สมุย
โอกาสและการเติบโตของตลาด ‘Luxury Tourism’ ของไทย จากกระแส “White Lotus” เรียกได้ว่าเป็นการจุดกระแสการท่องเที่ยวที่ทั่วโลกจับตามอง สำหรับซีรีส์ดัง The White Lotus ซีซัน 3 ที่เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก โดยเน้นไปที่เกาะสมุยเป็นพิเศษ ทำเอาหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ซีรีส์เรื่องนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวระดับหรูของไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และคาดหวังว่าจะช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้ชมทั่วโลกและสร้างโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับหรูของไทย หรือที่เรียกว่า “ไฮเอนด์ ทัวริซึม” ด้านคุณชมพู่ มรุศโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำนิวยอร์ก ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ถึงการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวว่า “เธอเชื่อว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% ในฮาวาย และซิซิลี จากซีรีส์ซีซัน 1 และ 2 และคาดว่าความสำเร็จนั้นจะเกิดขึ้นกับไทยเช่นกัน” ถึงแม้คุณชมพู่จะคาดหวังไว้ไม่มากนัก แต่การเพิ่มขึ้น 20% ที่เธอคาดหวังไว้ก็เพียงพอที่จะทำให้ประเทศไทยกลับมามียอดนักท่องเที่ยวเท่ากับก่อนเกิดโรคระบาดได้ “The White Lotus” ปรากฏการณ์สะเทือนโลก กระตุ้นการท่องเที่ยวตามรอยซีรีส์
สมุย เครียดหนัก บ.ทัวร์ ชี้ บับเบิ้ล โมเดล เอสเอ็มอี อาจได้แค่ เศษเนื้อข้างเขียง คุณศิราณี อนันตเมฆ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ กลอรี่ เวิลด์ไวด์ ทราเวิล จำกัด กิจการรับจัดทัวร์ในประเทศ (inbound) ภาคพื้น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า บริษัททัวร์ของเธอ มีรายได้เป็นศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา และเท่าที่คุยกับลูกค้าต่างประเทศ แผนการท่องเที่ยวทั่วโลกทุกวันนี้ คิดกันแบบ วันต่อวัน เมื่อใดที่มีข่าวผู้ป่วยโควิดเพิ่มจำนวน จะส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวของลูกค้าเป้าหมายทันที ความฝันที่ว่านักท่องเที่ยวจะมาก็สลาย สถานการณ์เป็นอย่างนี้มาหลายเดือนแล้ว “ลูกค้าหลักของเรา มาจาก อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และ เยอรมนี ถามว่า ถึงวันนี้บริษัทยังอยู่ไหวมั้ย ไม่ไหวค่ะ ช็อกนิ่งไปเดือนนึง ก่อนตัดสินใจเรียกประชุมลูกน้องทั้ง 25 คน สำรวจมีเงินสดเท่าไหร่ มีลูกหนี้เท่าไหร่ มีเจ้าหนี้เท่าไหร่ นำมาเกลี่ยกันให้หมด เมื่อทุกอย่างหมด ก็แยกย้ายกันตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่บริษัทยังไม่ปิด เหลือลูกน้องไว้ 1 คน ทำงานสัป
“บิ๊กตู่” อ้อน เพราะรักจึงมาสมุย ไม่มีอุปสรรคขวางกั้น แม้เครื่องบินเสีย พร้อมแซะนโยบายช่วยชาวนา เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการจ.สุราษฎร์ธานีและจ.กระบี่ โดยจุดแรกนายกฯ เดินทางมายังลานอเนกประสงค์ ท่าเทียบเรือเกาะสมุย ต.หน้าทอน อ.เกาะสมุย เพื่อเป็นประธานในพิธีส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลจากเมืองสุราษฎร์ธานีมายังเกาะสมุย มีระยะทาง รวม 125 กิโลเมตร ใช้งบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท และเป็นโครงการวางท่อประปาที่ยาวที่สุดในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง โดยโครงการดังกล่าวสามารถเพิ่มกำลังผลิตน้ำประปาบนเกาะสมุยได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวหรือ 24,000 ลบ.ม.ต่อวัน เพื่อรองรับปริมาณการใช้น้ำที่มากกว่า 1,000 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่เดินทางมาถึงนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับกว่า 1,000 คน โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ยื่นมือทั้งสองข้างเพื่อสัมผัสมือกับชาวปักษ์ใต้ โดยประชาชนได้ตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” นายกฯ จึงทำมือเป็นสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู จากนั้นได้ร่วมชมการ