูกที่ตาข้างขวา ทำให้เกิดอาการเคืองตาอย่างรุนแรง จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี แต่อาการไม่ดีขึ้นประกอบกับตาข้าวซ้ายเป็นต้อกระจกอยู่ก่อนแล้ว ทำให้อาการกำเริบหนัก จนกระทั่งกลายเป็นคนตาบอดทั้งสองข