สาจ๋า
ติดอันดับแหล่งปลูกกาแฟดีมีคุณภาพที่จังหวัดเชียงใหม่ แถมได้เครื่องหมายทะเบียน GI (Geographical Indication) หรือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สำหรับกาแฟไทย แบรนด์ “เทพเสด็จ” ผลผลิตกาแฟจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟสดแม่ตอน ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด ที่ได้รวมตัวกันสร้างแบรนด์กาแฟไทย มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เลียนแบบไม่ได้ทั้งกลิ่นและรสชาติ คุณสุวรรณ เทโวขัติ หรือ คุณโขง ประธานกลุ่มวิสาหกิจกาแฟสดเทพเสด็จ วัย 41 ปี เล่าว่า ชื่อกาแฟเทพเสด็จ มาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยม โครงการหลวงป่าเมี่ยงในปี พ.ศ. 2534 ทั้ง 2 พระองค์เสด็จฯ มาถึง 2 ครั้ง จึงขอพระราชทานนามชื่อตำบลเทพเสด็จ เลยเป็นที่มาของชื่อกาแฟเทพเสด็จ ปลูกในตำบลเทพเสด็จ สำหรับกาแฟเทพเสด็จ เป็นกาแฟอาราบิก้า สายพันธุ์ “คาติมอร์” (CatiMor) ค่อนข้างทนทานต่อโรค ปลูกอยู่บนพื้นที่สูง 1,100 – 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศเย็นทั้งปี เฉลี่ย 10 – 28 องศาเซลเซียส ปลอดภัยไร้สารพิษ ปลูกในป่า มีดอกไม้ป่า หรือเรียกว่า “ดอกก่อ” มีสีเหลือง ประกอบกับในพื้นที่มีผึ้งโก๋น หรือผึ้งโพรง เวลาผึ้งโพรงไปตอมเกสรจากดอ
อดีตหนุ่มออฟฟิศเลี้ยงไก่ต๊อกสุดรุ่ง ไก่พันธุ์นี้ราคาดี-ออกไข่เยอะ ตลาดออนไลน์ซื้อไม่อั้น คุณพณิชย์ สังหาร อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ที่ 6 ตำบลสันโค้ง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เป็นเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงไก่ต๊อกจนประสบผลสำเร็จ ทำให้เขาถึงกับลาออกจากงานออฟฟิศ มาหาความสุขกับการเลี้ยงไก่ต๊อกและสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ เป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี คุณพณิชย์ ชายหน้าหวาน มากด้วยรอยยิ้ม เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ต่อมาประมาณปี 2557 ได้นำไก่ต๊อกมาทดลองเลี้ยงที่บ้านเพื่อเป็นอาชีพเสริม เมื่อเลี้ยงมาได้สักระยะผลปรากฏว่าไก่ต๊อกออกไข่และสามารถจำหน่ายลูกไก่ต๊อกเป็นรายได้พอได้เงินเป็นค่าใช้จ่าย จึงเริ่มเลี้ยงมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งหาสัตว์ปีกชนิดอื่นมาเลี้ยงภายในบริเวณบ้านอีกด้วย “ช่วงแรกผมเลี้ยงไก่ต๊อก ควบคู่ไปกับทำงานประจำ มาเลี้ยงสัตว์อย่างเต็มตัว ช่วงนั้นไก่ต๊อกผมหาซื้อมาเลี้ยงประมาณ 5 คู่ เลี้ยงไปเลี้ยงมาก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมก็เริ่มสนใจไก่ชนิดอื่นด้วยก็หาซื้อมาเลี้ยง พอทำแล้วเริ่มรู้สึกสนุก มันมีอิสระในการทำ ก็ลาออกจากงานออฟฟิศมาเลี้ยงไก่อยู่ที่บ้านอย่างเต็มตัว” คุณพณิชย์ เล่
หลังพ้นโทษออกจากคุกด้วยข้อหาปล้นฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คุณสุพันธ์ ศรีภักดี อดีตนักโทษได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นเกษตรกรเลี้ยงวัวเนื้อ หมู และปลานิล บนพื้นที่ 24 ไร่ ที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีลูกชาย2คนคอยช่วยเหลือ ในแต่ละปี ฟาร์มแห่งนี้จะมีรายได้หลังค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 6.6 ล้านบาท “ผมนั้นเคยติดคุกอยู่ที่บางขวาง 13 ปี ข้อหาปล้นฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ช่วงที่อยู่ในเรือนจำได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตร โดยเฉพาะการทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นความตั้งใจว่า หากได้พ้นโทษออกมาจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับการทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง” นายสุพันธ์ ศรีภักดี เจ้าของ“ ศรีภักดีฟาร์ม” อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โทร. (087) 240-6827 บอกกล่าวถึงอดีตก่อนก้าวมาเป็นเกษตรกรในระดับ Smart Farmer ด้านปศุสัตว์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเบญจลักษ์ และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ นายสุพันธ์ ศรีภักดี เจ้าของ“ ศรีภักดีฟาร์ม” จากที่ต้องถูกจองจำอยู่เป็นเวลา 13 ปี เมื่อพ้นโทษออกมา ในปี 2535 จึงเป็นปีแห่งการเริ่มต้นชีวิต
ยังติดโผอยู่ในธุรกิจที่คนอยากทำ นั่นคือ “ธุรกิจเพื่อสุขภาพ” ว่ากันว่าเทรนด์ดูเเลสุขภาพยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว แม้แต่ดารา เซเลบริตี้ ยังหันมาเอาจริงเอาจัง ยกตัวอย่าง พระเอกหน้าคม จากเด็กอ้วนดำ น้ำหนักร้อยโล มังกร-ปภาวิน หงษ์ขจร พระเอกช่อง 8 วัย29ปี ก็ยังทุ่มเงินสร้างธุรกิจน้ำส้ม จุดเด่นใช้ส้ม 3 สายพันธุ์ผสมกัน ราคาไม่โหด 35 บาท ยอดขายเเต่ละวันแตะหมื่นขวดแล้ว ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสรักสุขภาพได้รับความนิยมมากในบ้านเรา หลายคนจึงถือโอกาสผุดธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพขึ้นมารองรับ ไม่เว้นแม้แต่ มังกร-ปภาวิน หงษ์ขจร พระเอกช่อง 8 เจ้าของแบรนด์น้ำส้ม “ศรีส้ม” ที่ปัจจุบันมียอดผลิตในแต่ละวัน จำนวนหลายพันขวด “ช่วงที่ผ่านมามันเป็นยุครักสุขภาพ แล้วมังกรเป็นคนรักสุขภาพ เพราะเป็นเด็กที่มีโรคประจำตัวเยอะก็ค่อนข้างเลือกกิน เราอยากกินน้ำผลไม้ที่ได้วิตามิน ได้ประโยชน์จริงๆ เลยรู้สึกว่าอยากลองทำดูเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำกับเพื่อนอีกคน ทำในขนาดเล็กๆ ลองผิดลองถูกก่อน พอรสชาติเริ่มคงที่ ถึงขั้นตอนผลิตจริงๆ ก็ปรึกษาคุณพ่อ เพราะคุณพ่อผมจบเกี่ยวกับวิศวะเคมี เราเลยได้สูตรนี้ขึ้นมา” นักแสดงวัย 29 ปี บอกถึงที่
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิต แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง เศรษฐกิจที่สามารถอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีความพอเพียงกับตัวเอง อยู่ได้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น ซึ่งต้องสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของตนเองให้ดีเสียก่อน มีความพอกินพอใช้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับตนเอง และสร้างฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย วันนี้ จะพาท่านผู้อ่านไปสัมผัสกับบรรยากาศอันสดชื่น เย็นสบายๆ ภายในบริเวณทุ่งนา (นาข้าว) ซึ่งแปรสภาพเป็นไร่นาสวนผสม ของ คุณคำปน จันทร์ชนะ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 10 ตำบลเซเป็ด อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันประกอบอาชีพรับราชการ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านนาเดื่อ ตำบลเซเป็ด อำเภอตระการพ
ไอเดียเด็กไทย ผุดธุรกิจ “แอกเซสซอรี่” สุดสะพรึง สยอง สะกดประสาท เจาะกลุ่มคนชอบความเสียว และแหวกแนว จนต้องกรีดร้อง ถึงขั้นสะพรึง ขนหัวลุก จนต้องกรีดร้อง สำหรับบรรดาแอสเซอรี่ร้าน Death Store มาในแนว Horror Art สยองขวัญ สะกดประสาท เจาะกลุ่มคนชอบความเสียว และแหวกแนว นับว่าเป็นการฉีกตลาด ไม่ซ้ำใคร รายแรกรายเดียวในไทยที่เห็นแล้วต้องทึ่งในไอเดีย คุณวิลาวัณย์ อ้นมั่น หรือฝ้าย สาววัย 25 ปี เธอบอกกับ #เส้นทางเศรษฐีว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังแนวสยองขวัญ ส่วนตัวชอบศิลปะแขนงนี้ เลยใช้ความรู้ที่ได้จากการเรียนคณะประติมากรรมมหาวิทยาลัยนเรศวร แรกๆ ก็ปั้นเคสมือถือไว้ใช้เองก่อน ต่อมาค่อยๆ พัฒนาผลงานจนน่ากลัวเหมือนจริง คนใกล้ตัวชอบ มีเสียงเรียกร้องให้ทำขาย เลยเป็นที่มาของธุรกิจเมื่อปลายปี 2558 “ฝ้ายทำเคสมือถือไว้ใช้เองก่อน เรียกแนว Horror Art เพื่อนบางคนเห็นชอบมาก เรียกร้องให้ทำขาย เลยลองขายเป็นเรื่องเป็นราวผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของตัวเอง กระทั่งเพื่อนบอกต่อปากต่อปาก บางคนแชร์ต่อมีทั้งชอบและไม่ชอบ จากจุดนี้ทำให้ Death Store เริ่มเป็นที่รู้จักของเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบศิลปะแขนงนี้” นอกจากในโลกโซ
บัวหิมะ( เสวี่ยเหลียนกว่อ) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Smallanthus sonchifolius หรือที่เรียกขานกันในภาษาอังกฤษว่า Yacon (ผลไม้แห่งพระเจ้า) เป็นพืชในตระกูล ทานตะวัน เป็นพืชพื้นเมืองที่มีอยู่ทั่วไปตามแถบเขา แอนเดส อเมริกาใต้ ที่ชาวอินเดียแดงใช้เป็นอาหารดั้งเดิมนานมาแล้ว ความสูงของต้นประมาณ 2 ~ 3 เมตร หัวของพืชชนิดนี้ ผู้คนในประเทศจีนเรียกกันว่า เสวี่ยเหลียนกว่อ ถ้าแปลตามตัวอักษรแล้วก็ หมายความว่า ผลของบัวหิมะ ชาวจีนเรียกเห็นเป็นผลไม้ไปโน่น ทั้งๆ ที่เป็นส่วนของรากที่เกิดอยู่ในดิน เข้าใจว่าที่เรียกเช่นนี้ เนื่องจากนิยมนำมากินสดๆ เหมือนผลไม้นั่นเอง เมื่อโตเต็มที่จะแทงดอกสีเหลืองประมาณ 4 – 5 ดอกก่อนที่จะลงหัวที่มีลักษณะภายนอกคล้ายหัวมันเทศมาก ผิดกันที่ว่ามีความหนาแน่นของแป้งน้อยกว่า มีปริมาณของน้ำมากกว่า มีรสหวานเฉพาะตัวที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่นๆ บัวหิมะ(เสวี่ยเหลียนกว่อ) พืชหัวชนิดนี้เริ่มปลูกกันมากขึ้น ในมณฑลยูอิ๋นหนานของประเทศจีน เนื่องจากความต้องการของตลาดได้ขยายออกไปกว้างขวางทั่วประเทศ และจากการรณรงค์ด้านการตลาดในโครงการ ซานหนง ที่ทางการให้การสนับสนุนและส่งเสริมจนกลายเป็นอุตสาหกรรมเกษตรไปเสียแล