รองเท้าเพื่อสุขภาพ

TALON แบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพของไทย จากธุรกิจโรงงาน สู่การเปิดคลินิกสุขภาพเท้าสุดฮอต เบื้องหลังความสำเร็จของรองเท้า “TALON” แบรนด์คนไทย เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นโรงงานผลิต OEM ให้กับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ทั้งในและต่างประเทศมากว่า 43 ปี โดยย้อนไปในปี 2538 เริ่มผลิตรองเท้าเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้าในประเทศเยอรมนี ญี่ปุ่น และอิตาลี ในรุ่นของคุณพ่อวันชัย และคุณแม่รัตนา เตชะสมบูรณากิจ ถือว่ามีชื่อเสียงในด้านการผลิต ด้วยการออกแบบรองเท้าที่สวมใส่ง่าย แถมสวยงาม และช่วยแก้ปัญหาเรื่องเท้าได้เป็นอย่างดี กระทั่งธุรกิจต่อยอดเรื่อยมา จนในปี 2554 โรงพยาบาลชั้นนำในไทย เลือกไว้วางใจให้โรงงานตัดรองเท้าสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และนั่นจึงเป็นที่มาของแบรนด์ TALON รองเท้าสุขภาพ แนวรักษา ที่ไม่ใช่แค่รองเท้าสวมสบาย เหมือนรองเท้าเพื่อสุขภาพทั่วไปในตลาด ภายใต้การนำโดย คุณพรศักดิ์ เตชะสมบูรณากิจ ผู้สืบทอดกิจการของครอบครัว ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นกลยุทธ์ในการขายออนไลน์ของแบรนด์ ผ่านแพลตฟอร์ม Social ทั้งไลน์ และ เฟซบุ๊ก จนเป็นที่รู้จักในบทบาทของการเป็น Foot Specialist และธุรกิจมีอัตราการเติบโตในระด

ดังเปรี้ยงปร้าง ลา เบลล่า รองเท้าสัญชาติไทย เปิดตัว 1 ปี ทำรายได้ทะลุ 100 ล้าน เมื่อการพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้การติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องง่าย การทำธุรกิจ ก็เปิดกว้างขึ้นเช่นกัน โดยผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ล่าสุด ไพรซ์ซ่า (Priceza) ได้มีการคาดการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2020 ว่า มูลค่าจะพุ่งแตะถึง 220,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาช็อปปิ้งสั่งสินค้าทางออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่ง ลา เบลล่า (LA BELLA) แบรนด์รองเท้าแฟชั่นที่สวมใส่สบายตามหลักสรีรศาสตร์ของเท้า ก็เป็นธุรกิจหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยมี ดร.บรินดา แฮนเซ่น นักธุรกิจออนไลน์เจ้าของฉายา เจ้าแม่เฟซบุ๊กของเมืองไทย และ คุณพิรีพรรณ อนุพงษ์ไพบูลย์ นักธุรกิจสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการเครื่องหนังมากว่า 10 ปี เป็นผู้ก่อตั้ง “เราเริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นเมื่อปี 2018 จากประสบการณ์ที่เราอยู่ในธุรกิจออนไลน์มานาน เรารู้ว่าในยุคนี้การแข่งขันสูงขึ้นมาก การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญ แ

“โควิดทำให้ระวังการใช้เงินมากขึ้น” แม่ค้ารองเท้าขาดรายได้ จนต้องเย็บแมสก์ขาย จากปัญหารองช้ำ หรือการปวดส้นเท้าที่เธอและคนในครอบครัวเป็นอยู่บ่อยๆ หลายครั้งพยายามหาแบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพ แม้ถูกใจแต่ต้องแลกมากับราคาแสนแพง ทำให้ คุณหมิว-เปรมยุดา ห้วยหงษ์ทอง อายุ 43 ปี ลาออกจากงานประจำตำแหน่ง Account Manager ขายโฆษณาและดูโปรเจ็กต์ให้กับนิตยสารด้านกีฬาและสุขภาพ มาทำแบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพเป็นของตัวเอง ในชื่อ “PL Health Shoes” อ่านเพิ่มเติม สาวใหญ่ปั้นแบรนด์ “รองเท้าเพื่อสุขภาพ” ช่วยซัพพอร์ตอุ้งเท้า ขายดีจนโดนก๊อบ ธุรกิจร้านขายรองเท้าเพื่อสุขภาพของคุณหมิวดำเนินเรื่อยมา และยังคงออกบู๊ธตามโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น มีลูกค้าเก่าแวะมาอุดหนุนมากถึง 80% กระทั่งเกิดโควิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่สามารถออกบู๊ธได้ ลูกค้าลดลงเหลือ 10% ทำให้เธอต้องเย็บแมสก์ขายเป็นรายได้เสริม “ตอนแรกคิดว่าโควิดคงระบาดไม่นาน อย่างเก่งคงแค่เดือนเดียว แต่ไม่ใช่เลย ยิ่งติดตามข่าวสารทั่วโลกยิ่งกังวลหนัก มีช่วงหนึ่งที่แมสก์ขาดตลาด หาซื

สาวใหญ่ปั้นแบรนด์ “รองเท้าเพื่อสุขภาพ” ช่วยซัพพอร์ตอุ้งเท้า ดีไซน์คลาสสิก ขายดีจนโดนก๊อบ จากปัญหารองช้ำ หรือการปวดส้นเท้าที่เธอและคนในครอบครัวเป็นอยู่บ่อยๆ หลายครั้งพยายามหาแบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพ แม้ถูกใจแต่ต้องแลกมากับราคาแสนแพง ทำให้ คุณหมิว-เปรมยุดา ห้วยหงษ์ทอง อายุ 43 ปี ลาออกจากงานประจำตำแหน่ง Account Manager ขายโฆษณาและดูโปรเจ็กต์ให้กับนิตยสารด้านกีฬาและสุขภาพ มาทำแบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพเป็นของตัวเอง ในชื่อ “PL Health Shoes” ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน คุณหมิวมีอาการปวดส้นเท้า หมอจึงแนะนำให้เธอใส่รองเท้าเพื่อสุขภาพช่วยบรรเทาอาการปวด เดินสำรวจหลายที่จนรู้ว่า รองเท้าติดแบรนด์ที่ขายในห้างจะมีราคาสูง แต่ถ้าขายในตลาด ส่วนใหญ่เป็นของก๊อบปี้ ไม่ติดแบรนด์ คุณภาพไม่ดี “รองเท้าเพื่อสุขภาพตามห้างส่วนใหญ่ติดแบรนด์ ราคาหลายพันบาท พี่เคยซื้อคู่ละ 9 พันบาทใส่ ยอมรับว่าดีขึ้น เจ็บเท้าน้อยลง แต่ราคาสูงเกิน ทำให้คนในครอบครัวซึ่งมีอาการปวดส้นเท้าเหมือนกันไม่อยากซื้อเพราะเสียดายเงิน ตามสำเพ็งเป็นสินค้าโนเนม คุณภาพไม่ดี ทำให้พี่ตัดสินใจทำแบรนด์รองเท้าเอง” เมื่อคิดแล้วว่าจะทำแบรนด์รองเท้า คุณหมิวเริ่มศึกษ

เทรนด์รักสุขภาพมาแรง ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ พลอยได้รับอานิสงส์ด้านบวกไปด้วย “รองเท้าเพื่อสุขภาพ” ถือเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน Klas & sylph (คลาส แอนด์ ซิลฟ์) แบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพที่อยู่คนไทยมานานถึง 8 ปี กับแนวคิดหลักในการออกแบบ “รองเท้าเพื่อสุขภาพของคนรุ่นใหม่ ไม่ต้องรอใส่ตอนแก่” มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย สีสันสวยงาม พื้นรองเท้าถูกออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตรงตามหลักศาสตร์กระดูกและเท้า หรือ ออโธปิ ดิกส์ (Orthopedics) เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวกับการทำงานของกล้ามเนื้อและกระดูกโดยเฉพาะ คุณจอย- หรือสุธิดา ตีรประเสริฐ เจ้าของ คลาส แอนด์ ซิลฟ์ เล่าว่า เดิมครอบครัวทำธุรกิจโรงงานรับผลิตรองเท้าเพื่อสุขภาพ หรือ OEM มานาน 30 ปี ฉะนั้นดีไซน์รองเท้าถูกจำกัดด้วยความชอบของลูกค้ามาตลอด ครั้งเมื่อจบการศึกษา Management จาก Lancaster University ประเทศอังกฤษ กลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว โดยตั้งใจว่าจะสร้างแบรนด์รองเท้าเป็นของตัวเอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ รองเท้าสุขภาพต้องมีดีไซน์ที่โมเดิร์น ทันสมัย ใส่แล้วสวยได้ไม่ต้องอายใคร ภายใต้การพัฒนาแบรนด์รองเท้าของตัวเอง คุณจอย เล่าว่า ทางบ้านต้องเลิกผลิตรองเท้าให้แบร

อดีตเด็กผู้หญิงตัวเล็กเกิดมาต้นทุนต่ำครอบครัวไม่รวย เคยขอข้าววัดกินประทังชีวิต แต่ด้วยใจรักแฟชั่น พยายามเก็บหอมรอมริบ ขวนขวายหาโอกาส จนกระทั่งตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 4 สร้างแบรนด์กระเป๋า – เสื้อผ้าแฟชั่น ด้วยวิธีออกแบบ แล้วจ้างโรงงานผลิต ขายส่งย่านประตูน้ำและสำเพ็ง จากธุรกิจเล็กๆ นั้น วันหนึ่งเติบโต กลายมาเป็น SHUBERRY (ชูเบอร์รี่) รองเท้าแฟชั่นเพื่อสุขภาพยอดขายร้อยล้านในทุกวันนี้ คุณกรกนก สว่างรวมโชค หรือ คุณป้อ เจ้าของธุรกิจรองเท้าแฟชั่นเพื่อสุขภาพ SHUBERRY (ชูเบอร์รี่) กล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจาก ครั้งหนึ่งเคยประสบอุบัติเหตุที่เท้า ทำให้ไม่สามารถเดินได้ปกตินานหลายเดือน ช่วงนั้นเฟ้นหารองเท้าดีๆ มาสวมใส่หวังเพื่อบรรเทาอาการเดินให้ดีขึ้น แต่ก็ไม่มีที่ถูกใจ จึงเกิดความคิดอยากทำรองเท้าใส่เอง โดยอาศัยหลักการนวดฝ่าเท้าและโซฟา มีความแน่น นุ่ม สปริงตัวได้ดี เกิดความสมดุลขณะเดิน “ย้อนกลับไปตอนที่ดิฉันหารองเท้าเพื่อสุขภาพมาใส่ตอนที่ข้อเท้าบาดเจ็บ พบว่า รองเท้าเหล่านี้ส่วนใหญ่พื้นแข็ง ดีไซน์ไม่ทันสมัย เลยอยากจะทำรองเท้าเพื่อสุขภาพที่ทั้งสวยงามและมีคุณสมบัติในการนวดฝ่าเท้าในขณะใส่เดินได้