วัยทำงาน
รู้จัก Fauxductivity แกล้งทำงานหนัก พฤติกรรมที่เป็นแบบไม่รู้ตัว เพราะอยากให้คนอื่นมองว่าขยัน เมื่อการทำตัว “ยุ่ง” ไม่ได้แปลว่าทำงานมีประสิทธิภาพ ทุกคนคงเคยเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ ที่เพื่อนร่วมงานดูยุ่งตลอดเวลา นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำงานไม่หยุด ยกโทรศัพท์เดินคุยด้วยสีหน้าตึงเครียด หรือแม้กระทั่งขยับเมาส์อยู่ตลอดเวลาราวกับไม่มีเวลาว่าง แต่เมื่อดูผลงานจริงๆ แล้วกลับพบว่า ไม่ได้มีอะไรคืบหน้า พฤติกรรมนี้เรียกว่า “Fauxductivity” หรือการแสร้งทำงานให้ดูหนักหน่วง แต่แท้จริงแล้วไม่มีประสิทธิภาพ Fauxductivity คืออะไร? Fauxductivity (โฟ-ดัค-ติ-วิ-ตี้) มาจากคำว่า Faux (มาจากคำว่า Fake ที่แปลว่า ปลอม) + Productivity (ประสิทธิภาพ) หมายถึง การแสร้งทำเป็นว่ากำลังทำงานหนัก แต่ไม่ได้สร้างผลลัพธ์ที่ดี หลายคนอาจไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ แต่ด้วยวัฒนธรรมองค์กรความกดดันจากหัวหน้า หรือแม้แต่ความต้องการที่อยากให้คนอื่นมองว่าตัวเองขยัน ทำให้พฤติกรรม Fauxductivity นี้แพร่ระบาดโดยไม่รู้ตัว สาเหตุหลักของพฤติกรรมนี้ เกิดจากหลายปัจจัย อาทิ สภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษ (Toxic workplace) : อาจเกิดจากระบบงานที่มีปัญห
มัดรวม 10 เมนูขายดีตอนเช้า ตอบโจทย์คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ลงทุนง่าย รายได้งาม มื้อเช้า สำคัญมาก หนุ่มสาวชาวออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่ข้าราชการ ต่างต้องรีบและเข้างานให้ทันเวลา ดังนั้น พวกเขาเหล่านี้มักจะหาสินค้า หรืออาหารที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ โอกาสดีของเหล่าพ่อค้าแม่ขาย หากเรารู้จักปรับตัว เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ ก็อาจจะช่วยสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมก็เป็นได้ โดยเริ่มต้นขายอยู่ที่บริเวณบ้าน คอนโด หรือแม้แต่ตลาดใกล้ๆ บ้าน และเริ่มจากสิ่งง่ายๆ ใกล้ตัว แล้วขยับขยายเมนูต่างๆ ออกไป หากใครที่กำลังกังวล หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีข้อแนะนำให้ทุกๆ คน กล้าที่จะเริ่มต้น และลงมือทำ วางแผนก่อนลงมือทำ 1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย เริ่มแรก พ่อค้าแม่ค้าจะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน จากที่บอกไปข้างต้น กลุ่มเป้าหมายของเราคือ พนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ หรือแม้แต่คนที่มีเวลาเร่งรีบในช่วงเช้า 2. เลือกเมนูที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้า เมื่อเรากำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้ว เราจะสามารถกำหนดเมนูอาหารที่เราจะขายได้ โดยดูว่ากลุ่มคนวัยนี้ เหมาะกับอาหารแบ
หมดปัญหา ไม่มีเงินเก็บ! แชร์ 5 เคล็ดลับ ช่วยให้วัยเริ่มทำงานเก็บเงินได้ไวขึ้น เพราะการเก็บเงินจริงจัง เป็นเรื่องยากของเด็กจบใหม่ หรือวัยเริ่มทำงาน โดยเฉพาะคนที่อยากสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยเงินเดือนที่อยู่ในระดับ Entry Level หรือเพิ่งเริ่มต้น ซึ่งหลายคนนอกจากต้องรับมือกับค่าใช้จ่ายส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าที่อยู่อาศัย หรือค่าอาหารในทุกวันแล้ว อาจต้องชำระคืนทุนการศึกษา หรือต้องช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านอีกด้วย ดังนั้น First Jobbers อาจพบเจอความท้าทายทางการเงินได้หลากหลาย โดยเรามี 5 เคล็ดลับที่ช่วยให้วัยเริ่มทำงานเก็บเงินได้ไวขึ้น เพื่อการเงินที่ดีขึ้น ดังนี้ 1. กำหนดงบประมาณที่ใช้ต่อเดือน ไม่ว่าการเริ่มต้นชีวิตมนุษย์ทำงานจะยุ่งเหยิงแค่ไหน แบกอะไรบ้าง แต่เรื่อง “การเงิน” ต้องไม่หลุดโฟกัส เมื่อตั้งใจเก็บเงินอย่างจริงจัง สิ่งสำคัญคือ การคุมงบใช้จ่ายอย่างหนักแน่น ซึ่งการรู้จักตัวเองว่าในแต่ละเดือน ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับอะไร เท่าไหร่ ทั้งค่าที่อยู่อาศัย ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงค่าช้อปปิ้งต่างๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดสรรงบประมาณที่ใช้จ่ายต่อเดือน และก
อิสรภาพทางการเงิน แนวคิดที่มนุษย์ออฟฟิศควรรู้ อนาคตหมดกังวลเรื่องเงินๆ ทองๆ! อิสรภาพทางการเงิน ถือเป็นวิชาสำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ควรทำความเข้าใจ และเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน ถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มีอิสระอย่างใจฝัน หมดกังวลกับเรื่องเงินในอนาคต fintips by ttb ขอแนะนำแนวคิด “บันได 4 ขั้นสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน” ฉบับมนุษย์เงินเดือน ให้พร้อมลงมือวางแผนเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ ดังนี้ 1. “ฉลาดออม ฉลาดใช้” สร้างรากฐานการเงินที่ดี ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ มั่นใจได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ทำให้ง่ายต่อการวางแผน และกำหนดสัดส่วนการเก็บออมเงินที่พอดี โดยเราสามารถเริ่มต้นด้วยสูตรออมเงินง่ายๆ คือ 50:30:20 ดูก่อน ซึ่งอาจจะปรับสัดส่วนให้พอดีกับชีวิตของเราได้ ๐ ส่วนแรก 50% สำหรับใช้จ่ายกับสิ่งที่จำเป็นในชีวิต เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง และค่าอาหารในแต่ละวัน ๐ ส่วนที่สอง 30% สำหรับใช้จ่ายกับสิ่งที่เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า หรือการเดินทางท่องเที่ยว ๐ ส่วนที่สาม 20% สำหรับการเก็บออมเพื่ออนาคตที่มั่นคง โดยอาจจะแบ่งออกเป็น 2 กอง เช่น 10%