สาหร่ายพวงองุ่น
เตรียมยกระดับ สาหร่ายพวงองุ่น เป็น ‘ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร’ ป้องกันโรคเบาหวานและไขมันในเลือด นักวิจัย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ศึกษาพบ ‘สารสกัด’ จากสาหร่ายพวงองุ่น มีศักยภาพในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เตรียมพัฒนาเป็น ‘ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร’ สำหรับผู้ที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรม หรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่นโรคอ้วนลงพุง เพื่อป้องกันโรคเบาหวานและภาวะไขมันในเลือดสูง ที่สำคัญ ยังเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยรองรับการแปรรูปสาหร่ายพวงองุ่นสดที่ตกเกรดและล้นตลาด สาหร่ายทะเลสีเขียวเม็ดกลม เรียงกันเป็นช่อคล้ายพวงองุ่น หรือที่รู้จักในชื่อ ‘สาหร่ายพวงองุ่น’ นั้น จัดเป็นหนึ่งในอาหารที่กำลังมาแรงอย่างมาก เนื่องจากมีรสชาติอร่อย นำมาใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู และยังขึ้นชื่อว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยแร่ธาตุ กากใย วิตามิน กรดไขมันและกรดอะมิโนที่จำเป็นหลายชนิด ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นมากขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคใต้ แต่ทว่าเกษตรกรจะสามารถจำหน่ายได้ราคาดีเฉพาะสาหร่ายที่ได้รับการคัดคุณภาพ ตัดแต่งเป็นช่อสวยงามเท่านั้น นายสิทธิกรณ์ อยู่แจ่ม
สาย ภาษาท้องถิ่นภาคใต้ฝั่งอันดามัน หมายถึง สาหร่าย มีคุณประโยชน์นานัปการ ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลเก็บบริโภคมาช้านาน โดยสามารถนำมาบริโภคสดจิ้มกับน้ำพริกกะปิ หรือน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือจะนำมายำกับหมึกหรือกุ้งก็เข้ากันได้ดี ทุกคนที่ได้รับประทานต่างติดใจในรสชาติและเนื้อสัมผัสเมื่อเคี้ยวโดนเม็ดสาหร่ายจะกรุบกรอบทำให้รับประทานได้ไม่เบื่อ ในต่างประเทศ สาหร่ายทะเล ก็เป็นอาหารที่นิยมบริโภคมาเป็นเวลานาน ประเทศที่นิยมบริโภคสาหร่ายทะเล ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ เป็นต้น นอกจากนี้ สาหร่ายทะเลยังมีประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ปุ๋ย ยารักษาโรค อาหารสัตว์ เป็นต้น ในปัจจุบัน มีการนิยมบริโภคสาหร่ายทะเลมากขึ้น เนื่องจากสาหร่ายทะเลมีคุณประโยชน์มากมาย จัดเป็นอาหารสุขภาพ ประเทศที่มีการเลี้ยงและส่งออกสาหร่ายมีหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน เวียดนาม แคนาดา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ในประเทศไทยนั้นมีการบริโภคสาหร่ายทะเลในจังหวัดทางภาคใต้และภาคตะวันออก โดยรับประทานแทนผัก ในปัจจุบันกรมประมงสามารถเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลได้หลายชนิด เจ้าหน้าที่เข้าไปเยี่ยมเยือน โดยหนึ่งใ