สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ปีติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ฉายกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จำนวน 8 พระรูป เพื่อมอบให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป สำหรับเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ไปเผยแพร่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ ด้วยความจงรักภักดี ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดพระบรมฉายาลักษณ์ได้ที่เว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์ www.prd.go.th
ผอ.รพ.สุไหงโก-ลก เผยภาพเช็คพระราชทานร.10 กว่า 25 ล้าน ซื้ออุปกรณ์แพทย์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายแพทย์อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผยภาพเช็คพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 25,947,212.74 บาท สั่งจ่ายโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก พร้อมกล่าวว่านับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และพสกนิกรอำเภอสุไหงโก-ลก และที่ทรงพระราชทานเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ทางแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง เครื่องเอกซเรย์ซีอาร์ม จำนวน 1เครื่อง กล้องส่องลำไส้ใหญ่ จำนวน 1เครื่อง เครื่องให้ออกซิเจนอัตราการไหลเวียนสูง จำนวน 1 เครื่อง และเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า 3ไก จำนวน 6ชุด รวมทั้งสิ้นจำนวน 25,947,212.74 บาท โดยเครื่องมือแพทย์ทั้งหมดล้วนเป็นอุปกรณ์สำคัญที่นำมาใช้ทดแทนเครื่องเดิมที่มีอายุการใช้งานมานานมากแล้ว และอีกส่วนหนึ่งคืออุปกรณ์ที่ขาดแคลน ทั้งนี้อุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมดที่จัดซื้อโดยเงินพระราชทานจะทำให้โร
ปีติเผยภาพ เช็คพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สธ.น้อมรับพระราชดำรัส เช็คพระราชทาน / ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. เฟซบุ๊ก‘สกลนคร ซิตี้’ เผยแพร่ภาพเช็คพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเงินจำนวน 79,957,680.00 บาท (เจ็ดสิบเก้าล้านเก้าแสนห้าหมื่นเจ็ดพันหกร้อยแปดสิบบาทถ้วน) เพื่อสนับสนุนจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ” ขณะที่วันเดียวกัน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโรงพยาบาลจำนวน 27 แห่ง ได้รับพระราชทานเงินสำหรับจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 2,407,144,487.59 บาท จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมาจากเงินที่ประชาชนได้ร่วมกันทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในการร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในงานพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรายได้จากการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ว่า โรงพยาบาลสังกัด สธ.ได
พสกนิกรเปล่งเสียง ‘ทรงพระเจริญ’ พระราชินี-เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระดำเนินในขบวนฯ วันที่ 5 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายจักรี สายสร้อยจุลจอมเกล้า ทรงพระมาลาเส้าสูง และทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จฯ โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคตามโบราณราชประเพณี มีกองทหารแห่นำริ้วขบวนพระราชอิสริยยศออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรีไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร การนี้ สมเด็พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี ทรงพระดำเนินตามเสด็จฯ ในริ้วขบวนพระราชอิสริยยศด้วย
อบอุ่นหัวใจ นาที “พระราชินี” ทรงประคอง “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” หลังเสร็จพระราชพิธี วันที่ 5 พ.ค. เวลา 09.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ จากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปยัง พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จออกพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ในพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ มีพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯ รับเสด็จ เมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงกราบสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และทรงช่วยประคองพระองค์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
พสกนิกรจำนวนมากจับจองพื้นที่รอเฝ้ารอรับเสด็จ พระอาทิตย์ทรงกลด ช่วงพระราชพิธี วันที่ 5 พ.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณสองข้างทางเส้นทาง เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ถนนราชดำเนิน ว่า ประชาชนจำนวนมาก สวมใส่เสื้อสีเหลือง ต่างเดินทางมาจับจองพื้นที่ รอเฝ้าชมพระบารมี ในช่วงเย็นวันนี้ โดยเมื่อช่วงเช้า ยังได้เกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ทรงกลด บริเวณท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง ทำให้ประชาชนที่มาเฝ้ารอชมพระบารมี ต่างพูดไปเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นนิมิตหมายอันดี และต่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพเหตุการณ์นี้
ปีติ สมเด็จพระราชินี กราบพระบาท สมเด็จพระเทพ-เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ในพระราชพิธี วันที่ 3 พ.ค. เวลา 15.50 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ และจุดเทียนชัย พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ
พสกนิกรปลื้มปีติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสวมกอด ทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ ในพระราชพิธี วันที่ 3 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ไปทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร นมัสการพระรัตนตรัย ถวายบังคมพระบรมอัฐิพระอัฐิ และจุดเทียนชัย ณ พระบรมมหาราชวัง
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษผู้ต้องราชทัณฑ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 มีใจความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่า ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญ เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 และมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 261 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2517 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ คลิกอ่านประกาศฉบับเต็ม
นาทีประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินีสุทิดา พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อเวลา 16.32 น. วันที่ 1 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้อง ว.ป.ร. พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา ในการสถาปนาสมเด็จพระราชินี ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนา พลเอกหญิงสุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา เป็นสมเด็จพระราชินี ความตอนหนึ่งว่า ประกาศสถาปนาสมเด็จพระราชินี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับ พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา ถูกต้องตามกฎหมาย และราชประเพณีโดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว จึงมีพระราชโองการให้สถาปนา พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา พระอัครมเหสี เป็น สมเด็จพระราชินีสุทิดา ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศ ฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน จากนั้น พลเอกหญิง สุทิดา วชิรา