ศบศ.
แพทย์จุฬาฯ ชี้ ไทยกำลังเจอการระบาดระลอก 2 ถ้าคุมไม่ได้ติดเชื้อวันละ 940 ราย เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ภาพรวมทั่วโลกนั้นยังเจอการระบาดอันหนักหน่วง หลายประเทศกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง เพราะมาตรการที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมานั้นไม่ถูกเวลา แถมการไม่เข้มงวดเรื่องพฤติกรรมการป้องกันในประชาชน ทำให้เกิดระบาดซ้ำ ซึ่งหนักกว่าเดิม คริสต์มาสและปีใหม่ที่จะถึงนี้ ถือเป็น Blue Christmas and Blue New Year เพราะหลายประเทศจะต้องฝ่าฟันกับการระบาดที่หนักหน่วง ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร อิตาลี ตุรกี รวมถึงอื่นๆ ในทวีปยุโรป สแกนดิเนเวีย อเมริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย สำหรับเมืองไทยนั้น ชัดเจนว่าเรากำลังประสบกับปัญหาการระบาดระลอกที่สองครับ ขณะนี้อยู่ในช่วงต้น และมีโอกาสขยายวงรุนแรงกว่านี้ในอีก 4-8 สัปดาห์ข้างหน้า หากคุมไม่ได้ คาดว่าเราจะมีจำนวนการติดเชื้อสูงสุดต่อวันราว 940 คน สูงกว่าเดิม 5 เท่า และจะยาวนานประมาณ 88 วัน นานกว่าเดิม 2 เท่า ช่วงเวลาทองในการควบคุมโรคระลอกสองนี้ หากวิเคราะห์ตามประเทศอื่นๆ เ
ททท. เตรียมหารือ ศบศ. ชง ขยายเวลา เราเที่ยวด้วยกัน ลากยาวถึง ธ.ค.2563 เพจ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เผย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยสถิติในวันหยุดชดเชยสงกรานต์ระหว่าง 4-7 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีการเดินทางมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 2 ล้านคนครั้ง ทำให้เกิดเงินสะพัด 8,000 ล้านบาท แต่เมื่อเดินทางจริงเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านคนครั้ง เกิดเงินสะพัด 12,000 ล้านบาท ดังนั้น หยุดยาวช่วงปลายปีนี้ ททท. จึงอยากกระตุ้นให้เกิดการกระจายการเดินทางให้มากขึ้น จะมีการหารือกับคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบศ.) ในประเด็น ขอขยายระยะเวลาโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากเดิม 31 ตุลาคม 2563 ไปถึงสิ้นปีเพื่อรับหยุดยาว
แจกอีกคนละ 500 ศบศ.ไฟเขียว เพิ่มเงิน สวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มแจก ต.ค.นี้ เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ รายงานข่าว นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบศ.) ครั้งที่ 3/2563 ว่าที่ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการ เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน จำนวน 500 บาทต่อคน ต่อเดือน กําหนดเงื่อนไขให้ผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวันที่ลงทะเบียนและมีบัตรประจําตัวประชาชน มีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 10 ล้านคน โดยสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com “ภาครัฐจะให้สิทธิประโยชน์ โครงการ ‘คนละครึ่ง’ โดยอาศัยวิธีการร่วมจ่าย (Co-pay) 50% ไม่เกิน 100 บาทต่อคน ต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เพื่อให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยในสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ไม่รวมลอตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไทยมีงานทำ แพลตฟอร์มช่วยเหลือ นายจ้าง-ลูกจ้าง พบปะกัน เว็บไซต์ ไทยคู่ฟ้า เผยข่าว นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ นายสมิทธิ์ พนมยงค์ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ แถลงผลการประชุม ผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 1/2563 สาระสำคัญ ดังนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชนในทุกภาคส่วนทั้งด้านธุรกิจ ผู้ประกอบการและอาชีพอิสระ จึงจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าหลังจากการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ไทยยังคงมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งระดับ Micro (ระดับพื้นที่) ซึ่งมอบหมายให้รัฐมนตรีรายกระทรวง ลงไปดูแลในระดับพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลแก้ไขปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งปัญหาเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น ภัยแล้ง สำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระดับ Macro (ระดับประเทศ) นั้น ศบศ. จะเป็นศูนย์ใหญ่