ลดต้นทุน
SME D Bank หนุนเต็มที่ดันเอสเอ็มอีเปลี่ยนผ่านใช้พลังงานสะอาด เสิร์ฟสินเชื่อพิเศษ 3% ต่อปี ช่วยลดต้นทุนติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” ดีต่อธุรกิจ ดีต่อโลก SME D Bank พร้อมเสิร์ฟสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” ช่วยลดต้นทุน เปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาด คุ้มค่าการลงทุนระยะยาว ตอบโจทย์ดีต่อธุรกิจ และดีต่อโลก ควบคู่บริการพัฒนายกระดับสู่อุตสาหกรรมสีเขียว นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เผยว่า จากปัจจัยค่าพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สร้างภาระต้นทุนการดำเนินธุรกิจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้นเรื่อยๆ การติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” (Solar Cell) จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะประเทศไทยมีความพร้อมด้านทรัพยากรแสงอาทิตย์ รวมถึง ยังเป็นพลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การติดตั้งโซลาร์เซลล์เป็นการลงทุนระยะยาวต้องใช้เงินทุนค่อนข้างสูง ดังนั้น SME D Bank จึงขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่
เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ ตัวช่วยเกษตรกร ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ที่วัตถุดิบทางการเกษตรมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลผลิตทางการเกษตรกลับเก็บเกี่ยวได้น้อยลง สร้างผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร ซัคเซสมอร์ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในชื่อ Transform Micro Soil (ทรานส์ฟอร์ม ไมโครซอยล์) ซึ่งเป็นสารสูตรเข้มข้น สำหรับย่อยสลาย ข้าวดีด ตอซัง ฟางข้าว และวัชพืช และยังมีผลช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช เพิ่มภูมิต้านทานให้กับพืชด้วยจุลินทรีย์สายพันธุ์ดี จำนวน 10 สายพันธุ์ ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เป็นมิตรต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม นายแพทย์สิทธวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรไทยมั่นใจได้ว่า ผลผลิตที่จะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีคุณภาพและจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้เกษตรกรไทยให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น จากผลผลิตและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ นอกจากภายในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ได้มีการแข่งขันประกวดพัน
“ทำนาเปียกสลับแห้ง” ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ได้คาร์บอนเครดิตเพิ่มรายได้ เมื่อพูดถึง “คาร์บอนเครดิต” อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายคน แต่ในความจริงแล้วมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับนานาชาติ คาร์บอนเครดิตจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดโลกร้อน ทั้งนี้ “ก๊าซเรือนกระจก” นั้นไม่ได้มาจากภาคอุตสาหกรรม หรือขนส่งมวลชนเท่านั้น แต่ในกิจกรรมภาคการเกษตรอย่าง “การทำนาข้าว” ก็มีส่วนในการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเช่นกัน คุณพรพรรณ ยานะโส นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา จะมาอธิบายให้ฟังว่า การทำนานั้นเกี่ยวกับโลกร้อนได้อย่างไร? และรู้หรือไม่ว่า แค่เปลี่ยนวิธีการทำนาก็ช่วยลดโลกร้อนได้ ทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการทำนาให้ดีขึ้นอีกด้วย “คาร์บอนเครดิต” คืออะไร? เกี่ยวข้องกับ “การทำนา” อย่างไร? คุณพรพรรณ อธิบายในทางหลักการว่า “คาร์บอนเครดิต” หมายถึง สิทธิที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคล-องค์กรสามารถลดหรือกักเก็บการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม โดย
“ซีพีเอฟปันน้ำปุ๋ย” ปีที่ 23 เกษตรกรปลื้ม ช่วยลดต้นทุน-ผ่านพ้นวิกฤตแล้ง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้า “โครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกร” แบ่งปันน้ำปุ๋ยจากระบบบำบัดของฟาร์มสุกรและคอมเพล็กซ์ไก่ไข่ ส่งให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชในชุมชนรอบสถานประกอบการ บรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ นายสมคิด วรรณลุกขี ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า คอมเพล็กซ์ไก่ไข่ของซีพีเอฟ ดำเนินโครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกร นับตั้งแต่ปี 2564 ด้วยการนำน้ำจากระบบไบโอแก๊ส (Biogas) ที่ผ่านการบำบัดแล้ว ส่งให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชในพื้นที่ใกล้เคียง ใช้ในสวนปาล์มน้ำมัน ไร่แตงโม ฟักทอง อ้อย ข้าวโพด และหญ้าเนเปียร์ สำหรับปี 2566 คอมเพล็กซ์ไก่ไข่จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ฟาร์มสันกำแพง ฟาร์มจักราช ฟาร์มหนองข้อง ฟาร์มอุดร และฟาร์มจะนะ แบ่งปันน้ำปุ๋ยไปกว่า 181,000 ลูกบาศก์เมตร ให้กับพื้นที่การเกษตรมากกว่า 145 ไร่ ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งแก่พี่น้องเกษตรกร และมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางทรัพยากรน้ำให้กับชุมชน “ซีพีเอฟ มีเป้าหมายในการไม่ปล่อยน้ำทิ้งออกภายน
นาแปลงใหญ่ โมเดลสู่ความยั่งยืน ยกระดับชีวิตเกษตรกร ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ นาแปลงใหญ่ ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่มเพื่อผลิต เพื่อจำหน่าย เพิ่มอำนาจการต่อรองของเกษตรกรตลอดกระบวนการผลิต ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยพัฒนาเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เกิดความมั่นคงในอาชีพ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนในที่สุด ภายใต้เงื่อนไขที่เกษตรกรยังคงเป็นเจ้าของพื้นที่และทำการผลิตเอง มีเป้าหมายการดำเนินงานของกลุ่มชัดเจน โดยเกษตรกรที่จะสามารถเข้ารับการส่งเสริมในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ได้ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการดังนี้ 1. เกษตรกรต้องมีการรวมตัวกัน 30 คนขึ้นไป และมีพื้นที่รวมกัน 300 ไร่ ขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องเป็นแปลงติดกันเป็นผืนเดียวแต่ควรมีพื้นที่อยู่ภายในชุมชนใกล้เคียงกัน 2. เกษตรกรต้องสมัครใจเข้าร่วมโครงการ และควรมีกระบวนการร่วมกลุ่ม แต่หากยังไม่เป็นกลุ่ม ต้องเป็นกลุ่ม ที่สามารถนำมาพัฒนาให้เกิดเป็นกลุ่มต่อไปได้ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว
เครือ UBE ร่วมส่งเสริมใช้ปุ๋ยชีวภาพ ช่วยเกษตรกร ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ ยูบีอี ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย ในฐานะผู้แทนของบริษัท อุบลไบโอเกษตร จำกัด (อุบลไบโอเกษตร) บริษัทในเครือ ร่วมทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร กับ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร สำหรับสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิตามอนุสิทธิบัตร/สิทธิบัตร “สูตรและกรรมวิธีการผลิตปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์สำหรับอ้อยและมันสำปะหลัง” และ “สูตรและกรรมวิธีการผลิตปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์สำหรับข้าว” เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพ โดยได้รับเกียรติจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อเร็วๆ นี้ การทำสัญญาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขอรับเทคโนโลยีที่กรมวิชาการเกษตรเป็นเจ้าของสูตรและกรรมวิธีการผลิตปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ ซึ่งเป็นปุ๋ยชีวภาพแบคทีเรีย ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตด้วยการตรึงไนโตรเจนเพื่อเพิ่ม
เปิด 7 เทคนิค ลดต้นทุน สร้างกำไร ให้ธุรกิจไปต่อ ในยุคเศรษฐกิจผันผวน หลายปีมานี้ เศรษฐกิจ มีความผันผวนเป็นอย่างมาก เดี๋ยวอันนั้นก็แพง เดี๋ยวอันนี้ก็ขึ้นราคา ทำให้ได้รับผลกระทบกันเป็นวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำที่เป็นผู้ผลิต จนถึงปลายน้ำที่เป็นผู้บริโภค การลดต้นทุนการผลิต จึงเป็นวิธีการที่เหล่าเจ้าของธุรกิจ นำมาปรับใช้กับกิจการ แต่จะลดตรงไหน ลดอย่างไร เว็บไซต์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้แนะนำวิธีการและแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตที่นิยมใช้กันมากและแพร่หลาย 7 ข้อ ดังนี้ 1) ความสูญเสียจากการผลิตมากเกินความจำเป็น (Over Production) การผลิตที่มากเกินความจำเป็นหรือความต้องการของลูกค้า ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ ผลิตแล้วยังขายไม่ได้นั่นเอง ส่วนที่ผลิตเกินจากความต้องการ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งด้านค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและควบคุมวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์ระหว่างกระบวนการ WIP/ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ต้นทุนแรงงานโดยเฉพาะการทำงานล่วงเวลา สาเหตุที่ทำให้มีการผลิตมากเกินความจำเป็น ประมาณการความต้องการผลิตภัณฑ์ของลูกค้าคลาดเคลื่อนของฝ่ายขาย การวางแผนการผลิตที่ขาดประสิทธิภาพ มีปัจจัยใหม่ที่ไม่คาดคิดมาส่งผลกระทบต่อปริมาณความต้อง
ใครทำธุรกิจ ฟังให้ดี! เปิด 10 วิธี ลดต้นทุน เริ่มทำ ตั้งแต่ตอนนี้ ลดเสี่ยงวิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนหลากหลายส่วน Krungsri Business Empowerment อ้างอิงข่าวจาก เว็บไซต์ Entrepreneur ว่า นักเศรษฐศาสตร์หลายรายได้เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในปี 2023 อาจมีแนวโน้มแย่ลงอีก และอาจทำธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบ ซึ่งในเวลานี้ ก็เป็นช่วงปลายปี ที่บริษัทต่างๆ กำลังวางแผนทางการเงินสำหรับปีหน้า รวมถึงมองหาธุรกิจใหม่ๆ ในการต่อยอดต่อ ซึ่งการวางแผนเรื่อง การลดต้นทุน จึงมีส่วนสำคัญที่จะให้บริษัทต่างๆ สามารถผ่านพ้นช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนได้ มาดู 10 วิธีในการลดต้นทุน ที่บริษัทควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ คือ 1. ลดกระบวนการไร้ประสิทธิภาพ เวลาเป็นสิ่งมีค่ามากในกระบวนการทำงาน ซึ่งในงานบางอย่าง เทคโนโลยีสามารถเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดกระบวนการที่ยุ่งยากออกไป รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่าย ดังนั้น องค์กรควรเริ่มต้นดูว่า มีกระบวนการใดในการทำงาน ที่อาจทำให้งานล่าช้า และมีค่าใช้จ่ายสูง พร้อมมองหาเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น Software บางอย่าง ที่ช่วยการจัดการเอกสาร ซึ
ดีพร้อม นำทัพเอสเอ็มอี อัพสกิลโลจิสติกส์ ฝ่าวิกฤตต้นทุน เผยครึ่งปีแรก ลดต้นทุนขนส่ง กว่า 600 ลบ. ตั้งเป้าสู่ 1,200 ลบ. ในสิ้นปีนี้ ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้างไปทั่วโลก ขณะเดียวกัน ยังสั่นคลอนสถานการณ์พลังงานและห่วงโซ่การผลิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ ค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำในกระบวนการผลิต ประกอบกับ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาที่สร้างแรงกระเพื่อมต่อระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงสั่งการเร่งด่วนให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) จับตาผลกระทบและดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถก้าวข้ามวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น ดีพร้อม จึงเร่งเดินหน้าโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ปิ
คิดก่อนทำกลยุทธ์ ลดต้นทุนเพิ่มกำไร ให้ร้านอาหาร แต่อย่า คิดมาก จนไม่ได้ทำ ยุคนี้เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ใครจะไปเชื่อเล่าว่า เดี๋ยวนี้เดินไปไหนมาไหนต้อง “ยืดอกพกถุง คาดปาก ล้างมือ” ทุกที่ ทุกแห่ง ทุกเวลา อะไรที่ไม่เคยทำ ได้ทำวันนี้แหละครับ จะเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ถ้าไม่คาดปาก เขาไม่ให้เข้า ไม่ยิงหัวให้ด้วย ต้องคาดปากก่อนถึงได้รับการยิงหัว ถ้าไม่มีถุง (ผ้า) ไปอย่างเก่งซื้อของได้ 3 ชิ้น เพราะไม่มีมือจะถือ อีกมือมันถือมือถือ ปัจจัยที่ 5 อยู่แล้ว ส่วนปัจจัยที่ 6 คือ ผ้าคาดปาก และ ปัจจัยที่ 7 คือ ถุงผ้า ทำอาหารกล่องไปขายเขา ทุกที่ระบุมาเลยว่าต้องเป็นกล่องย่อยสลายได้เท่านั้น หรือถ้ามีฝาเป็นพลาสติก ต้องระบุประทับตรา มีใบรับรองว่าเป็นพลาสติกที่รีไซเคิลได้ 100% ถึงจะยอม เราคนทำต้องยอมตาม ได้ข้าวกล่องราคากล่องละ 50 บาท พอไหว บางที่กดเหลือ 45 บาท เฉพาะกล่องรีไซเคิลปาเข้าไปแล้ว 3-4 บาท ยังไม่รวมช้อนส้อม ค่าข้าวจริงเหลือ 41 บาท แบ่งไปเป็นค่าส่งอีกกล่องละ 1 บาท เหลือ 40 บาท กำไรเก่งสุดได้กล่องละ 10 บาทกว่า นับเป็นพระคุณอย่างสูงแล้ว เมื่อสถานการณ์ต่างๆ รายได้ที่จำกัด บีบบังคับอย่างนี้ เลยต้องทำทุกว