สธ.
ผู้สูงอายุปลื้ม สธ. เปิด “คลินิกผู้สูงอายุ” สะดวกสบาย ใกล้บ้าน บริการครบครัน กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้าให้บริการ “คลินิกผู้สูงอายุ” ครอบคลุมทั่วประเทศ ตามแผนปี 2566 “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” ตั้งเป้าคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ 10 ล้านคน ได้รับบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม ครอบคลุมและทั่วถึง นางก้อนทอง พู่ไหม เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอายุ 78 ปี อาศัยอยู่กับลูกที่ จ.นนทบุรี มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง ก่อนหน้านี้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เจ้าหน้าที่ดูแลให้คำแนะนำและให้บริการเป็นอย่างดี แต่ต่อมาได้เปลี่ยนไปรับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านวัดแคใน ทำให้ได้รับความสะดวกสบายขึ้น เนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน และยังคงได้รับบริการจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีเช่นเดิม “ตอนนี้เดินทางสะดวกขึ้น เพราะใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ เอาใจใส่และดูแลอย่างดีเหมือนกัน ดีใจที่เขาเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพของคนอายุมากๆ อย่างเรา ใครที่มีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัว อยากแนะนำให้เข้าไปตรวจที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน เพราะสะดวกสบาย บริการดีเหมือนโรงพยาบาล” นางก้อนทอง กล่าว ขณ
สธ. ผนึก พันธมิตร เร่งเพิ่มความครอบคลุมการฉีดวัคซีน รับสัปดาห์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย สถาบันวัคซีนแห่งชาติ หน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เดินหน้ารณรงค์ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน เพื่อเพิ่มความครอบคลุมการรับวัคซีนทั่วประเทศ ในโอกาสสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Week 2023) นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน กล่าวว่า “องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้วันที่ 24-30 เมษายน 2566 เป็นสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Week 2023) ซึ่งทีมประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายระดับโลก ภายใต้แนวคิด The Big Catch-Up รวมพลัง สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรค ผ่านการประสานระหว่างมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชนและสถาบันวัคซีนแห่งชาติซึ่งร่วมกันเป็นเจ้าภาพหลัก โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี และปลอดภัยจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ด้วยความร่วมมือกันทั้งจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรณรงค์ให้ประ
สธ. เดินหน้าต่อเนื่อง 2566 “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” สู่เป้าหมาย “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง” กระทรวงสาธารณสุข เร่งดำเนินกิจกรรม “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” คัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุแล้ว 5.2 ล้านคน จัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุ 586 แห่ง มอบแว่นสายตากว่า 50,000 ชิ้น ฟันเทียมกว่า 40,000 ราย และผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 13 ล้านชิ้น มุ่งเน้นส่งเสริม “สุขภาพ” เพิ่ม “ความสุข” ให้ผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคนทั่วไทย มีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ปี 2566 เป็น “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” และเริ่มกิจกรรมมาตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยเป็นนโยบายมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง และมอบเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุ ให้ได้รับบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม ครอบคลุมและทั่วถึง ทั้งทางกายและจิตใจ โดยให้บริการการคัดกรองสุขภาพ ด้วยระบบ SMART อสม. และ Blue Book Application ผ่านเจ้าหน้าที่ อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัด ตั้งเป้าการคัดกรองสุขภาพผู้สูง
สธ. ร่วมพันธมิตรผู้จัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 เปิด อีมาร์เก็ตเพลส ตลาดกลางธุรกิจทางด้านการแพทย์และสุขภาพออนไลน์ครั้งแรกของไทย เชื่อมผู้ประกอบการไทยกับทั่วโลก กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้านโยบายสร้างประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของโลก ล่าสุดจับมือ สสปน. ททท. สสส. พันธมิตรผู้จัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 เปิด อีมาร์เก็ตเพลส ตลาดกลางสำหรับธุรกิจทางด้านการแพทย์และสุขภาพออนไลน์ ครั้งแรกของประเทศไทย สร้างโอกาสผู้ประกอบการไทยเชื่อมต่อคู่ค้าทั่วโลก นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการส่งเสริมและการพัฒนา อีมาร์เก็ตเพลส ตลาดกลางสำหรับธุรกิจทางด้านการแพทย์และสุขภาพออนไลน์ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรผู้จัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า อีมาร์เก็ตเพลส เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อนให้
กินเจอย่างไรให้สุขภาพดี กรมอนามัย แนะ ยึดหลัก 5 ล. ช่วงเทศกาลกินเจ 10 วัน วันที่ 7 ต.ค. 2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สิ่งที่กรมอนามัยเน้นย้ำมาตลอดคือสุขอนามัยในการปรุงประกอบอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากการปรุงอาหารเจจำหน่าย มักปรุงประกอบในปริมาณมาก ซึ่งพบความเสี่ยง เช่น อาหารที่ปรุงไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ กรมอนามัย จึงแนะนำหลัก 5 ล. เพื่อสุขภาพที่ดี 1. ล : เลือกวัตถุดิบ ที่ใช้ในการปรุงประกอบอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และเลือกกินอาหารจากร้านอาหารที่สะอาด ผ่านมาตรฐาน “อาหารสะอาด รสชาติอร่อย : Clean Food Good Taste” เช่น ผักสด ผลไม้ โปรตีนเกษตร มาจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ โดยเลือกซื้อวัตถุดิบจากตลาดที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน “ตลาดสดน่าซื้อ” ของกรมอนามัย ซึ่งมีอยู่จำนวน 1,565 แห่งทั่วประเทศ ผ่านระดับดีและดีมาก จำนวน 1,351 แห่ง หรือร้อยละ 85.82 และตลาดที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานราชการ อีกทั้งเครื่องปรุงรสต้องมีเครื่องหมาย อย. เครื่องหมาย มอก. เป็นต้น 2. ล : ล้างผัก ผลไม้ให้สะอาด ก่อนกินหรือก่อนนำผักและผลไม้มาปรุงอาหาร ต้องล้าง
ไฟเขียวแล้ว! สธ. อนุมัติ ขาย ชุดตรวจ ATK Self Test ผ่านร้านค้า-ออนไลน์ ได้ตั้งแต่ 29 ก.ย. เป็นต้นไป เว็บไซต์ อย. เผยข่าว นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายผ่อนคลายสถานประกอบการต่างๆ แต่ยังคงยกระดับมาตรการความปลอดภัย (COVID Free Setting) ซึ่งประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้ชุดตรวจ ATK ในการคัดกรองการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาช่องทางการจำหน่ายชุดตรวจเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงชุดตรวจ ATK ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว จึงได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ อนุญาตให้ชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง หรือ ATK Self Test สามารถจำหน่ายได้ทั่วไปตามร้านค้าและช่องทางออนไลน์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2564 ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไป ห้างร้าน บริษัท สามารถรับสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าที่ได้รับอนุญาตนำเข้าถูกต้องจาก อย. ได้โดยตรง สำหรับผู้บริโภคสามารถตรวจสอบชุดตรวจ ATK ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ทางเว็บไซต์ อย. หรือทางคิวอาร์โค้ดนี้ และก่อนซื้อขอให้ผู้บริโภคสังเกตฉลากภาษาไทย และมีข้อความแสดงคำเตือน “บุคคลทั่วไปสา
อีก 1-2 วันรู้ผล! สธ. ขอเวลา ถก ล็อกดาวน์ประเทศ ก่อนเสนอชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ รายงานว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) นัดพิเศษ ว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการทบทวนมาตรการหลายด้าน โดยมีความเห็นชอบให้ ศบค.ชุดเล็ก ไปประชุมปรับมาตรการให้มีความเข้มข้นขึ้น ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น จะต้องหารือในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อเร่งเสนอแผนต่อ ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาเห็นชอบต่อไป “มาตรการจะมีความเข้มข้นขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นไปในแนวทางเดิม ตอนนี้ขอเวลาให้คณะทำงานได้ปรึกษาหารือร่วมกันก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความชัดเจน” นพ.โอภาส กล่าว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวจากที่ประชุม ศบค.นัดพิเศษ ระบุว่า ในที่ประชุมได้มีการถกประเด็นการปิดประเทศในหลายระดับ เช่น ปิดกิจการเสี่ยงทั้งประเทศ หรือฟูลล็อกดาวน์ หรือจะปิดแบบ 3 ใน 4 หรือครึ่งประเทศ ในจุดที่มีตัวเลขติดเชื้อสูง หรืออีกทางหนึ่งคือ ล็อกและซีล 10 จังหวัดสีแดงเข้ม โดยในที่ประชุมมีการยกตัวอย่างว่า จะปิดกิจกา
กระทรวงสาธารณสุข จัดระบบรองรับนักท่องเที่ยวระยะยาว 270 วัน สร้างความปลอดภัย ป้องกันโควิด เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2563 นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดี จึงมีการผ่อนคลายให้ชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ มีการตั้งสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) และสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine) นอกจากนี้ เมื่อรัฐบาลเห็นชอบ Medical and Wellness Program จึงมีการดำเนินการตั้งสถานกักกันโรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) รองรับผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารักษาในประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม โดยมีการกักกัน 14 วัน ตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง มีระบบการส่งตัวผู้ป่วยที่ปลอดภัย แยกจากประชาชนทั่วไป เข้าสู่ห้องความดันลบ นอกจากนี้ กำลังดำเนินการจัดตั้งสถานกักกันในกิจการเพื่อสุขภาพ (Wellness Quarantine) รองรับการนำชาวต่างชาติที่สุขภาพแข็งแรงและปลอดเชื้อโควิด 19 เข้ามาใช้บริการกิจการสปาและการส่งเสริมสุขภาพ โดยยืนยันว่าระบบที่ดำเนินการมีความปลอดภัย นายแพทย์ธเร
สธ.หนุนวิจัยวัคซีนโควิด เพิ่มโอกาส ไทยเข้าถึงประเทศแรกๆ ของโลก เว็บไซต์ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เผยข่าว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามความก้าวหน้าวิจัยวัคซีนโควิด 19 พร้อมสนับสนุนงบประมาณวิจัยทุกสถาบันที่มีโอกาสสำเร็จ ไม่เจาะจงเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องร่วมมือหลายช่องทาง เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงวัคซีนเป็นประเทศแรกๆ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการประชุมติดตามความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทยและแผนการสนับสนุน ว่า โรคโควิด 19 ยังคงระบาดทั่วโลก แม้ประเทศไทยจะควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ยังต้องดำเนินการควบคุมและป้องกันโรคทุกด้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ประเทศไทยเข้าไปมีส่วนร่วมกับการทดลองวัคซีนโควิด 19 ของสถาบันหลักต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงการวิจัยและพัฒนาภายในประเทศด้วย เพื่อให้ไทยเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่เข้าถึง เกิดการผลิตวัคซีนที่มีศักยภาพและประสิทธิภาพตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก พึ่งพาตนเองได้ สำ
สธ.สอบวินัยร้ายแรง-แจ้งความดำเนินคดีผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอเรียกรับเงินบรรจุโควิด นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 ให้สัมภาษณ์ว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังจากได้รับร้องเรียนมีการแอบอ้างว่าสามารถช่วยเรื่องบรรจุข้าราชการด่านหน้าสู้โควิด-19 ในสำนักงานสาธารณสุขแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าเป็นโควต้ารัฐมนตรี เพื่อให้มีการบรรจุข้าราชการทันในรอบที่ 3 ผลการสอบพบว่า ผู้แอบอ้างคือ นักวิชาการสาธารณสุข ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยได้มีการยื่นเสนอว่าสามารถช่วยให้พี่สาวของพยาบาลวิชาชีพประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ พร้อมกับข้าราชการที่บรรจุกรณีโควิด-19 ประมาณเดือนกันยายน 2563 และจะให้ปฏิบัติราชการที่กลุ่มงานยาเสพติด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา โดยอ้างว่าเป็นโควตาของรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการโยงเอาเหตุการณ์สองเหตุการณ์มารวมกัน ได้แก่ การบรรจุเป็นข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ และการเปิดรับสมัครนักวิชากา