สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่
สถาบัน NEA เปิดอบรมหลักสูตรใหม่ ผ่านระบบ E-Academy สร้างองค์ความรู้เทคนิคการเจาะตลาด อ่านพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขอเชิญชวนท่านผู้ประกอบการไทยลงทะเบียนเข้าเรียน หลักสูตรเทคนิคการเจาะตลาดอ่านพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ ผ่านระบบ E-learning สำหรับหลักสูตรนี้จะมีการให้ความรู้ในเรื่องของการเจาะตลาดของกลุ่มเป้าหมายผ่านการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคออนไลน์ ซึ่งข้อมูลเปรียบเสมือนทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ (Strategic Asset) ขององค์กร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น การเก็บ การใช้ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเข้าใจและถูกต้องนั้นจะสามารถถูกนำมาใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ การทำการตลาด และเข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้ในการบริหารองค์กร การวางกลยุทธ์ หรือการจัดการทรัพยากรได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจสมัครเข้าอบรมหลักสูตรของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ผ่านระบบ E-
คิดจะเจาะตลาดเวียดนามต้องรู้! ส่อง 5 เทคนิค พิชิตใจขาช็อปเวียดนามออนไลน์ “สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่” (NEA) เผย เทรนด์ช็อปออนไลน์ ของผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม หวังผู้ประกอบการไทย นำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ ให้ครองใจชาวเวียดนาม 1.สินค้าที่ครองใจขาช็อป : สินค้าที่ชาวเวียดนามนิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุดอันดับหนึ่ง คือ เครื่องแต่งกายและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มีมูลค่าสูงถึง 558 ดอลลาร์สหรัฐ รองลงมา คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สินค้าเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน ตามลำดับ ขณะเดียวกันสินค้าที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ คือ สินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็ก อาทิ อาหารเด็ก ของเล่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เนื่องจากคนเวียดนามมีประชากรวัยหนุ่มสาวที่นิยมแต่งงานเร็ว 2.พฤติกรรมเสิร์ชก่อนซื้อ : พฤติกรรมของผู้ที่มีรายได้หรือมีกำลังซื้อในเวียดนามเน้นใช้สมาร์ตโฟนเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อถึง 80% ทั้งการหารีวิวจากผู้ใช้จริงหรือจากอินฟลูเอนเซอร์ก็ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น รวมถึงชอบค้นหาสินค้าที่ต้องการจากหลายๆ ร้านเพื่อนำมาเปรียบเที
3 เทคนิคแปลงร่างเกษตรกรไทย ให้ขายสินค้าเก่งบนตลาดออนไลน์ การทำการตลาดแบบเดิมของชาวนาและเกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าทางการเกษตรนั้นอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป เนื่องจากการตลาดรูปแบบเดิมนั้นเหมาะสำหรับการขายสินค้าหรือพืชผลทางการเกษตรผ่านทางพ่อค้าคนกลางเพียงอย่างเดียว และในขณะที่ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญสถานการณ์มหาวิกฤตเศรษฐกิจโลกจากโรคโควิด-19 ผู้ประกอบการทั่วโลกยังถูกบีบและร่นระยะเวลาให้เข้าสู่ระบบการตลาดดิจิตอลไปโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้เกิดการเรียกวิกฤตการณ์นี้ว่า “COVID Disruption” วิกฤตที่ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องหันกลับมาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจ การขาย การตลาดในรูปแบบใหม่ทั้งหมด หรือชีวิตวิถีใหม่ (NEW NORMAL) เพื่อปรับตัวให้สามารถยืนหยัดต่อสู้กับสถานการณ์ที่ได้รับผลกระทบ ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการและผู้บริโภคจึงถูกดึงดูดให้ก้าวเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างที่ใครก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดโครงการสัมมนาหลักสูตร “Smart Farmer ออนไลน์สู่ตลาดโลก เพื่อให้ความรู้และเทคนิคเกี่ยวกับกา
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ขอเชิญผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้สนใจด้านการทำการค้าออนไลน์เข้าร่วมโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “E-Commerce Week by NEA ติดปีกธุรกิจ พิชิตตลาดออนไลน์” ครั้งที่ 4 เพื่อเรียนรู้การขายสินค้าและการทำการตลาดออนไลน์อย่างครบวงจร ประกอบด้วย การขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ การตลาดออนไลน์ การชำระเงิน และการขนส่งสินค้า ในรูปแบบธุรกิจ E-Commerce โดยวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญที่จะมาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการทำการค้าออนไลน์และกิจกรรม workshop แบบเข้มข้น อาทิ ฐะปะนีย์ อัมรินทร์รัตน์ ผู้แทนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, โซอี้ ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ ตัวแทนจากบริษัท แฮปปี้โฮม และกฤษฎา พฤทธิ์ขจรวงศ์ บ.แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 กรกฎาคม 2562 ณ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ถนนรัชดาภิเษก ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ฟรี !!! ได้ที่ https://bit.ly/2RiJStT (รับจำนวนจำกัด) หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1169 หรือ เว็บ
ดีไอทีพี เปิดคลาสห้องเรียนรุ่นใหญ่ “60+ ค้าออนไลน์ ขายทั่วโลก” ยกระดับนักค้าออนไลน์กลุ่มสูงวัยสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กระทรวงพาณิชย์ เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรผู้สูงอายุในด้านการพัฒนาศักยภาพด้านการทำธุรกิจ เปิดตัวโครงการ “60+ ค้าออนไลน์ ขายทั่วโลก” เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการกลุ่มสูงอายุได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการค้าออนไลน์แบบครบวงจร อาทิ การโฆษณาสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เทค นิคการหาลูกค้าทางออนไลน์ แพลตฟอร์มการชำระเงิน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุดจากอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะการเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและคนในครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นการผลักดันให้กลุ่มผู้สูงวัยสนใจการใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตเพิ่มมากขึ้น นางสาวบรรจงจิตต์ อังสุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากโครง สร้างอายุของประชากรที่เปลี่ยนไปทั้งในสังคมไทยและระดับโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายมิติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ” โดยในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าประเทศ ไทยมีประชากรที่อายุ 60
DITP จุดประกาย 2 แนวคิดสตาร์ตอัพไทย เผย ปัญหา และประสบการณ์ คือกุญแจธุรกิจสู่ยูนิคอร์น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) จับมือกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จัดโครงการ “Pitch2Success : สานฝันสตาร์ตอัพไทยสู่สากล” โดยมุ่งติดอาวุธสำคัญอย่าง “การพิชชิ่ง : Pitching” ให้กับเหล่าสตาร์ตอัพ เพื่อสร้างทักษะที่ดีในการนำเสนอแผนธุรกิจ และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการจัดตั้งและขยายธุรกิจได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งยังได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อ “เคล็ดลับการทำสตาร์ตอัพให้ประสบความสำเร็จ” โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากวงการสตาร์ตอัพมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งได้แชร์ข้อคิดดีๆ ไว้ได้แก่ “ปัญหาคือที่มาของสิ่งใหม่” จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจของคุณรังสรรค์ พรมประสิทธิ์ ผู้สร้างสรรค์และก่อตั้งแอพพลิเคชั่นคิวคิว แอพเพื่อคนไม่ชอบรอคิว ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับร้านอาหารและลูกค้าทั่วไป ที่ไม่อยากเสียเวลารอคิวให้หมดไปอยู่หน้าร้าน เทคนิคง่ายๆ ที่ฝากไว้ให้รุ่นน้องสตาร์ตอัพนำไปใช้ก็คือ ต้องรู้จักวิเคราะห์ปัญหาจากสิ่งใกล้ตัว ตีโจทย์ให้แตกว่
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA) ได้รวบรวม 7 สูตรสำเร็จและเทคนิคต่อรองเจรจาการค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปปรับใช้ได้เรียนรู้จุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อเป็นนักเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้อย่างเป็นมืออาชีพ ดังนี้ เตรียมพรีเซนต์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ขั้นแรกหลังจากที่ได้ประเมินความต้องการและศึกษาข้อมูลของอีกฝ่าย เพื่อที่จะวางแผนการเจรจาได้อย่างเหมาะสมนั้น คุณจะต้อง “เตรียมฝึกการพูดให้ดูเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ” ด้วยข้อมูลที่แม่นยำเพื่อโน้มน้าวใจอีกฝ่าย และวางแผนรับมือกับคำถามที่อาจจะถูกถามกลับมาด้วยคำตอบที่ฉะฉาน ชัดเจน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถพัฒนาได้จากการฝึกฝนบ่อยๆ เตรียมแนวคำถามอย่างฉลาด เพราะการตั้งคำถามที่ดี จะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้เลยทีเดียว ดังนั้นนอกจากจะฝึกตอบคำถามแล้ว คุณจะต้องฝึกตั้งคำถามอีกด้วย เพราะถ้าหากคุณปล่อยให้อีกฝ่ายถามคุณฝ่ายเดียว ก็เหมือนกับคุณกำลังปล่อยให้เขารัวหมัดใส่คุณ ดังนั้นควรปล่อยหมัดกลับด้วยการตั้งคำถามที่มีประสิทธิภาพ เพราะการตั้งคำถามที่ดี ถูกที่ถูกเวลาจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลสำคัญ และบรรลุจุดประสงค์ได้อย่างง่ายดาย ซ