ระนอง
จากเด็กต่างจังหวัดสู่เชฟดาวรุ่ง! เชฟอิน กำลังอิน สานต่อความฝัน ชูวัตถุดิบถิ่นใต้ ที่ใครอยากกินต้องจองเท่านั้น ชายหนุ่มผู้หลงใหลในการทำอาหาร ต้นแบบของการประสบความสำเร็จด้วยความมุ่งมั่น ผลักดันตนเองให้ก้าวเข้าสู่สิ่งที่ดีกว่า และเริ่มต้นความฝันนี้มาจากคำว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของ เชฟอิน-ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ หนุ่มชาวระนอง ที่กำลังเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมากในโลกโซเชียล โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม TikTok ด้วยชื่อบัญชี @ins_kamlangin หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กำลังอิน” และปัจจุบันเป็นเจ้าของร้าน “ครัวบ้านอิน” “อยากเรียนต่อปริญญาตรี อยากมีปริญญาใบแรกให้ที่บ้าน” เชฟอิน เกิดและโตที่จังหวัดระนอง โดยที่บ้านเปิดร้านอาหาร คุณแม่เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว จึงทำให้เขาซึมซับบรรยากาศของการทำอาหารมาตั้งแต่เล็ก ซึ่งจริงๆ ในช่วงนั้น ยังไม่ได้คิดว่า อาหาร จะเป็นอาชีพในฝันของเขา จนเรียนมาจนถึง ม.2 มีครูคนหนึ่งถามเขาว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” เชฟอิน เล่าต่อว่า เคยถูกสอนมาว่า “ถ้าพ่อกับแม่เป็นอะไร เราจะเป็นให้ได้ดีกว่า อย่างพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้าน เราก็คิดว่าอยากจะเป็นนายอำเภอ
จากฟาร์มไก่ สู่ธุรกิจโรงแรม รับกระแสเที่ยวเมืองรอง จ.ระนอง ชูห้องพักราคาหลักพัน เจาะกลุ่มครอบครัว เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของ จ.ระนอง เมืองรองที่ผู้คนนิยมมาใช้เวลาพักผ่อน ทำให้ คุณจุฑาพรรค์ มหพันธุ์ทิพย์ ตัดสินใจเปิดโรงแรมฟาร์มเฮาส์ ระนอง และร้านอาหาร FarmHouse Ranong Hotel & Restaurant ซึ่งเริ่มดำเนินกิจการในปี 2556 โดยมีคุณพ่อช่วยสนับสนุน จากจุดเริ่มต้นเพียง 25 ห้อง ปัจจุบันขยับขยายมากกว่า 71 ห้อง ราคาห้องพักมีตั้งแต่ 1,480-4,000 บาท “แรงผลักดันของคุณพ่อสนับสนุนให้กล้าตัดสินใจ ลงมือทำก่อนคนอื่น ทำให้มีโอกาสก่อนคนอื่น อาจเพราะท่านเป็นนักธุรกิจ เปิดฟาร์มไข่ไก่มาก่อน เป็นคนที่มองการณ์ไกล ทำให้มีมุมมองเรื่องธุรกิจมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเรื่องการเรียน ส่วนตัวสนใจเรื่องการโรงแรม เรื่องอาหาร แต่ท่านให้เลือกเรียนสาขาที่ประสบการณ์ข้างนอกให้ไม่ได้ก่อน เลยตัดสินใจเรียนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พอเรียนจบก็สมัครเข้าเรียนด้านอาหารที่วิทยาลัยดุสิตธานี และสะสมประสบการณ์สมัครเข้าทำงานในโรงแรมต่างๆ เป็นเวลา 2 ปี” คุณจุฑาพรรค์ เล่าถึงการเติบโตของธุรกิจโรงแรม ส่
“ขับรถมาธนาคารด้วยใจบางๆ” ฟาร์มสเตย์ดัง ยอมเอาที่ดินกู้ธนาคารต่อลมหายใจ จากผลกระทบของโควิดลากยาวถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจต้องประคับประคองตัวเองกันแบบสุดลมหายใจ ล่าสุด เพจฟาร์มสเตย์ดัง บ้านไร่ ไออรุณ baan rai i arun จ.ระนอง โพสต์ระบุว่า “ขับรถ มาธนาคาร ด้วยใจบางๆ กับทางเลือกที่ไม่ได้มีมากอะไร ของผู้ประกอบการ ในเวลานี้…เคยคิดไว้ว่า การกู้เงินคือทางเลือกสุดท้าย ที่จะทำ เเต่ถ้ามันจำเป็น ก็คงเป็นวิธีที่ดี ไม่ต้องไปรบกวนใคร เพื่อนำเงินจำนวนนึง มาประคับประคอง ปรับปรุง ซ่อมเเซม ฯลฯ เป็นค่าเเรงให้กับพนักงาน กันไปก่อนในช่วงนี้ ได้ เเละขอเป็นกำลังใจ ให้ SMEs ธุรกิจเล็กๆ รวมถึง ผู้ประกอบการทุกคน ที่ต่างกำลังดิ้นรน สู้อยู่ รู้ว่าหนัก เเต่เราจะต้องผ่านมันให้ได้อีกครั้ง นะครับ เบส – บ้านไร่ ไออรุณ” ก่อนหน้านี้ คุณเบส-วิโรจน์ ฉิมมี เจ้าของ บ้านไร่ ไออรุณ baan rai i arun เคยให้สัมภาษณ์กับเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า “อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ไม่ใช่เส้นทางท่องเที่ยวเหมือน สมุย ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ แต่เป็นชุมชนที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน ไปขอกู้แบงก์ก็ไม่ผ่าน เพราะโลเกชั่นไม่สามารถทำรีสอร์ต หรือร้านอาหารได้ เล
“บ้านหาดส้มแป้น” ชุมชนเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยหุบเขานมสาว และลำธาร ในอดีตมีชาวจีนอพยพเข้ามาในพื้นที่เพื่อหาแร่ดีบุก เมื่อมีคนถามไถ่กับชาวจีนกลุ่มนี้ว่าจะไปที่ไหน ก็ได้รับคำตอบว่า “ฮวยซัมเปียน” ซึ่งแปลว่า ลึกเข้าไปในหุบเขา ซึ่งเป็นลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้านในตอนนั้น เมื่อกาลเวลาผ่านไป คำว่า ฮวยซัมเปียน จึงเพี้ยนเสียงมาเป็น “หาดส้มแป้น” ในที่สุด บ้านหาดส้มแป้น ถือเป็นแหล่งแร่ที่สำคัญของจังหวัดระนอง ในสมัยก่อนจึงมีการตั้งรกรากกันในบริเวณนี้ เพื่อทำเหมือง “แร่ดีบุก” ซึ่งถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ แต่ในปัจจุบัน แร่ดีบุกกลับมีราคาถูกและจำนวนลดลง แต่ได้มีการพบ “แร่ดินขาว” ที่ได้ชื่อว่า แร่ดินขาวจากบ้านหาดส้มแป้นนั้น มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย จึงมีการรวมกลุ่มกันของชาวบ้าน และนำแร่ดินขาวมาผลิตเป็นงานเซรามิก จำพวกแก้ว จานชาม ชุดกาแฟ ในสไตล์ตัวเอง ภายใต้ “กลุ่มเซรามิกบ้านหาดส้มแป้น” คุณจ๋าจ้า – สุรีย์พร สรรพกุล ประธานท่องเที่ยวชุมชนบ้านหาดส้มแป้น เล่าให้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟังว่า การที่ชาวบ้านมารวม
อดีตข้าราชการตำรวจวัยเกษียณ เกิดที่นครศรีธรรมราช ผันตัวมาสวมบทบาทเกษตรกร และใช้ชีวิตอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดระนอง ด้วยการปลูกปาล์ม ปลูกยางพารา ปลูกผักสวนครัว และบรรดาผลไม้สารพัด บนที่ดิน 170 ไร่ แถมลดต้นทุนด้วยการทำปุ๋ยใช้เอง จนเได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพทำสวน ปี 2555 ปัจจุบันเก็บผลผลิตขาย มีรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัวไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2 แสน ด.ต.สมนึก โมราศิลป์ บ้านเลขที่ 1/9 บ้านห้วยปลิง หมู่ที่ 7 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง เผยว่า ในอดีตเคยรับราชการตำรวจ และเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด เมื่อปี 2543 โดยส่วนตัวเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ชอบเรื่องเกษตร จึงไปศึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ช่วงแรกปลูกพืชระยะสั้นบนพื้นที่ 2 ไร่ อาทิ พริก แตงกวา มะเขือ ใบโหระพา กล้วย ขิง ข่า ต่อมาขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันราว 100 ไร่ รวมเบ็ดเสร็จ ปลูกปาล์มน้ำมันกว่า 2,200 ต้น ปาล์มน้ำมันของ ด.ต. สมนึก ถูกบำรุงดูแลรักษาเป็นอย่างดี ให้ผลผลิตเดือนละ 2 ครั้ง แถมยังได้มาตรฐาน GAP ก่อเกิดรายได้ ให้ผลตอบแทนค่อนข้างคุ้มค่า และด้วยความต้องการอยากทำเกษตรผสมผสาน เกษตรกรคนเก่ง เลยปลูกยางพารา ผลไม้ ผักสวนครัว อย่างอื่นร
กรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของ คุณครูอัญทิพย์ ฤทธิ์ทอง ครูสอนศิลปะ จากโรงเรียนบ้านภูเขาทอง จ.ระนอง ที่ใช้ชอล์ควาดพระบรมสาทิสลักษณ์บนกระดานดำให้นักเรียนดู โดยระบุว่า “คุณครูอัญทิพย์ ฤทธิ์ทอง ครูในรัชกาลที่ ๙ จากโรงเรียนบ้านภูเขาทอง จังหวัดระนอง” ซึ่งก็มีชาวเน็ตแห่เข้ามาชื่นชมคุณครูคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อ่านข่าว ชาวเน็ตชื่นชม ครูสาวระนองวาดพระบรมสาทิสลักษณ์บนกระดานดำ ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านภูเขาทอง ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง เพื่อขอสัมภาษณ์ถึงสาเหตุและที่มาที่ไปของการใช้ชอล์ควาดพระบรมสาทิสลักษณ์บนกระดานดำให้นักเรียนดู จนเกิดกระแสชื่นชมกันกระหึ่มในโลกออนไลน์ แม้จะเป็นวันหยุด ยังมีคุณครูมานั่งเตรียมแผนการเรียนการสอนร่วมกันที่ห้องสมุดประจำโรงเรียน และมีน้องๆนักเรียนชั้นประถมศึกษาช่วยงานบรรณารักษ์ ได้เก็บหนังสือที่เพื่อนๆนักเรียนยืมไปอ่าน เข้าเก็บไว้บนหิ้งหนังสือ ตามหมวดหมู่อักษร อย่างเป็นระเบียบ และได้วาดภาพภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงฉายพระรูปบนกระดานดำขึ้นมาใหม่ โดยมีแบบร่างภาพจากหนังสือที่รวบเรื่