ยางราคาตก
ยางราคาตก คนไม่มีงานทำ เร่งช่วยพัฒนาอาชีพ สร้างงานคราฟต์ โดนใจ การพัฒนาอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มงานฝีมือ คุณสมบัติที่คนทำงานด้านนี้ต้องมี คือ ‘ความชอบ’ และคุณลักษณะอีกประการที่สำคัญ คือ ‘ความอดทนมุ่งมั่นทุ่มเทในการฝึกฝน’ จึงจะได้งานฝีมือที่ทรงคุณค่า หรืองาน Handmade หรือที่ในปัจจุบันเรียกว่า ‘งานคราฟต์’ บ้านทุ่งใน ชุมชนที่อยู่ในรอยต่อของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช อาชีพหลักของชาวบ้าน คือ ทำการเกษตร หลักๆ คือ ปลูกยาง ต้นทุนสำคัญ คือ ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย หนึ่งในนั้น คือ ต้นคลุ้ม ที่เป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับทำเครื่องจักสาน สินค้าหัตถกรรมที่โดดเด่นของชุมชนออกสู่ท้องตลาด เมื่อยางราคาตก และชาวบ้านไม่มีรายได้อย่างอื่น จึงพยายามรวมกลุ่มเพื่อเรียนรู้การทำงานจักสานและมีการจัดตั้งกลุ่มมาแล้ว 2 ปี แต่กลับพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการจักสาน รวมถึงยังไม่มีตลาดรองรับงานหัตถกรรมในลักษณะนี้ “ก่อนโควิด มีโรงแรมทางภูเก็ต สั่งตะกร้าใส่ผลไม้ เขาจะเอาไปไว้ตามห้องพัก แต่ต้องถูกยกเลิก เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด” คุณชำนาญ พรมเพ
ราคายางตกต่ำขั้นสุด! ชาวสวนบึงกาฬ หันแปรรูป “กก-ผือ” ได้วันละ 300 ยังดี ปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคมไทย บางบริษัทต้องปิดกิจการ หลายคนตกงาน ต้องกลับไปอาศัยอยู่บ้านเกิด ที่แม้จะมีฐานทรัพยากรให้พึ่งพิงเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพได้ เพราะขาดทักษะความรู้เรื่องการแปรรูปทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน แต่ที่ชุมชนในพื้นที่ชุ่มแม่น้ำโลกกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ กลับสวนทางกับหลายพื้นที่ เพราะมีการนำกกและผือ ซึ่งเป็นฐานทรัพยากรที่สำคัญของชุมชน ผสานรวมกับทักษะความรู้เรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ได้เรียนรู้จากการเข้า ‘โครงการพัฒนาอาชีพผลิตภัณฑ์จากกกและผือ พื้นที่ชุ่มแม่น้ำโลกกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ’ ที่ดำเนินการโดย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยการสนับสนุนของทุนพัฒนาอาชีพที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ต้องการนำต้นทุนทางทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชนมาฝึกทักษะอาชีพด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกกและผือให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นแรงงานนอกระบบหรือผู้ว่า
ยางทรุดหนัก 2 สัปดาห์ร่วงเฉียด 10 บาท/กก. – กยท. รีบซื้อพยุงราคา ส่วนข้าวขาวทรุดหนักเหลือแค่ 6 พันบาท/ตัน – ด้านกรมข้าวโรงสีเห็นแก่ได้ กดราคาข้าวหลังต้นทุนชาวนาลด – กยท. รีบซื้อพยุงราคา ยาง-ข้าวขาว ราคาทรุดหนัก – คุณเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาปรับตัวลดลงเกือบ 10 บาท/กิโลกรัม (กก.) จากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 60.05 บาท/กก. เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากราคาในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ปรับตัวลดลงมากโดยเฉพาะในตลาดเซี่ยงไฮ้ ที่ราคาอยู่ที่ 53-54 บาท/กก. ส่วนตลาดโตคอมยังอยู่ที่ราคา 64 บาท/กก. ดังนั้น กยท. เห็นว่าราคายางพาราที่ตกลงมาลงเร็ว และแรงเกินไป จึงเข้ารับซื้อผ่าน 3 ตลาดกลางของกยท. ทั้งที่ สงขลา หาดใหญ่ และสุราษฎร์ ที่ราคา 53.50 บาท/กก. “กยท. เข้าซื้อยางพาราในตลาดกลาง เพื่อรักษาเสถียรภาพ หลังจากเห็นว่าราคาปรับตัวลดลงแรงเกินไป จึงเข้าซื้อนำราคา 2 บาท จากมือรองที่เสนอซื้อมาที่ราคา 51.50 บาท/กก. ราคาที่ กยท. เสนอซื้อถือว่าเป็นราคาที่สอดคล้องกับราคาเอฟโอบีที่ 58 บาท/กก. ซึ่งหักค่าขนส่ง ค่าบริหารจัดการออกไป 4 บาทกว่า/ก
ชาวตรัง ต้องปรับตัว หันมาเลี้ยงวัว – ขายมูลเสริม หลัง ราคายางพาราตกต่ำ เร่งหารายได้ให้ทันช่วงเปิดเทอม ราคายางพาราตกต่ำ – วันที่ 5 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับ นายประจบ ทองตาล่วง ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ซึ่งนายประจบเปิดเผยว่า หลังจากยางพาราเริ่มตกต่ำมาตลอด ก็ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก รายรับไม่พอกับรายจ่าย ยิ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงเปิดเทอมยิ่งเดือดร้อน จึงรวมกลุ่มกับเกษตรกรเพื่อนบ้านลงทุนเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมือง โดยเลี้ยงมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ในกลุ่มมีวัวพันธุ์พื้นเมืองประมาณ 30 ตัว ของตนมีประมาณ 10 ตัว การเลี้ยงวัวพันธุ์ผสมนั้น เลี้ยงง่ายมาก โดยเลี้ยงแบบปล่อยในทุ่งเลี้ยงสัตว์ ปล่อยให้หากินหญ้าตามธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ก็สามารถนำไปขายได้ตัวละประมาณ 20,000 บาท เป็นที่ต้องการของตลาด จนไม่เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งขี้วัวยังสามารถขายได้กระสอบละ 40 – 50 บาท ทำให้มีรายได้เพิ่มอีกเดือนละประมาณ 5,000 บาท โดยผลัดกันเก็บขี้วัวไปขายกับเกษตรกรเพื่อนบ้านที่นำวัวมาเลี้ยงด้วยกัน อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงวัว ที่ผ่านมานั้นประสบปัญหาน้ำท่วมทุ่งเลี้ยงสัตว์ ทำให้ได้รับ