สวนกล้วย
เสียหายไปเป็นตัน กว่าจะได้ กล้วยหนึบ ลูกสาวชาวสวนทำขาย รายได้ครึ่งแสน พูดถึง กล้วย ผลไม้กินง่าย นอกจากกินผลสดได้แล้ว ยังนำไปแปรรูปเป็นสินค้าอย่างอื่นได้อีก ยกตัวอย่าง กล้วยหนึบ สินค้าเกษตรแปรรูปของสาววัย 24 เธอตั้งใจนำผลผลิตจากสวนของครอบครัวมาเพิ่มมูลค่า ไม่ต้องถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลางเหมือนที่ผ่านมา แม้ตอนแรกจะทำเสียไปเป็นตัน แต่ความพยายามก็ทำให้เธอได้กล้วยหนึบสูตรเด็ดวางจำหน่าย กว่าจะเป็น กล้วยหนึบ เสียหายไปเป็นตัน ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน คุณใหม่-สายธาร เจริญคลัง เริ่มทำกล้วยหนึบขายตอนอายุ 22 ปี เธอเป็นศิษย์เก่าสาขาวิชาพืชศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา หลังเรียนจบเธอไม่ได้สมัครงานที่ไหน เพราะอยากกลับบ้านมาช่วยงานพ่อแม่ ในฐานะลูกสาวคนโต “กลับมาเห็นพ่อปลูกกล้วยไว้เต็มสวน แต่ขายไม่ได้ราคา เพราะต้นทุนการผลิตสูง ปุ๋ยแพง อีกทั้งถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง เลยอยากทำให้กล้วยจากสวนเรามีราคามากขึ้น” ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวคุณใหม่ พร้อมกับความตั้งใจเต็มเปี่ยม อยากช่วยครอบครัว เธอไปเดินสำรวจตามห้าง หาสินค้าเกี่ยวกับกล้วย มีทั้งกล้วยตาก กล้วยฉาบ ดูแล้วคนทำเยอะ ทำอีกคงไม
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผักผลไม้ปลอดสารพิษเพื่อส่งออกอำเภอดำเนินสะดวก…มีวิธีการ ชมพู่เป็นผลไม้เมืองร้อน จากอินเดียที่เข้ามาเติบโตแพร่หลายในเมืองไทยนานแล้ว ปัจจุบันต้นชมพู่ที่ปลูกในประเทศไทย จะออกดอก 2 รุ่นใหญ่ ดอกรุ่นแรกจะผลิบานช่วงเดือนธันวาคม –มกราคม เก็บผลผลิตออกขายได้ในเดือน กุมภาพันธ์- มีนาคม ถือเป็นฤดูผลผลิตประจำปี ของ ชมพู่ที่ปลูกในเมืองไทย เนื่องจากมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ชมพู่มีราคาถูก ส่วนดอกรุ่น 2 อยู่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ เก็บผลผลิตได้ในเดือนเมษายน – พฤษภาคม หาก เกษตรกรรรายใด อยากขายผลผลิตให้ได้ราคาแพง ต้องผลิต ชมพู่ทะวายนอกฤดู ให้มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม หากตั้งขายผลผลิตได้ในราคาสูง ควรวางแผนให้มีผลผลิตเข้าตลาดในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม เพราะเป็นระยะที่ชมพู่ทะวายมีผลผลิตน้อย ก็จะมีโอกาสฟันกำไรก้อนโตจากขายชมพู่นอกฤดู สำหรับเกษตรกรที่สนใจอยากผลิต ชมพู่ทะวายนอกฤดู ขอแนะนำเทคนิคการดูแลจัดการสวนชมพู่ทะวาย ของ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผัก ผลไม้ปลอดสารพิษเพื่อส่งออกอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรีไปทดลองใช้กัน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผัก ผลไม้ปลอ
สถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีระดับเพิ่มสูงขึ้นและขยายวงกว้าง สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนางรุจี ทองระย้า อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 1 ตำบลบางหลวง อำเภอบางบาล ต้องเร่งตัดกล้วยหอม เท่าที่พอจะตัดได้ หลังจากน้ำจากคลองบางหลวง ที่รับน้ำจากเจ้าพระยา ได้ทะลักเข้าท่วมสวนกล้วยหอมเกือบ 2 ไร่ บนที่ดินหลังบ้านพักสูงเกือบ 1 เมตร กล้วยหอมจำนวนมาก อยู่ระหว่างออกเครือเป็นหวีสวยงาม แต่ยังไม่แก่จัดที่จะตัดขายได้ในขณะนี้ ซึ่งอายุของกล้วยจะตัดขายได้ในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า แต่ต้องมาเสียหายทั้งหมด โดยประมาณแล้วต้นกล้วยจมน้ำกว่า 300 ต้น ต้นหนึ่งจะมีกล้วย 1 เครือ ขายได้เครือละไม่ต่ำกว่า 350 บาท หมายถึงครอบครัวของตนเองสูญเงิน ที่ควรจะได้ทันทีไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ด้านนายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล ยังคงเดินหน้าออกช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ปลูกสวนกล้วยหอมและกล้วยไข่ในพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่เป็นการทำการเกษตรในครอบครัว จึงมีแรงงานไม่มากนัก ประเมินแล้วความเสียหายเบื้องต้น เฉพาะสวนกล้วยมากกว่า 100 ราย รายละประมาณ 50,000-100,000 บาท หรือเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาทแล้ว