รถหาย
กกต.แจงวุ่น! หลังเกิดเหตุปั่นป่วน รถขนหีบบัตรเลือกตั้ง สัญญาณหายไปดื้อๆ 8คัน! เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้รายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมผู้บริหารของบริษัทไปรษณีย์ไทย ร่วมกันปล่อยขบวนรถไปรษณีย์ขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า และบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร กว่า 2 ล้านฉบับ จำนวน 15 คันรถ ไปยังเขตเลือกตั้ง ทั้ง 350 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศแล้ว หลังใช้เวลาคัดแยก 4 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรในพื้นที่ คุ้มกันตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ หลังจากปล่อยขบวนรถออกสักพักเกิดความปั่นป่วน เนื่องจากมีรถบางส่วนจำนวน 8 คัน เกิดสัญญานขาดหาย และบางส่วนสัญญาณอ่อน ทำให้ต้องรีบดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุ ทั้งนี้ นายมานพ ศรวิบูลย์ศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานปฏิบัติการนครหลวง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ชี้แจงหลังมีรายงานว่า รถขนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าหายไป 8 คันจากจอมอนิเตอร์ของศูนย์ติดตามที่สำนักงานไปรษณีย์ว่า เป็นการเข้าใจผิดของสื่อมวลชน โดยรถทุกคันเปิดจีพีเอสติดตามอยู่ตลอดเวลา ขณะที่รถเคลื่อนจะเป็นจุดสีแดง แต่เมื่อรถหยุดจะเป็นจุดสีดำ แต่ผู้สื่อข่าวไปเห็นเป็นช่ว
ประเด็นปัญหาที่ว่า ระหว่างที่ยังผ่อนรถ ในระยะสัญญาเช่าซื้อรถ อาจจะเป็น 48 งวด 60 งวด หรือกี่งวดก็ตาม หากรถที่เช่าซื้อมานั้นหายไป ถามว่า ผู้เช่าซื้อยังต้องผ่อนต่อหรือไม่ เรื่องนี้ ต้องพิจารณาจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๗๒ บัญญัติ ว่า อันว่า เช่าซื้อ นั้น คือ สัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้น หรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว” และมาตรา ๕๖๗ ที่ว่า ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อมระงับไปด้วย” ลักษณะของสัญญาเช่าซื้อ ก็คือสัญญาเช่าทรัพย์ประเภทหนึ่ง ดังนั้น เมื่อทรัพย์สินที่เช่าสูญหายไป สัญญาเช่าย่อมต้องระงับลง นั่นหมายความว่า เป็นอันเลิกสัญญาต่อกัน ผู้เช่าซื้อไม่ต้องผ่อนต่อ แต่สัญญเช่าซื้อโดยทั่วไป ผู้ให้เช่าซื้อมักกำหนดต่อไปอีกว่า …หากทรัพย์ที่เช่าสูญหายไป ผู้เช่าซื้อก็จำต้องผ่อนต่อจนครบสัญญา …… ซึ่ง ในส่วนต่อท้ายนี้ ศาลฎีกามองว่า เป็นการกำหนดค่าเสียหายกันไว้ล่วงหน้า ซึ่งก็เข้าลักษณะเบี้ยปรับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ดังนั้น