ร้านในตำนาน
ร้านในตำนาน ขายมา 80 ปี “นัฐพร” ไอศกรีมเนื้อทราย ขวัญใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก คุณนุ้ย–ธันยมล วัฒนสกุลเอก ตัวแทนกิจการ “นัฐพรไอศกรีมกะทิสด” ร้านเก่าแก่อายุกว่า 80 ปี ที่ขายอยู่ย่านแพร่งภูธร โซนการค้าเก่าแก่ของกรุงเทพฯ กรุณาสละเวลามาให้ข้อมูลกับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ด้วยอัธยาศัยเป็นกันเอง เริ่มต้นให้ฟัง เธอเป็นทายาทรุ่น 4 ที่ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจร่วมกับคุณอานัฐพร ซึ่งเป็นที่มาชื่อของกิจการ “ครอบครัวเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ทำมาหากินอยู่ในแพร่งภูธร มาตั้งแต่รุ่นอากง อาม่า พวกเราขายอาหารกันหลายอย่าง พวกข้าวหมูแดง ข้าวแกงกะหรี่หมู ก็มี ส่วนอาม่า ขาย ไอศกรีมกะทิ อย่างเดียว” คุณนุ้ย เริ่มต้นให้ฟัง ก่อนย้อนอดีตว่า แพร่งภูธรสมัยก่อน จะมีรถลากมาขึ้นทะเบียนที่สำนักงานแถวๆ นี้ คนก็จะมาหาข้าวทานกัน และแพร่งภูธร ยังเป็นตลาดโต้รุ่งแห่งแรก เพราะจะเป็นลานกว้างๆ เขาจะกางผ้าใบขายของกัน มีรอบเช้า รอบกลางคืน ผลัดกันมาขาย ครอบครัวก็เลยเริ่มขายอาหารมาตั้งแต่สมัยนั้น “เมื่อก่อนเราจะมีแต่ไอศกรีมกะทิอย่างเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพวกข้าราชการ เพราะสมัยก่อน หน่วยงานราชการจะอยู่แถวนี้กัน ทั้ง กระทรวงการต่างประ
ทายาทรุ่น 3 “วุ้นผงตราโทรศัพท์” สู่คาเฟ่ “อาการากา” รังสรรค์จากวุ้นของอากง ด้วยความเชื่อ วุ้นเป็นได้มากกว่าของทานเล่น เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินผ่านหู ได้เห็นผ่านตากันมาบ้าง วุ้นผงตราโทรศัพท์ แบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 66 ปี ก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2501 ตั้งอยู่ที่ถนนทรงวาด ย่านเก่าแก่ เป็นวุ้นผงที่สกัดจากสาหร่ายทะเลแดงเกรดพรีเมียม ไม่มีส่วนผสมที่ทำจากสัตว์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ และผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ด้วยความโดดเด่นนี้ จึงทำให้วุ้นผงตราโทรศัพท์กลายเป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่หลายคนเลือกใช้ในการทำอาหาร แต่ไม่น่าเชื่อว่า “วุ้น” จะทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ผู้เขียนมีโอกาสได้เดินทางไปถนนทรงวาด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานวุ้นผงตราโทรศัพท์ (บริษัท เซ้งฮวด จำกัด) แต่ใกล้ๆ กัน เดินไม่ไกลจะมีคาเฟ่อยู่ เมื่อได้อ่านชื่อร้านหรือข้อความที่เขียนไว้ ถึงกับแปลกใจ และชวนให้ต้องเข้าไปหาคำตอบ คาเฟ่ที่ผู้เขียนกล่าวมานั้น ชื่อว่า AGAR RAGA – อาการากา ที่มาพร้อมข้อความที่บอกว่า “คาเฟ่แรกที่ใช้วุ้นในทุกจาน” เมื่อย่างเท้าเข้าไปในร้าน เด็กสาววัยรุ่น เดินเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย
ตำนานสภากาแฟกว่า 100 ปี “ออน ล๊อก หยุ่น” รสชาติแห่งความทรงจำผ่านกาแฟ ในยุคที่คาเฟ่สไตล์ฮิปๆ สไตล์มินิมอล ผุดขึ้นมากมายเต็มเมือง ใครหลายคนต่างหาสถานที่เที่ยวพักผ่อนชิลๆ ที่ไม่เพียงแต่มีเฉพาะของกินที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังต้องมีบรรยากาศที่ดี ถ่ายรูปสวย เป็นจุดเช็กอินที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกหนึ่งในร้านที่ยังคงความคลาสสิคและเสน่ห์ของความดั้งเดิมไว้อย่างเต็มเปี่ยม นั่นคือ “On Lok Yun – ออน ล๊อก หยุ่น” สภากาแฟที่ขายเฉพาะเมนูอาหารเช้า ที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามายาวนานเกือบร้อยปี วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ เฮียช้าง-สมบัติ ทยานุกูล ผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่สามของครอบครัว โดยได้มาบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของร้าน ตั้งแต่ยุคก่อตั้งสมัยรุ่นพ่อ เหมือนพาทุกคนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศวันวาน ตำนานสภากาแฟ ย้อนกลับไปประมาณ 90 ปีที่แล้ว คุณพ่อของเฮียช้างได้เดินทางมาจากเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ ‘ตั้งรกราก’ ในประเทศไทย และเปิดร้านกาแฟขึ้น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน “ออน ล๊อก หยุ่น” สภากาแฟอายุเกือบร้อยปี เฮียช้าง เล่าต่อว่า ช่วงเปิดร้านแรกๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นชิ
แพนด้าสุกี้ ร้านดังยุค 90s ที่มีเป็ดย่าง สุดอร่อย ประกาศปิดตำนาน 9 มิ.ย. นี้ ให้บริการวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เพจ แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant โพสต์ประกาศปิดกิจการ โดยมีรายละเอียด ว่า “กราบเรียนคุณลูกค้าทุกท่าน แพนด้าสุกี้ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีตลอดมา ทางร้านขอเปิดให้บริการถึง วันที่ 9 มิถุนายน 2567 เป็นวันสุดท้าย” อย่างไรก็ตาม ที่มาของร้านแพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant บริหารงานโดย คุณอนุสรณ์ โกวิทย์พรสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนด้าสุกี้ บะหมี่ จำกัด ที่ได้ซื้อกิจการร้านแพนด้าสุกี้ บะหมี่ ต่อจากเจ้าของเดิม ซึ่งเป็นร้านที่เขาชอบกินมาตั้งแต่สมัยเด็ก โดยเปิดให้บริการ 1 สาขา ที่สาขาพระราม 5 (ราชพฤกษ์) สำหรับร้านแพนด้าสุกี้ บะหมี่ เป็นร้านดังยุค 90s เปิดให้บริการในปี 2526 หลังจากห้างสรรพสินค้าพาต้าเปิดให้บริการได้ 2 ปี โดยมีคุณวินัย เสริมศิริมงคล อดีตเจ้าของห้างพาต้า เป็นผู้ก่อตั้ง โดยมีเมนูขึ้นคือ เป็ดย่างเตาถ่าน หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ราดด้วยน้ำจิ้มเนยถั่ว สูตรเฉพาะที่คุณวินัย อดีตเจ้าของร้านได้สูตรมาจากฮ่องกง นอก
ล้วงเคล็ดลับ ร้านในตำนาน “เจ๊ไข่ซีฟู้ด” ทำยังไงให้เป็น สุดยอดร้านดีลิเวอรี่แห่งปี หากใครมีโอกาสผ่านไปย่านประชาชื่น คงจะคุ้นเคยกับร้านอาหารซีฟู้ดที่ตั้งโดดเด่นริมคลองประปาอย่างร้าน “เจ๊ไข่ซีฟู้ด” ซึ่งถือเป็นร้านอาหารทะเลเจ้าแรกบนถนนเส้นนี้ ด้วยชื่อเสียงด้านความอร่อยที่ลือเลื่องมานานกว่า 30 ปี ทำให้มีลูกค้าแน่นร้านเกือบตลอดเวลาในทุกวัน เริ่มต้นธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ คุณนิภาพร ซื่อสัตย์ คือชื่อและนามสกุลจริงของ “เจ๊ไข่” สาวแกร่งวัย 57 ปี ก่อตั้งธุรกิจร้านเจ๊ไข่ซีฟู้ด มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองและสามี หากจะบอกว่าเธอคือคนที่ซื่อสัตย์กับใจตัวเองและลูกค้าก็คงไม่ผิดนัก เพราะถึงแม้จะเป็นคนกุมบังเหียนการบริหารร้าน แต่เจ๊ไข่ก็ยังคงทำหน้าที่ลงไปตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบถึงแหล่งด้วยตัวเองอยู่เสมอ ด้วยความตั้งใจที่ต้องการรักษามาตรฐานของร้านเอาไว้ “เจ๊เรียนจบแค่ ป.7 ก็เลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ มาหางานทำเป็นลูกมือคอยช่วยหั่น ช่วยสับอาหารอยู่ในครัว เพราะเรารู้ตัวว่าชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็กๆ พออายุ 17 เจ๊ตัดสินใจชวนแฟนมาทำรถเข็นขายอาหาร ซึ่งช่วงนั้นลูกค้าก็เริ่มติดใจในรสมือ จนเป็นแรงผลักดันให้อยา
ห้างฯใหม่ ไม่ทิ้งราก! ยก “จีฉ่อย” และ “นพ ชูส์” ร้านในตำนาน…สามย่าน เปิดตัวเป็นทางการไปเมื่อราวปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา สำหรับ “”สามย่าน มิตรทาวน์” มิกซ์ยูส แห่งแรกบนถนนพระราม 4 โดยการกลับมาใน “รูปแบบใหม่” บนพื้นที่แห่งความทรงจำ นี้ “สามย่านมิตรทาวน์” บอกว่า ตัวเองไม่ใช่แค่ศูนย์การค้า แต่เป็น “Urban Life Library” หรือ “คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้” และเป็นที่ทราบกันดี จุดเด่นของ “สามย่าน” นั้น เป็นพื้นที่เชื่อมต่อของชุมชนที่หลากหลาย เพราะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย โรงเรียนต่าง สถาบันต่างๆ ในโซนสยามสแควร์ รวมทั้ง บ้านเรือน ตลาด วัด บริษัท และ ร้านค้าน้อยใหญ่ ที่ล้วนมีความเก่าแก่ ค้าขายกันต่อเนื่องมาหลายสิบปี “รูปแบบใหม่” ภายใต้ทรงตึกใหญ่หรูตระหง่าน ในนาม “สามย่าน มิตรทาวน์” จึงเปรียบเป็น “จิ๊กซอว์” ตัวใหม่ ที่เชื่อมประสบการณ์ดั้งเดิมให้เข้ากับผู้คนยุคสมัยนี้ ช่วงสุดสัปดาห์ต้นเดือน นับเป็นเรื่องปกติที่หลายครอบครัว มักพากันไปจับจ่ายใช้สอยนอกบ้าน ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าต่างๆอาจคึกคักกว่าปกติ เช่นเดียวกับ “สามย่าน มิตรทาวน์” แต่ช่วงนี้อาจได้เปรียบห้างฯอื่นในละแวกเล็กน้อย