สำเพ็ง
“เจ๊นิดปลาหมึกย่าง” เจ้าอร่อยเยาวราช ทีเด็ดคือน้ำจิ้ม ขายดีเลี้ยงลูกหลานได้สบาย อีกหนึ่งอาหารสตรีตฟู้ดรสเลิศ แนวปิ้งย่าง ที่ไม่ใช่หมูกระทะแต่อย่างใด แต่เป็น “ปลาหมึกย่าง” เนื้อแน่น ย่างบนเตา พอให้สีเหลืองสุกได้ที่ กินคู่น้ำจิ้มรสแซ่บ อร่อยไม่แพ้เมนูไหนๆ แถมยังเป็นอาชีพสร้างรายได้ชั้นดี เลี้ยงครอบครัวได้สบายๆ ยืนยันโดย เจ๊นิด-ผานิต เลี้ยงวงศ์ วัย 66 ปี เจ้าของร้านปลาหมึกย่างรสแซ่บชื่อดังย่านเยาวราช สำเพ็ง ขายมานาน 40 กว่าปี ยึดมั่นในสโลแกนที่ว่า “เจ๊นิดปลาหมึกย่าง อร่อยที่สุดในสามโลก ของไม่ดีเราไม่ขาย” ช่วงเย็นของวันทำงาน มีโอกาสแวะไปที่ร้านเจ๊นิดสาขาสำเพ็ง ตั้งเด่นชัดเพราะอยู่หน้าปากซอย เห็นเจ๊นิดในวัย 66 ปี กำลังยืนปิ้งปลาหมึกขายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี ก่อนอาศัยจังหวะเหมาะ ยืมตัวเจ๊นิดมาพูดคุย เจ๊นิด เริ่มบทสนทนาถึงที่มาที่ไปของอาชีพนี้ให้ฟังว่า เริ่มขายปลาหมึกย่างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ไม่เคยคิดเปลี่ยน เพราะอาชีพนี้ทำให้ครอบครัวมีกินมีใช้ อยู่แบบสบายๆ ไม่เดือดร้อนใคร “ตอนแรกไม่ได้ขาย เห็นคนอื่นขายดีเลยลองบ้าง ถึงตอนนี้ 40 กว่าปีแล้ว ทุกวันนี้เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานได้ส
มองอีกมุม! สำเพ็งเหงา ไม่ใช่เพราะออนไลน์ทั้งหมด แต่เพราะคนกลุ่มใหญ่ไม่มีกำลังซื้อ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2562 “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ได้นำเสนอข่าว เจ้าของธุรกิจสาวท่านหนึ่ง ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้บรรยากาศการค้าขาย ในย่านตลาดขายส่งเก่าแก่ อย่าง “สำเพ็ง” เงียบเหงาที่สุดในรอบ 50 ปี (อ่านข่าว แม่ค้ายุคใหม่ ไขข้อสงสัย ทำไม “ตลาดสำเพ็ง” ถึงเงียบเหงาสุด ในรอบ 50 ปี) ล่าสุด ใต้โพสต์ข่าวนั้นเอง มีคนออกมาแย้งความเห็นของเธอ โดยคุณ Siravit Kitijamorn เจ้าของคอมเมนต์ ได้แสดงความคิดเห็นอีกแง่มุมหนึ่งว่า การที่คุณดรีมแสดงความคิดเห็นมาแบบนั้น ไม่ได้ถูกทั้งหมด อาจเป็นเพราะธุรกิจของเธอกำลังเติบโต ทำให้อาจคิดไปว่า เศรษฐกิจไม่ได้แย่ จะเอาธุรกิจของตัวเองมาเป็นตัววัดภาพรวมนั้น ทำไม่ได้ มันเป็นเรื่องลึกซึ้งกว่านั้น โดยในความคิดเห็น คุณ Siravit Kitijamorn กล่าวว่า ตนเองนั้นขายออนไลน์มาเกือบสิบปี รู้จักคู่แข่งเกือบทุกคน การที่ยอดขายหายไป ไม่ได้หายไปอยู่ที่คู่แข่ง หรือใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งเขาถามมาหมดทุกคนแล้ว ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดตกมากกว่า 50% กัน
แม่ค้ายุคใหม่ ไขข้อสงสัย ทำไม “ตลาดสำเพ็ง” ถึงเงียบเหงาสุด ในรอบ 50 ปี หลังจากมีข่าวออกมาว่า บรรยากาศการค้าขาย ในย่านตลาดขายส่งเก่าแก่ อย่าง “สำเพ็ง” เงียบเหงาที่สุดในรอบ 50 ปี ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ และสัมภาษณ์ความรู้สึกของแม่ค้าพ่อค้าในบริเวณดังกล่าวไป เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา (อ่านข่าวได้ที่ สำเพ็งเหงามาก! ยอดตกจากหลายพัน เหลือวันหลักร้อย วอน “นายกฯใหม่” ดูแลปากท้องหน่อยจ้า ) “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ไปเจอโพสต์ของคุณดรีม Naruchon Nachon เจ้าของธุรกิจรองเท้าสตรี wanderluist ที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 5 ปี ได้แสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจ ผ่านการบอกเล่าที่เข้าใจง่ายๆ เกี่ยวกับการค้าขายในย่านสำเพ็ง โดยเธอเปิดประเด็นจากการตั้งคำถามว่า เพราะอะไร “ตลาดสำเพ็ง” กำลังจะตาย !!! ได้ยินไม่ผิด ตลาด “ขายส่ง” ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เงียบถึงขนาดกางโต๊ะตีปิงปองได้ ยิ่งตอกย้ำคำของ Bill Gates ไปอีก คุณดรีม กล่าวต่อว่า ตลาดสำเพ็ง เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกับคุณแม่ ในตอนที่เธอลงมาทานอาหารเช้า โดยคุณแม่ของเธอ เริ่มบทสนทนาว่า “ดรีม มีข่าวจะบอก ตลาดใหญ่
สำเพ็งเหงามาก! ยอดตกจากหลายพัน เหลือวันหลักร้อย วอน “นายกฯใหม่” ดูแลปากท้องหน่อยจ้า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 2562 ผู้สื่อข่าว “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ลงพื้นที่ สำรวจบรรยากาศร้านค้า ย่านตลาดสำเพ็ง หลังมีข่าวบรรยากาศการค้าขายเงียบเหงาที่สุดในรอบ 50 ปี เมื่อไปถึง เห็นคนเดินจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดกันบางตา ป้าแป๋ว–มะลิ สุภานันท์ เจ้าของร้านขายพัดและตุ๊กตา วัย 70 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนทำอาชีพขายตุ๊กตาที่สำเพ็งมาหลายสิบปีแล้ว เมื่อก่อนมีรายได้จากการขายตุ๊กตา วันละประมาณ 6,000-7,000 บาท แต่ในช่วง 4-5 ปีมานี้ ร้านค่อนข้างเงียบเหงา ทำให้รายได้ต่อวันลดลงไปอย่างน่าใจหาย ตนจึงนำสินค้าอื่น อย่าง พัดต่างๆ ทั้งพัดพลาสติก พัดไม้ พัดแบบจีน มาขายในร้านเพิ่มบางวันขายได้ 300-400 บาท แต่ก็ยังพออยู่ได้เพราะไม่ได้จ้างลูกจ้าง จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการจ้างคนงาน “เศรษฐกิจมันแย่มา 4-5 ปีแล้ว ยิ่งหลังปีใหม่มานี่เงียบหนักเลย พวกร้านข้างนอกร้านเล็กๆ น่ะขายกันไม่ค่อยได้หรอก บางคนต้องไปกู้เงินเขามาลงของเอามาขาย บางคนก็ขายได้ขายไม่ได้ก็ปิดร้านไปก็หลายเจ้าเหมือนกัน สินค้ามันมีขายเยอะแยะก็จริงแต่คนเขาไม่มีเงินจะ
ตร.แถลง จับร้านขาย เครื่องสำอางปลอม กว่า 7 พันชิ้น กลางตลาดสำเพ็ง เครื่องสำอางปลอม / เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ในฐานะ รองผู้อำนวยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) แถลงผลการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา ที่ลักลอบขายในย่าน ตลาดสำเพ็ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การปราบปรามครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เม.ย. เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในตลาดสำเพ็ง จำนวน 2 ร้าน จับผู้กระทำผิดได้ 2 คน คือน.ส.พัชรินทร์ แก้วยอดคง ผู้ดูแลจัดการร้านเจ้ฉัน และน.ส.พรสุดา นครังสุ ผู้ดูแลร้านโชคดี ในข้อหาจำหน่ายหรือเสนอจำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม พร้อมตรวจยึดสินค้าเครื่องสำอางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กว่า 7 พันรายการ เป็นสินค้าแบรนด์ดังต่างประเทศ อาทิ ยี่ห้อ เครื่องสำอางค์ max , เครื่องสําอาง nars, น้ำาหอม jo malone มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้พื้นที่อื่นๆ ทั้งภูเก็ต เกาะสมุย เชียงใหม่ นครราชสี
บิ๊กโจ๊ก แถลงจับต่างชาติ แย่งงานคนไทย พร้อมบุกสำเพ็ง ยึดสินค้าปลอม 1.3 หมื่นชิ้น เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 ก.พ. ที่ สน.จักรวรรดิ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. แถลงจับกุมนายเฉินเจียน เซิง อายุ 41 ปี (Mr.Jiansheng chen) ชาวจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เลขที่ 6/2562 ลงวันที่ 11 ก.พ. 2562 ข้อหาร่วมกันจำหน่าย เสนอจำหน่ายซึ่งอันเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าวตามที่กำหนด เป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้คนไทยกระทำการในลักษณะนอมินี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการจับกุมครั้งก่อนและขยายผลผู้ต้องหา 2 ราย พบว่าเจ้าของร้านคือนายเฉินเจียน ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว โดยจ้างนายดำ 20,000 บาท ให้ดูแลร้าน และจ้างนายเขียว เป็นรายวัน โดยนายเฉินเจียน จะเดินทางเข้าออกประเทศไทย-จีน บ่อยครั้ง เพื่อไปดูอุปกรณ์โทรศัพท์ใหม่ๆ และสั่งมาทางเรือแล้วนำมาขาย จึงเฝ้าสังเกตการณ์ก่อนเข้าจับกุมได้ย่านบางนา มาดำเนินคดีได้ในที่สุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่