ร้านขนมไทย
ยายทำให้หลานขาย ร้านขนมไทย แผงเล็กๆ ที่ขายได้วันละ หลักหมื่น “ยายทำให้หลานขาย” ร้านขนมไทย ที่อัดแน่นไปด้วยขนมหวานไทย จากฝีมือคุณยาย กว่า 40 เมนู หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปแต่ละวัน วันละ 20 เมนู ได้หลานคนเก่ง คนรุ่นใหม่มาช่วยทำการตลาด ทุกวันนี้ขายดิบขายดี หากขายหมดแผงจะสร้างรายได้ วันละ 20,000-30,000 บาท โดยประมาณ จุดเริ่มต้นของร้านนี้มาจาก คุณนัท-พัชริดา มะลา วัย 28 ปี ก่อนหน้านี้ เธอและแฟน (คุณอนงค์นาฎ สุหาลา หรือ ปู) เคยทำงานประจำ แถมรับงานฟรีแลนซ์เป็นตากล้อง และคอนเทนต์ครีเอทีฟ แต่เมื่อโควิดมา ทั้งคู่จึงไม่มีงาน ประจวบเหมาะ คุณยายซึ่งยึดอาชีพขายขนมไทยมานานกว่า 50 ปี อยากมีรูปขนมสวยๆ ไว้ดู จึงวานให้เธอและแฟนช่วยถ่ายรูปให้ อีกทั้งคุณแม่ ซึ่งปกติจะนำขนมของคุณยายออกขายตามตลาดนัด ก็ไม่สามารถไปขายได้เหมือนเดิม เพราะมีโรคระบาด และไม่เคยขายออนไลน์ด้วยเป็นคนรุ่นเก่า คุณนัทจึงนำรูปถ่ายโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว และเปิดรับออร์เดอร์แรก “เพื่อนๆ เห็นโพสต์แล้วให้ความสนใจกันเยอะมาก ชมว่ารูปสวย ขนมดูน่าทานมาก เลยเปิดรับออร์เดอร์แรกจากเฟซบุ๊กตัวเอง จากนั้นก็เริ่มโพสต์ขายในกลุ่มของกินโซนล
ถอดสูตรสำเร็จ ยายทำให้หลานขาย ร้านขนมไทยสุดฮิต ทำอย่างไร ถึงครองใจลูกค้า “ยายทำให้หลานขาย” คือร้านขนมไทยแผงเล็กๆ แต่ขายดีมาก แถมเป็นที่รู้จักในซอยอารีย์ เสิร์ฟขนมไทยมากกว่า 20 ชนิดต่อวัน จากสูตรเด็ดของคุณยายผู้ขายขนมไทยมานานกว่า 50 ปี กระทั่งได้หลาน คุณนัท-พัชริดา มะลา วัย 28 ปี มาช่วยต่อยอด หากขายหมดแผงจะสร้างรายได้ วันละ 20,000-30,000 บาท โดยประมาณ อะไรคือสูตรสำเร็จ ของ “ยายทำให้หลานขาย” เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ไขคำตอบให้แล้ว 1. เมนูหลากหลาย ราคาสบายกระเป๋า แม้จะเป็นร้านขนมแผงเล็กๆ แต่ ยายทำให้หลานขาย มีขนมไทยให้เลือกชิมมากกว่า 40 เมนู หมุนเวียนหน้าร้านวันละ 20 กว่าเมนู ไม่มีเบื่อ โดยขนมทั้งหมด ปรุงจากสูตรเด็ดของคุณยายผู้ทำขนมขายมากว่า 50 ปี ปรุงสดใหม่ทุกวันจากบางบัวทอง ก่อนนำมาเสิร์ฟหน้าร้าน โดยขนมที่ต้องมีติดหน้าร้านเป็นประจำทุกวัน คือ ขนมใส่ไส้ ข้าวต้มมัด ขนมกล้วย ขนมโค ขนมต้ม เปียกปูน เป็นต้น ขายราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้น 25-35 บาท 3 กล่อง 100 บาท ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากทานหลายอย่าง 2. แบ่งวันขาย พบปะลูกค้าหลายๆ กลุ่ม ยายทำให้หลานขาย ไม่ได้เปิดแผงประจำอยู่แห่งเด
ต่อยอด ขนมไทยรสมือแม่ ใส่แก้วชานม พร้อมทาน สร้างยอดขายปัง 300 แก้วต่อวัน พูดถึง “ขนมไทย” มีหลายร้านอร่อยให้เลือกตามใจชอบ แต่สำหรับบางคน ไม่ต้องไปร้านไหนให้ไกลตัว เพราะรสมือแม่นี่แหละ อร่อยที่สุด…จากความทรงจำในวัยเด็ก และความคิดถึง ทำให้ คุณนาย-ยุวลักษณ์ พูลเสถียร อายุ 33 ปี นำขนมไทยสูตรเด็ด 25 ปีของแม่ มาต่อยอดสู่ “ร้านวลักษณ์ ขนมไทย” เน้นสูตรโบราณ ใช้วัตถุดิบชั้นดี พร้อมสร้างไอเดียใหม่ ใส่แก้วชานมไข่มุก สร้างยอดขายสุดปังวันละ 300 แก้ว คุณนาย เล่าให้ฟัง คุณแม่ยึดอาชีพขายขนมไทยรถเข็นในต่างจังหวัด ซึ่งขายดีมาก ไม่เกิน 2 ชั่วโมงหมดเกลี้ยง แต่หลังจากท่านขึ้นมาทำธุรกิจในกรุงเทพฯ เปิดร้านข้าวเหนียวมะม่วงเจ๊เตียง จึงไม่มีโอกาสได้ทานขนมรสมือแม่อีกเลย กระทั่งวันหนึ่งได้ร้องขอให้คุณแม่ทำขนมไทยให้ทานอีกครั้ง เพราะทนความคิดถึงไม่ไหว “แม่ทำให้ชิม 2-3 เมนู รสชาติยังอร่อยเหมือนเดิม ขนมแม่เราเริ่ดที่สุด หาซื้อที่ไหนไม่ได้ นั่งคุยกันเล่นๆ กับคนในครอบครัว เดี๋ยวนี้แก้วชานมไข่มุกมีไซซ์เล็ก ถ้าทำขนมไทยใส่แก้ว ต้องดีมากแน่ๆ ขนส่งสะดวกเพราะซีลฝาปิด แกะทานง่าย ไม่เป็นภาระล
ถ้าไม่มีความชัดเจน…คงต้องปิดร้าน เพราะวิกฤตรอบนี้ มันแย่กว่าที่ผ่านมาจริงๆ หลังจากที่ได้สัมภาษณ์กันไปตั้งแต่มีการระบาดใหม่ๆ วันนี้มีโอกาสได้กลับมาคุยกับ คุณใหญ่ – ธรณ์เทพ รัตนากร ออร์แกไนเซอร์ผู้ผันตัวมาทำขนมไทยขายในช่วงโควิด-19 อีกครั้ง เขาอัพเดตกิจการให้ฟังว่า ในช่วงหนึ่งปีที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ด้วยสายอาชีพที่ทำเกี่ยวกับอีเว้นต์งาน ทำให้ได้รับผลกระทบและปรับตัวโดยการมาทำขนมไทยโบราณขาย “ขนมไทย” ทางรอดอดตายจากโควิด-19 ของ ออร์แกไนเซอร์หนุ่ม หลังสถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้น ก็กลับมารับงานจัดอีเว้นต์ได้เหมือนเดิม เพียงแต่มีการเพิ่มมาตรการการป้องกันโควิด-19 เข้ามา ทำให้มีเวลาให้ธุรกิจขนมไทยน้อยลง จึงอาศัยก็ออกบู๊ธขายเสียเป็นส่วนใหญ่ “ขนมไทยกระแสดีนะครับ แต่ด้วยความที่สถานการณ์มันเริ่มกลับมาปกติ เราก็กลับไปทำงานหลักของเราเป็นหลัก แต่ขนมก็ยังไม่ได้ทิ้ง ยังทำเหมือนเดิมแต่เน้นออกบู๊ธขายมากกว่า ลูกค้าก็มีมาบอกว่า เขาอยากกินแต่ตามไปทุกงานที่เราไปไม่ได้ เลยแพลนกันกับทีมว่าจะทำเป็นร้าน แต่ก็มาจังหวะโควิดรอบ 2 ก็เลยต้องหยุดไว้กัน แต่ก็ดูๆ สถานที่เตรียมไว้” “พอรอบ 2 มันซาแ
อดีตสาวออฟฟิศ ลาออกมาเปิดร้านขนมไทย ต่อยอดสูตรใหม่ ตีตลาด นศ.-วัยทำงาน ขนมไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทย เนื่องด้วยมีความละเอียดอ่อนในการเลือกสรรวัตถุดิบ พิถีพิถันในการทำ อีกทั้งมีสีสันสวยงาม รสชาติอร่อย รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ในสมัยโบราณ คนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญ เช่น งานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญต่างๆ หรือทำไว้ต้อนรับแขกสำคัญ เนื่องจากขนมบางชนิด จำเป็นต้องใช้กำลังคน และอาศัยเวลาในการทำอย่างประณีตบรรจงพอสมควร ต่อมาเมื่อการค้าเจริญขึ้น ในตลาดจึงมีขนมนานาชนิดมาขาย นับว่าเป็นยุคของขนมไทยและยังคงความนิยมมาได้จนถึงปัจจุบัน คุณเฟิน – ปนิตา บุญประคอง วัย 27 ปี เจ้าของร้าน “หยอดคำหวาน” ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่หันมายึดอาชีพทำขนมไทยขาย โดยเธอเล่าให้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟัง ถึงที่มาที่ไปนี้ว่า เธอเรียนจบจากคณะอุตสาหกรรมเกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ก็เข้าทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งตามขั้นตอนของเด็กจบใหม่ แต่ก็มีร้าน เปิดร้านหยอดคำหวาน ควบคู่กันไปด้วย “ตอนนั้นทำงานบริษัทแล้วก็เปิดร้านขนมเป็นอาชีพเสริมควบคู่กันไป แต่ทางบ้านเฟินเอง ชอบท
“ร้านเบเกอรี่” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจในฝันของใครหลายคน เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากคนรุ่นใหม่นิยมทานขนมปัง หรือ เค้ก แทนอาหารมื้อหลัก รวมถึงการได้ทานขนมหวานช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ฉะนั้นส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าวเติบโตมีมูลค่านับหมื่นล้านบาท อาจารย์ฟ้า-นัฏฐภพ นพปฎลสวัสดิ์ เจ้าของ เพจเจ้าฟ้า Indy ฮวงจุ้ย เปิดตำแหน่งวางครัวร้านเบเกอรี่ วางตรงไหนถึงเรียกทรัพย์ ดึงลูกค้าให้เดินเข้าอุดหนุนทั้งวัน อาจารย์ฟ้า บอกว่า หากท่านใดอยากมีกิจการร้านเบเกอรี่ ร้านขนมไทย ร้านขนมหวาน ยกเว้น !!! ร้านขนมฟิวชั่น หรือท่านใดมีร้านแล้ว อยากขายดี อยากทำให้ขนมของร้านตัวเองอร่อย ควรตั้งครัวไว้ ตำแหน่งหงส์ เท่านั้น!!! ถึงจะทำให้ขนมอร่อย สะอาด!! สำหรับเหตุผล อาจารย์ฟ้า บอกว่า ตำแหน่งหงส์ เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่มีความละเอียดประณีต สะอาด และใส่ใจกับทุกสัดส่วนของขนม มีการชั่งตวงวัดที่แน่นอน หากขนมสะอาด อร่อย ยอดขายก็จะดีขึ้นตามมา คำอธิบายตำแหน่ง 1. มังกร ตัวแทนผู้ชาย มักใจใหญ่ ไม่รอบคอบ กล้าได้กล้าเสีย 2. หงส์ ตัวแทนผู้หญิง ละเอียด รอบคอบ ใส่ใจในรายละเอียด 3. ลูกหงส์ ตัวแทนเด็กผู้หญิง มีความละเอียด แต่ยังไม่ค่อยเป๊ะ
เปิดนานกว่า 4 ทศวรรษ ร้านขนมไทยโบราณเมืองแปดริ้ว อร่อยระดับเชลล์ชวนชิม หากเอ่ยถึงร้านขนมไทยสักร้าน ที่ยังคงมนต์เสน่ห์และรสชาติของขนมไทยโบราณไว้จนถึงปัจจุบัน คงต้องยกให้ “รินขนมไทย” ร้านนี้อยู่สร้างความอร่อยมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ เป็นร้านของฝากจากเมืองแปดริ้วที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพอย่างดีมาเพื่อผู้บริโภคโดยแท้จริง คุณริน-ภาวริน น้อยใจบุญ ทายาทรุ่นสอง ในวัย 49 ปี เธอเข้ามารับช่วงต่อ ดูแลกิจการร้านรินขนมไทยตั้งแต่ปี 2544 เพียงแต่ตอนนั้นเข้ามาดูแลกิจการในส่วนบัญชี จนปี 2559 เธอได้เข้ามาบริหารเต็มตัว ก่อนเล่าย้อนที่มาที่ไปของร้านให้ฟังว่า ร้านรินขนมไทยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2517 จากความตั้งใจของรุ่นพ่อรุ่นแม่ ที่อยากทำขนมสูตรโบราณซึ่งได้รับการตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นให้เป็นที่รู้จัก เป็นโอกาสดีช่วงนั้นใกล้วันสารทไทย ขนมชนิดแรกของร้านจึงเป็น กระยาสารท ใช้น้ำอ้อยแท้เข้มข้นไม่เหมือนร้านไหน ณ ตอนนั้น รินขนมไทย ยังเป็นกิจการเล็กๆ ภายในครัวเรือน ตั้งอยู่บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 314 ใช้พื้นที่หลังบ้านเป็นที่รังสรรค์ความอร่อย ด้วยคนงานเพียง 2-3 คน ส่วนหน้าร้านใช้พื้นที่หน้าบ้านวางขาย และทำตล
หลังจากที่ ดร.แก้มหอม ณ ลานช้าง หรือ “แม่มดกัญชา” ร่วมกับอดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 1990 จะร่วมกันเปิดร้านขนมไทยผสมกัญชา ลุยขายตลาดต่างประเทศ ฝากผู้ประกอบการเจ้าของร้านขนมไทยต่างค้านหัวชนฝา ใส่กัญชาไม่เหมาะสม แนะทำยาดีกว่า เมื่อวานนี้ 24 เมษายน ดร.แก้มหอม ณ ลานช้าง หรือรู้จักในนาม “แม่มดกัญชา” ร่วมกับ“ส้ม ชนากานต์ ชัยศรี” อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 1990 แถลงข่าวจะร่วมกันเปิดร้านขนมไทยผสมกัญชาเป็นรายแรก ภายใต้แบรนด์ “ขนมมีมง”ลุยขายตลาดต่างประเทศ นำร่องที่สหรัฐอเมริกา ชูเมนู “ขนมทองเอก” ล่าสุดได้ออร์เดอร์แล้วจากเมืองลาสเวกัส และรัฐฟลอริดาประเทศอังกฤษ และจะเปิดตัวร้านอย่างเป็นทางการวันที่ 23 สิงหาคม ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ข่าวนี้ถูกนำเสนอออกไป ฟากผู้ประกอบการ และกูรูขนมไทยต่างออกมาร่วมแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ รวบรวมเสียงสะท้อนบางส่วนมานำเสนอ คุณจุฑามาศ ภักดีวิบูลย์ ผู้จัดการร้านขนมไทยทองย้อย กล่าวว่า ขนมไทยผสมกัญชา ถ้าขายในประเทศที่เปิดเสรี และผู้คนยอมรับได้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภค แต่หากขายในประเทศไทยที่ไม่ไ
ร้านขายขนมไทยบนพื้นที่เล็กๆ ริมถนนสะพานยาว อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดขายตั้งแต่เช้าตรู่และหมดอย่างรวดเร็วในช่วงสายๆ เกือบทุกวัน หยุดเพียงวันเดียวคือวันอาทิตย์ และทุกเช้าก็มีลูกค้ามารอซื้อขนมไทยรสชาติถูกปากนี้มากมาย เป็นร้านแห่งความหวานที่ถ่ายทอดจากรุ่นคุณยายมาสู่คุณป้ายังสาวอย่าง “หญิง” นางสาวสุชาดา ชลามาตย์ หญิงสาวที่ยังแลดูอ่อนเยาว์ทำให้หลายคนกลับไม่เชื่อว่าเธอทำขนมเองทั้งหมด เพราะขนมที่เห็นเป็นขนมไทยพื้นบ้านภาคใต้ซึ่งหารับประทานได้ยากยิ่งแล้วในสมัยนี้ พี่หญิง หรือ ป้าหญิง ของเด็กๆ ละแวกนี้เล่าให้ฟังว่า อดีตเคยช่วยแม่ขายขนมไทยทำให้มีความชำนาญในการทำขนมไทยพื้นบ้านภาคใต้แทบทุกชนิด ซึ่งแม่ของเธอก็เคยช่วยยายทำขนมไทยมาเช่นเดียวกัน การเรียนรู้วิธีทำขนมของแม่จากยายถ่ายทอดมาสู่หลานสาว หญิงสาวที่ทำขนมมาตั้งแต่เด็กจนจบการศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ เอกวัฒนธรรม จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช แต่มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนด้านขนมไทยอย่างเต็มเปี่ยมทำให้เธอเรียนรู้เคล็ดลับและวิธีการต่างๆ จากการช่วยแม่ทำขนมมาตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่าสืบทอดความหวานจากรุ่นสู่รุ่นเลยทีเดียว การทำขนมไทยในสมัยโบรา