ราคาสินค้า
ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาด 10 สินค้าเกษตร มีแนวโน้มปรับราคาขึ้น-ลง ในเดือน มี.ค. คุณสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนมีนาคม 2564 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 11,859-12,028 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.04-1.47 เนื่องจากสต๊อกข้าวในยุ้งฉางของเกษตรกรลดลง และราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งขัน ทำให้ประเทศคู่ค้ามีการนำเข้าข้าวหอมมะลิมากขึ้น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 8.27-8.33 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.20-1.00 เนื่องจากผลผลิตที่เก็บเกี่ยวในฤดูแล้งมีเพียงร้อยละ 5 ของปริมาณผลผลิตทั้งปี ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้น ผู้ประกอบการจึงลดการนำเข้าข้าวสาลี ส่งผลให้ความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อเก็บสำรองไว้ปรับเพิ่มขึ้น ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 51.22-51.89 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50-1.80 เนื่องจากผลผลิตมีแนวโน้มลดลงจากยางพาราเข้าส
“ต่อราคา” ปัญหาคลาสสิก แม่ค้า เข้าใจหัวอกคนซื้อ ลดได้ก็ให้ แต่ “อย่าต่อเยอะ”นะจ๊ะ ในการค้าขาย สิ่งที่ผู้ประกอบการล้วนต้องประสบพบเจอ นอกจากเรื่องของสภาพดินฟ้าอากาศ คู่แข่งทางธุรกิจ หรือ สภาพคล่องทางเศรษฐกิจ “การต่อราคา” ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าต่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เจ้าของกระทู้รายหนึ่งในเว็บไซต์พันทิป ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการต่อราคาสินค้าว่า ทำไมคนเราชอบต่อราคากับแม่ค้าตามตลาดที่หาเช้ากินค่ำ แต่กลับไม่เคยต่อราคากับพ่อค้าที่ร่ำรวยตามห้างหรือภัตตาคาร พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์ให้เห็นภาพ จนชาวพันทิปต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จึงสอบถามไปยังพ่อค้าแม่ขายอาชีพต่างๆ ว่ามีความเห็นอย่างไร เกี่ยวกับการต่อราคาสินค้าของผู้บริโภค ลูกจ้างร้าน เล้งบิวตี้มาร์ท ในย่านเตาปูน ให้สัมภาษณ์ว่า ร้านแห่งนี้ขายเกี่ยวกับเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ย้อมผมมากว่า 20 ปี ตนทำงานที่ร้านแห่งนี้มานานพอสมควร เคยเจอลูกค้าเขามาต่อราคาสินค้าเช่นกัน แต่ตนก็ได้รับคำสั่งจากเจ้าของร้านที่เข้าใจลูกค้า ถ้าสินค้าใดที่พอจะลดราคาได้ก็ลดให้ แต่ถ้าอันไหนลดไม่ได
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ๆ มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยกรณีฉุกเฉินอย่างอุทกภัย ออกตรวจสอบสถานการณ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด โดยติดตามสถานการณ์สินค้าจำเป็นต่อการครองชีพและดูแลไม่ให้เกิดการกักตุน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้า ทั้งในช่วงที่เกิดอุทกภัยและหลังเกิดอุทกภัย “ช่วงที่เกิดน้ำท่วมได้สั่งการพาณิชย์จังหวัดประสานผู้ผลิต จัดหาสินค้าที่จำเป็นเข้าไปในพื้นที่ ไม่ให้ขาดแคลนและกระจายสินค้าไม่ให้ตกค้าง ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง และยังได้มอบหมายให้จัดรถจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่มบรรจุขวด นมสดพร้อมดื่ม และไข่ไก่ เป็นต้น และจัดจุดจำหน่ายสินค้าในพื้นที่เกิดอุทกภัยให้มากที่สุด รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัย” นางอภิรดีกล่าว ทั้งนี้ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 30 จังหวัด และสถานการณเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 28 จังหวัด คงมีจังหวัดที่ประสบอ