ฤดูฝน
ฮิตาชิ แนะนำเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าฟีเจอร์ครบครัน 2 นวัตกรรมคู่หูเพื่อผ้าสะอาด สวมใส่อย่างมั่นใจตลอดฤดูฝน บริษัท อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ฮิตาชิ ขจัดปัญหาการซักผ้าช่วงหน้าฝน ทั้งผ้าไม่แห้ง กลิ่นอับกวนใจ หรือแบคทีเรียจากความชื้นที่ควบคุมไม่ได้ ด้วยเทคโนโลยีอัดแน่น มอบประสบการณ์การซักผ้าที่พิเศษกว่าเคย ผู้ช่วยผ่อนแรงซัก เพิ่มความสุขให้ทุกครอบครัว เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่น BD-100XFVEADM ความจุถังซัก 10 กิโลกรัม มาพร้อมคุณสมบัติครบครัน อาทิ ระบบจ่ายน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มอัตโนมัติ (Auto Dosing System) ที่ช่วยจ่ายน้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ในปริมาณที่เหมาะสมกับโปรแกรมการซักและจำนวนเสื้อผ้าในถังซัก ช่วยมอบความสะอาดพร้อมความสะดวกสบาย โปรแกรมไอน้ำและลดสารก่อภูมิแพ้ (Steam & Hygiene Program) ซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบันโรคภูมิแพ้แห่งประเทศอังกฤษ (Allergy UK) โดยโปรแกรมจะปล่อยไอน้ำจากด้านล่างของถังซัก เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดคราบและสิ่งสกปรก พร้อมลดสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงสารก่
ยอดหาย รายได้หด เพราะเข้า ฤดูฝน ผู้ประกอบการ ปรับตัว-รับมืออย่างไร ให้อยู่รอดตลอดฤดู เข้าหน้าฝนแล้ว หลายๆ คนคงแฮปปี้กับอากาศเย็นสบายชุ่มฉ่ำหลังฝนตก ที่ช่วยคลายความร้อนอบอ้าวลงได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฤดูฝน ก็สร้างผลกระทบในเรื่องของยอดขายให้กับผู้ประกอบการหลายๆ เจ้าเช่นกัน ซึ่งหากผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ รวมถึงร้านค้า มีการวางแผนรับมือไว้อย่างดี และอาศัยจังหวะนี้พลิกสถานการณ์เพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็จะสามารถรักษายอดขายไม่ให้ตก แถมยังอยู่รอดตลอดหน้าฝนได้ด้วย โดยเว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ ได้แชร์เทคนิคและกลยุทธ์การตลาด จาก 4 ธุรกิจตัวอย่าง ที่ใช้ในช่วงหน้าฝนแบบนี้มาแนะนำให้เจ้าของธุรกิจประเภทเดียวกันหรือต่างกันนำมาปรับใช้กับธุรกิจ ดังนี้ 1. ธุรกิจคาร์แคร์ (Car care) รถยนต์ เปรียบเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่เกือบทุกบ้านต้องมีไว้ขับขี่ ซึ่งจากสถิติของกรมขนส่งทางบก ระบุว่า จำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั่วประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 41,471,345 คัน อีกทั้งลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ในการหันมาดูแลรักษารถมากขึ้น หนุนให้ดีมานด์สูงตามไปด้วย คาร์แคร์จึงเป็นธุรกิจเนื้อหอมและโกยรายได้อย่างงดงา
กลอย ในฤดูฝน มีความเป็นพิษสูง หมอเตือน ทางที่ดีไม่ควรรับประทาน เว็บไซต์ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เผยข่าว จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์อาหารเป็นพิษจากพืชในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน (ปี 2559-2563) พบเหตุการณ์อาหารเป็นพิษจากการรับประทานกลอย รวม 11 เหตุการณ์ พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 172 ราย เสียชีวิต 2 ราย ผู้มีอาการรุนแรงเข้ารักษาในโรงพยาบาล 36 ราย เหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดในเดือนสิงหาคม รองลงมา คือ ธันวาคม กันยายน และมีนาคม ส่วนภูมิภาคที่พบเหตุการณ์สูงสุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผลการสอบสวนโรคพบว่าผู้ปรุงกลอยคาดว่ามีการล้างขจัดสารพิษจากแหล่งที่ขายมาแล้ว จึงไม่ได้ทำการขจัดสารพิษอีกครั้งก่อนที่จะนำมาปรุงอาหาร จากการพยากรณ์ของกรมควบคุมโรค อาจพบผู้ป่วยจากการรับประทานกลอยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น แสดงความเป็นห่วงประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่นิยมนำกลอยมาประกอบเป็นอาหาร ซึ่งในสมัยก่อนมีวิธีการล้างพิษกลอยด้วยการฝานหัวกลอยเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำมาแช่น
กรมควบคุมโรค เตือน ช่วงหน้าฝนระวัง เห็ดพิษ หากไม่แน่ใจอย่าเก็บมากิน วันที่ 15 ส.ค. กรมควบคุมโรค เผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” ฉบับที่ 275 ประจำสัปดาห์ที่ 33 (วันที่ 16-22 ส.ค. 63) โดย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ดพิษ ปี 2563 (วันที่ 1 ม.ค.-13 ส.ค. 63) พบผู้ป่วยแล้ว 1,093 ราย ใน 43 จังหวัด เสียชีวิต 7 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก คืออายุมากกว่า 65 ปี (24.43%) รองลงมาคืออายุ 45-54 ปี (23.06%) และอายุ 55-64 ปี (20.13%) โดยมีเหตุการณ์ที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบข่าวการระบาดของกรมควบคุมโรค (ผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน) 13 เหตุการณ์ รวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 63 ราย ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดในเดือน มิ.ย. รองลงมาคือ ก.ค. และ ส.ค. ส่วนภูมิภาคที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือภาคเหนือ ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากเห็ดพิษเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันและมีอาการป่วยรุนแรง 9 ราย ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี การพยากรณ์โรค และภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าจะ
กรมอุตุฯ เตือน ทั่วไทยระวังฝนถล่ม กทม. หนักสุด ฝนร้อยละ 70 วันที่ 15 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ฝุ่นละอองขนาดเล็ก เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง ดังนั้นการเกิดหรือการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควัน ไม่มีหรือมีน้อย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 16 ส.ค.นี้ ภาคเหนือ เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ภาคตะวันออ
กรมควบคุมโรค เตือน “ชิคุนกุนยา” ระบาดทั่วประเทศ แนะกำจัดยุงลายตัวนำพาหะ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. กรมควบคุมโรค เผยแพร่พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 19-25 ก.ค. 2563 เตือนโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ”ชิคุนกุนยา” อาจระบาดเพิ่มมากขึ้น โดยระบุว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา ในปี 2563 พบผู้ป่วยแล้ว 4,307 ราย จาก 62 จังหวัด ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คืออายุ 25-34 ปี รองลงมาคือ 35-44 ปี และ 45-54 ปี ตามลำดับ ภาคที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ ภาคกลาง รองลงมาคือ ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามลำดับ จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ จันทบุรี รองลงมาคือ อุทัยธานี ลำพูน ตราด และระยอง ตามลำดับ จากโปรแกรมตรวจสอบข่าวการระบาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบการรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่า ช่วงนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคไข้ปวดข้อยุงลายเพิ่มขึ้น จากการพบผู้ป่วยกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนในหล
ระวัง! โรคระบาดหน้าฝน “ไข้ปวดข้อยุงลาย” แนะวิธีป้องกันที่ดีที่สุด เป็นประจำทุกปีที่เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน มักพบการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะ ได้แก่ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย (ชิคุนกุนยา) โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้เลือดออก โดยในปี 2563 นี้ พบผู้ป่วยโรคไข้ปวดข้อยุงลายแล้วกว่า 1,630 รายทั่วประเทศ และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นอีก เนื่องจากในปีนี้มีฝนตกในหลายพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่การระบาดยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการไข้สูง ปวดข้อ ข้อบวมหรือข้ออักเสบ รวมกับมีอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผื่น อ่อนเพลีย วิธีการป้องกันที่ดีที่สุด คือ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ เก็บบ้าน เก็บขยะ และเก็บน้ำ และหากพบผู้ที่มีอาการข้างต้น ให้รีบแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อการสอบสวนโรคอย่างรวดเร็ว หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422 ที่มา เพจไทยคู่ฟ้า
กทม. เร่งลอกท่อรับมือฤดูฝน ขอ ปชช. ทิ้งขยะให้ถูกที่-ติดตั้งบ่อดักไขมันทุกครัวเรือน วันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน ระบุว่า “เร่งลอกท่อให้พร้อมรับมือฤดูฝน พร้อมขอความร่วมมือทิ้งขยะให้ถูกที่ และติดตั้งบ่อดักไขมันทุกครัวเรือน ขยะและคราบไขมันต่างๆ เต็มท่อระบายน้ำแบบนี้ ประกอบกับท่อระบายน้ำมีขนาดเล็ก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนผิวจราจร และตรอกซอยต่างๆ เพราะขยะและไขมันไปอุดตันและกีดขวางการไหลของน้ำ ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังบ่อยครั้งครับ โดยตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน กทม.ได้เร่งล้างทำความสะอาดและลอกท่อระบายน้ำตามแผนงานปี 2563 ความยาวกว่า 3,300 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำและเปิดทางน้ำให้ไหลสะดวกไปสู่คูคลองและระบบระบายน้ำต่างๆ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการคืบหน้าแล้ว 95% อย่างที่ผมเคยแจ้งให้ทราบว่า ท่อระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งบนถนนสายหลัก สายรอง และตามตรอกซอยต่างๆ รวมมากกว่า 6,400 กิโลเมตร จึงต้องดำเนินการลอกท่อโดยใช้วิธีการสลับและหมุนเวียนกันไป แต่หากพี่น้องประชาชนเห็นว่าจุดไหนที่ท่อระบาย
กรมอุตุฯ เตือน มรสุมพัดเข้าไทย หลายจังหวัดเจอฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม วันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า ลักษณะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนต
แพทย์เตือน ช่วงหน้าฝน ระวังเห็ดพิษ ดูให้ดีก่อนซื้อรับประทาน เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้มีฝนตกในหลายพื้นที่ ซึ่งหลังจากฝนตกประมาณ 2 วัน จะมีการเจริญเติบโตของเห็ดป่าขึ้นเองตามธรรมชาติ ประชาชนมักนิยมเก็บเห็ดป่ามาขายหรือนำมาปรุงอาหาร ซึ่งในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษเป็นประจำ เนื่องจากเห็ดป่ามีทั้งเห็ดที่รับประทานได้และเห็ดพิษ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ โดยข้อมูลจากรายงานโรคในระบบเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-25 พฤษภาคม 2563 พบผู้ป่วย 85 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 กลุ่ม คือ กลุ่มอายุ 45-54 ปี รองลงมา กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป และ 25-34 ปี ตามลำดับ เห็ดพิษที่เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่ คือ เห็ดระโงกพิษ บางแห่งเรียกว่าเห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก หรือเห็ดไข่ตายซาก ซึ่งเห็ดชนิดนี้คล้ายคลึงกับเห็ดระโงกขาว หรือไข่ห่าน ที่สามารถรับประทานได้ แต่แตกต่างกันคือ เห็ดระโงกพิษจะมีก้านสูง กลางดอกหมวกจะนูนเล็กน้อย มีกลิ่นค่อนข้างแรง นอกจากนี้ ยังมีเห็ดป่าชนิดที่มีพิษรุนแรงคือ เห็ดเม