ลาออกงานประจำ
ขนมปังช่วยชีวิต! เริ่มต้นจากคอนโด ผันตัวเป็นแม่ค้าสายคอนเทนต์ ต่อยอดเปิดหน้าร้าน ยอดขายก้าวกระโดด 150 แผ่นต่อวัน “ปังชีส บางแสน สวัสดีค่า” ประโยคเปิดคลิปของสาววัย 23 ปี เจ้าของร้าน ปังชีส บางแสน ที่กำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์อยู่ตอนนี้ ที่ถึงแม้ร้านจะอยู่จังหวัดชลบุรี แต่กลับโด่งดังมาก จนมีผู้ติดตามกว่า 53.9K และมีนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัดตามไปซื้อปังชีสที่ร้านของเธอเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันโซเชียลมีเดีย ส่งผลต่อยอดขายเป็นจำนวนมาก หากร้านไหนไม่สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ก็อาจจะทำให้การค้าขายนั้นขายยาก ยิ่งหากอยู่ในทำเลที่ไม่ใช่คนพลุกพล่าน ดังเช่นเรื่องราวของ คุณจูน-จริยาพร คำหล่อ เจ้าของร้าน ปังชีส บางแสน ที่ก่อนนี้เธอขายขนมปังอบชีสอยู่บนคอนโด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้สื่อออนไลน์ช่วยให้คนรู้จักมากขึ้น จากวันแรกขายได้วันละไม่ถึง 10 แผ่นต่อวัน สู่ปัจจุบันขายได้พีกสุด 150 แผ่นต่อวัน อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง รายได้วิศวกรไม่พอเลี้ยงทั้งครอบครัว ผันตัวเป็นพ่อค้าชาใต้สายครีเอเตอร์ ลูกค้าต่อคิว พีกสุด 316 แก้วต่อวัน ปังเจริญ อาชีพเสริมวันเสาร์ของมนุษย์ออฟฟิศ ขายปังหน้าบ้าน 1,000 ก้อน คว้าเงินหมื
เครียดจากงานประจำ เบนเข็ม ขายไอศกรีม 15 บาท สูตรลับจากรุ่นสู่รุ่น ขายดีพีกสุด 1,000 กิโลต่อเดือน จากงานประจำที่ทำมาตลอด 17 ปี และไม่คิดว่าจะเลิกทำอาชีพนี้ แต่เมื่อเจอมรสุมเรื่องงาน จนเกิดความเครียดสะสม ทำให้ “คุณแก้ว-พิกุล สีทา” ตัดสินใจลาออกมาตั้งต้นใหม่ ด้วยอาชีพที่ส่งต่อจากน้าคือ สูตรไอศกรีม ที่เริ่มต้นจากศูนย์ในวันแรก สู่ 3 ปี ของการเปิด “ร้านแก้วไอติมกะทิสด” ขายราคาเริ่มต้น 15 บาท และสามารถขายได้พีกสุด 1,000 กิโลกรัมต่อเดือน จุดเริ่มต้น ขายไอศกรีม คุณแก้ว เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี อาชีพเดียวที่เธอยึดมาตลอด 17 ปี คืองานในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว จนเติบโตในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสำรองห้องพัก ของโรงแรมแห่งหนึ่ง กระทั่งปี 2021 ที่การท่องเที่ยวซบเซา จากโควิดระบาดมาก่อนหน้านั้น ถึงจะได้รับเงินเดือนตามปกติ แต่ก็มากไปด้วยความกดดัน จากการไม่มีนักท่องเที่ยวจองห้องพัก ทำให้ถูกเปลี่ยนหน้าที่การทำงานจนเกิดความเครียดสะสม ไม่สนุกกับงานเหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้เธอตัดสินใจลาออก ทั้งๆ ที่ไม่มีแผนสำรองในชีวิต ไปสมัครงานในสายอาชีพอื่นก็ไม่มีใครเรียกสัมภาษณ์ จนว่างงานถึง 3
หลายๆ คนมักนึกถึงบางช่วงเวลาในวัยเด็กที่มีความสุข และอยากย้อนกลับไปทำอะไรซนๆ แบบนั้นอีก เพื่อเติมเต็มรอยยิ้มบนใบหน้า เชื่อว่าหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของเด็กๆ ที่ยังประทับใจไม่รู้ลืมสำหรับหลายคน คงต้องมีกิจกรรมปีนต้นไม้ ไต่เชือก ห้อยโหนโจนทะยาน ซึ่งก็อาจได้แผลมากน้อยตามความซนของแต่ละคน อาจจะแถมโดนตีเป็นรางวัลพิเศษ ความสุขที่หลบซ่อนอยู่ในวัยเยาว์นี้ จุดประกายให้เกิดธุรกิจท่องเที่ยวแนวผจญภัยที่ปลุกความซนของผู้คนออกมา และสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำแบบไม่น่าเชื่อ บีบีซี หยิบยกกรณีของ “รีเบกก้า” และ “ทริสแทม เมย์ฮิว” เจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวแนวผจญภัยในอังกฤษ ที่มองว่าความรู้สึกนี้ไม่ได้มีไว้เฉพาะวัยเด็กเท่านั้น รีเบกก้า เล่าย้อนว่า เธอปิ๊งไอเดียนี้ตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน หลังจากเห็นผู้คนทุกเพศทุกวัยพากันเล่นสนุกกับการปีนป่ายต้นไม้ในชนบทของฝรั่งเศส ระหว่างที่เธอเดินทางไปเที่ยว เลยคิดว่าทำไมไม่ลองทำกิจกรรมอะไรเพื่อตอบสนองผู้คนที่หลงรักช่วงเวลาแบบนี้ ซึ่งยังไม่มีใครทำในอังกฤษ ประกอบกับการที่ทั้งสองคนอยากลาออกจากงานประจำอยู่แล้ว ทั้งคู่เลยตัดสินใจตั้งบริษัทที่มีชื่อว่า “โก เอป” (Go Ape) เพื่อทำธุรกิ
ผู้เขียน : ธัญวรัตน์ คงถาวร สำหรับผู้สนใจจะลงทุนในอาชีพการเพาะเห็ดจำหน่าย ผู้ประกอบการรายนี้ ให้ข้อแนะนำว่า ควรศึกษาและเรียนรู้ให้ถ่องแท้ก่อนที่จะลงมือตัดสินใจ เพราะมีหลายปัจจัยที่อาจทำให้การประกอบอาชีพไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวัง “ต้องเข้าใจตลาด” ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ คุณกาญต์ดารัตน์ มหัทธนธัญ ผู้ผันตัวจากพนักงานบริษัท ก้าวสู่เกษตรกรผู้เพาะเห็ดอย่างเต็มตัว จนกลายเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้กว่าครึ่งแสนบาทต่อเดือน คุณกาญต์ดารัตน์ ปัจจุบัน ยังดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกอเห็ด จังหวัดชลบุรี เล่าว่า ในปี 2543 ได้เข้ามาทำงานเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี แต่ไม่นานบริษัทได้รับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอุตสาหกรรมเหล็ก ทำให้ภาพรวมของบริษัทไม่สู้ดีนัก จึงตัดสินใจมองหาอาชีพอื่นที่จะมาทดแทนงานประจำที่ทำอยู่ ด้วยชีวิตที่มีทุนเดิมเป็นลูกหลานเกษตรกร อาชีพที่มองหาจึงไม่พ้นด้านการเกษตร คุณกาญต์ดารัตน์ บอกว่า ได้เกิดสนใจเรื่องของการเพาะเห็ดจำหน่าย จึงได้เริ่มต้นจากการศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ประกอบกับช่วงเวลานั้น “เห็ดโคนญี่ปุ่น” มีราคาค่อนข้า