รถ EV
แกร็บ เผยยอดคนขับแกร็บใช้รถ EV เกินหมื่นคัน ดึง 5 พันธมิตรใหม่ เสริมทัพหนุนโครงการ Grab EV แกร็บ ประเทศไทย รุดหน้าโครงการ Grab EV เผยยอดคนขับใช้รถ EV ให้บริการบนแพลตฟอร์มเกินหมื่นคัน พร้อมผนึกกำลัง 5 พันธมิตรใหม่ ได้แก่ SUSCO, Whale EV, AGEWAY, SHARGE และ Spark EV ร่วมเดินหน้าผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มคนขับแกร็บ ชูโปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ” ให้คนขับเช่าซื้อ BYD Seal ผ่อนจ่ายเริ่มต้นเพียง 1,010 บาทต่อวัน เปิดเช่าแท็กซี่ไฟฟ้าโดยเพิ่มรถรุ่น Aion ES เป็นตัวเลือก พร้อมอัดส่วนลด-สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับการชาร์จไฟกว่า 600 สถานีทั่วประเทศ นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “โครงการ Grab EV ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 แล้วหลังจากที่เราได้ประกาศเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนคนขับแกร็บที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากก๊าซเรือนกระจก โดยปัจจุบันเรามีคนขับที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอป และดีลิเวอรีโดยใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารวมกันเป็นจำนวนมากกว่าหมื่นคัน ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะ 10 จังหวัด
10 อันดับรถยนต์ EV มียอดซื้อสูงสุด ใน 10 เดือนที่ผ่านมา ของปี 2023 วันที่ 5 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานว่า จากการสำรวจข้อมูลที่กรมการขนส่งทางบกได้จัดทำข้อมูลสถิติจำนวนรถจดทะเบียนครั้งแรก ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จำแนกตามยี่ห้อและเชื้อเพลิง พบว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2566) รถไฟฟ้า (EV) ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง มียอดจดทะเบียนรวมเป็นจำนวน 57,623 คัน สำหรับ 10 อันดับแบรนด์ EV ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด อันดับ 1 : BYD จำนวน 21,881 คัน อันดับ 2 : NETA จำนวน 10,245 คัน อันดับ 3 : MG จำนวน 9,788 คัน อันดับ 4 : TESLA จำนวน 6,886 คัน อันดับ 5 : ORA จำนวน 5,003 คัน อันดับ 6 : VOLVO จำนวน 1,492 คัน อันดับ 7 : BMW จำนวน 1,121 คัน อันดับ 8 : VOLT จำนวน 367 คัน อันดับ 9 : PORSCHE จำนวน 210 คัน อันดับ 10 : WULING จำนวน 90 คัน ทำไมรถยนต์ EV ถึงมียอดขายดี? เนื่องจากรถยนต์ EV เป็นรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ดังนั้น ผู้คนจึงหันมาสนใจ เพราะที่ผ่านมาเราได้เห็นป
“แอนิเทค” บุกตลาด EV รุกเปิดตัว “Anitech EV-ONE” เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพกพาเจ้าแรกที่ผลิตในไทย มั่นใจด้วยมาตรฐาน มอก. พร้อมรุกตลาดไทยก้าวสู่ตลาดโลก คุณโธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “เทรนด์การใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งแบบแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอินไฮบริดมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 มีปริมาณกว่า 15 ล้านคัน และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นรวมกว่า 17.9 ล้านคัน ทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยก็มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนกว่า 59.2% จึงเป็นโอกาสและที่มาของการแตกไลน์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอนิเทคในวันนี้ ซึ่งทีมใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับวิศวกรรถยนต์ EV กว่า 1 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 5 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพสูงและบริการหลังการขายที่เข้าถึงได้ การันตีด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 18 ปี ในตลาดอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ วันนี้แอนิเทคจึงเป็นแบรนด์แรกที่ผลิต Portable EV
รถไฟฟ้า หรือ รถ EV ควรเลือกยางแบบไหนดี? ใช้ยางทั่วไปได้ไหม หากจะพูดถึงรถไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV (Electric Vehicle) ก็ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันนี้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมและเป็นที่พูดถึงในวงกว้างมากๆ เลย เนื่องจากว่ามีข้อดีหลายอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าก็มีสิ่งที่จำเป็นต้องดูแลและให้ความใส่ใจอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของยางรถ EVที่ควรใช้ให้ถูกต้อง แล้วควรเลือกอย่างไร ใช้ยางแบบทั่วไปแทนได้ไหม ในบทความนี้จะมาบอกกัน คุณสมบัติของยางรถ EV ยางรถ EV เป็นยางที่ผลิตขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ นั่นก็เพื่อให้มีความทนทานต่อน้ำหนักของตัวรถที่จะมีความหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไป สิ่งนี้เองที่ทำให้จำเป็นต้องเลือกใช้ยางให้เหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะยางรถยนต์ไฟฟ้ามีคุณสมบัติที่สามารถรองรับการใช้งานของรถได้เป็นอย่างดีนั่นเอง ซึ่งคุณสมบัติของยางรถยนต์ไฟฟ้าก็มีดังต่อไปนี้ ทนทานต่อการสึกหรอ ยึดเกาะถนนได้ดี เงียบกว่ายางรถทั่วไป ประหยัดพลังงานมากกว่ายางรถทั่วไป เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีแรงต้านทานการหมุนน้อยกว่า เลือกยางรถ EV แบบไหนดี ให้เหมาะกับรถ EVของคุณ รถ EV ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้ยางรถ EV เท่านั้น แต่หาก
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ความท้าทายใหม่ธุรกิจยานยนต์ไทย ต้องปรับตัว-รับมืออย่างไรให้ไปต่อ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการพัฒนามากกว่า 60 ปี มีการลงทุนจากต่างชาติมากมาย จนทำให้ทุกวันนี้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ชั้นนำของภูมิภาค และปัจจัยความร่วมมือของไทยและญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ที่ผ่านมาของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยดูมีแนวโน้มสดใสและเป็นไปได้ด้วยดี แต่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในอนาคตจะคงความยิ่งใหญ่เป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์เหมือนเดิมหรือไม่ เพราะโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังจะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) หลายๆ ชาติเริ่มตื่นตัวกับกระแสของรถ EV และลงมาแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะแบรนด์ EV ค่ายจีนมากมายที่ประกาศลงทุนตั้งฐานการผลิตรถ EV ที่ไทย อะไรจะเกิดขึ้นกับผู้ผลิตรถยนต์สันดาป (Internal Combustion Engine : ICE) ในปัจจุบัน และการผลิต EV ในไทยจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหน สถานการณ์ความท้าทายใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเริ่มปรากฏภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และผู้ประกอบการควรจะต้องปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความเป
แคมปัส ออนทัวร์ ครั้งที่ 1 งานเสวนา PHD Forum “คนไทย พร้อมใช้ รถ EV จริงหรือ?” กลุ่มเพื่อนสมาชิก PHD.F ขอเชิญชวนนักศึกษาและบุคคลทั่วไปที่สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม : แคมปัส ออนทัวร์ ครั้งที่ 1 งานเสวนา PHD Forum “คนไทย พร้อมใช้ รถ EV จริงหรือ?” โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์ ได้แก่ 1. ดร.ธงชัย จินาพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้า EV 2. ดร.พิษณุ วิชยโยธิน Technical Engineering Director บจก. SPN Corporation 3. ดร.ฤทธิพล ไชยบุรี ที่ปรึกษาหน่วยงานรัฐและเอกชน 4. ดร.ทวีวัฒน์ มหาศิริอภิรักษ์ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 5. ดร.กิตติโชค นิธิเสถียร ผู้แทนมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด 6. ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ ในวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00-13.00 น. ณ อาคาร Exchange Tower ชั้น G มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตอโศก กรุงเทพฯ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับของที่ระลึกทุกท่าน ได้ที่โทรศัพท์ 081-290-1810 หรือลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ดได้ที่รูป กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนโดยมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด, สมาคม
เสียงจากผู้ใช้จริง! รถ EV (รถพลังงานไฟฟ้า) ประหยัดต้นทุน สตาร์ตไม่เหม็นไหม้ ตอบโจทย์กระแสสิ่งแวดล้อม กระแสความตื่นตัวในด้านสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกรวน ตลอดจนวิกฤตพลังงานโลก ถือเป็นตัวเร่งสำคัญที่ส่งผลให้ยานยนต์ไฟฟ้าหรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่า “รถ EV” (Electric Vehicle) กลายเป็นทางเลือกใหม่ของการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราไปสู่อนาคต ปัจจุบันรถพลังงานไฟฟ้า ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยที่กระแสความนิยมของรถ EV มาแรงอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะในกลุ่มผู้ใช้รถทั่วไป แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนขับรถที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารหรือให้บริการดีลิเวอรี ซึ่งไม่ได้มองเห็นข้อดีเฉพาะแค่การลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง แต่ยังส่งผลดีกับโลกและสิ่งแวดล้อมของเราด้วย คุณแดน-ธนมิตร พัวพงศกร พาร์ตเนอร์คนขับแกร็บคาร์วัย 47 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่อาชีพนี้ว่า เมื่อก่อนตนเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานได้เงินเดือนชนเดือน บางเดือนเงินไม่พอใช้ด้วยซ้ำ พอดีกับที่แกร็บเปิดรับสมัครคนขับอยู่ จึงได้ลองสมัครเป็นไรเดอร์ดูเพราะอยากมีรายได้เสริม
แม็คโคร ปักหมุดผู้นำธุรกิจค้าส่งรักษ์สิ่งแวดล้อม จับมือผู้ผลิตรถ EV ระดับโลก ปล่อยขบวนดีลิเวอรีพลังงานสะอาด ตั้งเป้าใช้รถ EV กว่า 300 คัน ในอีก 3 ปี แม็คโคร เร่งเครื่องสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2030 ประกาศแผนใช้รถดีลิเวอรีพลังงานสะอาดกว่า 300 คัน โดยจับมือ “ซีพี โฟตอน” นำร่องใช้รถ EV ให้บริการในธุรกิจ “แม็คโคร โปร” คาดลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (เทียบเท่า) ได้กว่า 2,500 ตันต่อปี ขานรับแผนของกระทรวงพลังงานในการรณรงค์ใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวว่า แม็คโครมุ่งมั่นในการเป็นธุรกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2030 แม็คโครจึงจับมือกับบริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้ารถ EV แบรนด์ระดับโลก “FOTON” นำรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า มาทดลองให้บริการดีลิเวอรีแก่ลูกค้า ‘แม็คโคร โปร’ ในเขตบางบอน และปากช่อง-เขาใหญ่ พร้อมวางแผนเพิ่มจำนวนรถขนส่งพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง ตั้งเป้ามาก
ตลาดรถ EV ขาขึ้น ยอดขายในไทยพุ่งอันดับ 1 อาเซียน แนะพัฒนาจุดชาร์จ รับเทรนด์เติบโต รถ EV หรือชื่อเรียกแบบเต็มๆ ว่า ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) ในประเทศไทยกำลังมาแรงตลอดช่วงมอเตอร์โชว์แบบพุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ จากความคุ้มค่า ประหยัด ตกเฉลี่ยกิโลเมตรละไม่ถึงบาท ท่ามกลางวิกฤตน้ำมันที่แพงขึ้นทุกวัน และแบรนด์รถ EV หลายแบรนด์มาตั้งโรงงานในเมืองไทยทำราคาใหม่ถูกใจลูกค้าที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและสายรักษ์โลก สอดรับกับนโยบายส่งเสริมการใช้รถ EV ของรัฐบาล ปัจจุบันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หรือที่เรียกว่า BEV (Battery EV) ในประเทศไทย ถือเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยหากมีรถ BEV วิ่งอยู่ 100 คัน บนถนนทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน “จะมีถึง 60 คัน” ที่วิ่งอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีรถ BEV ใหม่ประมาณ 10,000 คัน แต่คาดว่าปี 2566 นี้จะไม่ต่ำกว่า 40,000 คันเลยทีเดียว ดร.ชัยพร เขมะภาตะพันธ์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้รถ BEV ได้รับความนิยมในประเทศไทยว่า เพราะการปรับตัวของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
รถอีวี กระแสแรงข้ามปี แนะ 3 เรื่องควรคิด ก่อนเลือกซื้อ “รถอีวี” ยังคงเป็นกระแสแรงข้ามปี ทั้งในด้านยอดขายที่ได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการอุดหนุนด้านภาษี และความคึกคักจากการเข้ามารุกตลาดไทยของแบรนด์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอดจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ในปีนี้จะอยู่ที่ระหว่าง 25,000-35,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตกว่า 2 เท่าจากปี 2565 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ผู้ซื้ออีวีมือใหม่ตัดสินใจเลือกซื้อและวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจ มาดู 3 เรื่องที่ควรพิจารณาก่อนซื้อรถอีวี ดังนี้ 1. เลือกแบรนด์และรุ่นที่เหมาะกับตนเอง เมื่อพูดถึงตัวเลือกรถอีวี หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทย แต่ปัจจุบันรถอีวีมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ดังที่เราคุ้นเคยและแบรนด์ทางเลือกต่างก็ทยอยเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมแล้วกว่า 20 แบรนด์รถยนต์ และ 50 แบรนด์รถจักรยานยนต์ ผู้ซื้อรถอีวีจึงสามารถเลือกแบรนด์และรุ่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกำลังซื้อของตนเอง ในขณะที่ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ก็ให้บริการสินเชื่ออีวีที่ครอบคลุมทุกประเภทร