หัวหิน

ขนมเปี๊ยะปิ้งไส้ปลา ร้านหมูกระทะทำขายสู้วิกฤต รายได้เดือนละแสน  เพราะวิกฤตโควิด ทำให้ร้านหมูกระทะแห่งแรกในหัวหิน คุณพะแพง-แพรทิพยา บุญครอง เจ้าของร้านวัย 35 ปี ต้องปรับตัว หารายได้เสริมอีกทาง  “ร้านนี้เปิดมา 10 กว่าปีแล้ว แพงเข้ามาเทกโอเวอร์ต่อจากเจ้าของเก่าได้ 6-7 ปี ให้บริการลูกค้าราวๆ 100 โต๊ะ ก่อนเกิดโควิดลูกค้าแน่นร้านใครจะมาทานต้องต่อคิว พอโควิดมาได้รับผลกระทบเต็มๆ ตั้งแต่รอบแรก จำได้ว่าวันสุดท้ายที่โดนสั่งให้ปิดร้าน ของที่สต๊อกไว้มีทั้งทิ้งและแจกจ่ายให้ ลูกน้องและพนักงานเกือบ 30 คน ไม่ให้นั่งในร้านก็ขายดีลิเวอรี่ แต่ยอดขายก็หายไปเกือบ 80% เพื่อความอยู่รอด เราจึงต้องหาธุรกิจทำเพิ่ม” อ่านเพิ่มเติม ร้านหมูกระทะหัวหิน ดีใจกลับมาเปิดในรอบเดือน แต่กลัวซ้ำรอย สั่งปิดอีก  ในการปรับตัว คุณพะแพง หันมาขายขนมเปี๊ยะ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563 เพราะมองว่า หากขายสินค้าที่ส่งได้แค่ในหัวหินคงไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย จึงต้องหาสินค้าที่สามารถขายออนไลน์และส่งทางไกลได้ด้วย  “ขนมเปี๊ยะ เป็นขนมที่เราชอบ ทานง่าย และคุณยายเคยทำขายตั้งแต่แพงยังไม่เกิด พอคิดทำขายเลยไปถามสูตรจากคุณ

ร้านหมูกระทะหัวหิน ดีใจกลับมาเปิดในรอบเดือน แต่กลัวซ้ำรอย สั่งปิดอีก  ก่อนหน้านี้เคยนำเสนอเรื่องราวของร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนเจ้าของร้านต้องปรับตัวขายขนมเปี๊ยะปิ้งไส้ปลาสูตรเด็ด และการระบาดรอบล่าสุด ต้องปิดร้านมานานร่วมเดือน จนที่สุดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 รัฐบาลสั่งคลายล็อก ให้สามารถเปิดร้านอาหารได้ โดยร้านไม่มีแอร์ ลูกค้าสามารถนั่งทานได้ 75%  อ่านเพิ่มเติม ขนมเปี๊ยะปิ้งไส้ปลา ร้านหมูกระทะทำขายสู้วิกฤต รายได้เดือนละแสน คุณพะแพง-แพรทิพยา บุญครอง เจ้าของร้านเจ๊ใหญ่ หมูย่างเกาหลี หัวหิน วัย 35 ปี เผยว่า ดีใจได้กลับมาเปิดร้านอีกครั้งหลังปิดมานาน 1 เดือน โดยปรับเวลาเปิดปิดเป็น 16.00-20.00 น. “กลับมาเปิดวันแรกลูกค้าไม่เยอะ ไม่น้อยค่ะ ขายได้เรื่อยๆ แต่แอบกลัวเหมือนกันว่า กลับมาเปิดได้ 2 วัน จะสั่งปิดอีก ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงต้องปิด แต่รอบนี้เราไม่ได้สต๊อกของไว้เยอะ เพราะกลัวซ้ำรอย ส่วนโปรโมชั่นเรียกลูกค้าคิดไว้แล้วว่าจะทำ แต่ขอรอดูสถานการณ์ก่อน“ ในส่วนของมาตรการ เจ้าของร้าน เผยว่า มีการตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ที่จัดไว้ให้

หอยนางรม หอยแมลงภู่ นับล้าน โผล่เต็ม ชายหาดหัวหิน ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว แห่เก็บ วันที่ 14 เม.ย.ที่ชายหาดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ มีหินน้อยใหญ่ นับร้อยก้อน ซึ่งมีหอยแมลงภู่และหอยนางรมเกาะอยู่จำนวนมาก ผุดขึ้นมาตามแนวชายหาด หลังจากน้ำทะเลลดระดับลงในช่วงเที่ยง จนกระทั้งถึงช่วงเย็น ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงเทศกาลสงกราต์ พากันตื่นเต้น ถ่ายรูปและเก็บหอยกลับไปประกอบอาหารเป็นจำนวนมาก จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในใกล้เคียงชายหาด ทราบว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ที่ชายหาดหัวหิน มีโขดหินขนาดใหญ่และขนาดเล็กนับร้อยก้อนโผล่ขึ้นมา ซึ่งปกติจมอยู่ใต้น้ำทะเล เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางมา และที่น่าตื่นเต้นคือก้อนหินทุกก้อนมีหอยแมลงภู่และหอยนางรมเกาะอยู่เต็มโขดหิน นับล้านตัว ทั้งนี้ ชาวบ้าน อ.หัวหิน และพื้นที่ใกล้เคียงที่ทราบข่าว ต่างนำเครื่องมือ ลักษณะเป็นเหล็กกลมปากแบนคล้ายสิ่วแคะลงไปรอบๆเปลือกหอยนางรม เพื่อแซะเอาเฉพาะเนื้อหอยนางรมสดออกมาและใสกระป๋องแช่น้ำเอาไว้ ไปขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบรับปร

อุทาหรณ์ นั่งเก้าอี้ชายหาด ล่อให้นั่งฟรีแต่ต้องสั่งอาหาร ไปๆ มาๆ เช็กบิลอ่วม! เป็นประเด็นที่เกิดดราม่าขึ้นมาหลายครั้งแล้ว สำหรับกรณีการเดินทางไปท่องเที่ยวชาดทะเล กับปัญหาแม่ค้า พ่อค้าเก้าอี้ชายหาด ที่มีความพยายามควบคุมให้ค้าขายอย่างไม่เอาเปรียบผู้บริโภค แต่ล่าสุด มีสมาชิกเฟซบุ๊ก นันทมนลักษณ์ วรธราธรณ์ ได้โพสต์ร้องเรียนถึง เหตุการณ์ที่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ เพราะแม่ค้าบอกว่า นั่งฟรี แต่ต้องสั่งอาหาร จากนั้นก็บังคับให้สั่งอาหาร 4 อย่าง และสุดท้าย อาหารมา 8 อย่าง เพราะอ้างว่า มา 8 คน ต้องสั่ง 2 ชุดให้ครบจำนวน โดนเช็กบิลมาถึง 2,300 บาท จึงนำเรื่องดังกล่าวมาแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวลักษณะดังกล่าว “เรื่องเล่า เอามาเตือนเพื่อนๆ เหตุเกิดที่ชายหาดหัวหิน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 กุ้งพาครอบครัวมาเที่ยวหัวหิน เมื่อวานหลาน น้องๆ อยากเล่นน้ำทะเลก็พาไปชายหาด ด้วยความที่อากาศร้อนมาก และแม่แก่แล้ว อยากให้แม่มีที่นั่ง เพราะแม่ขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยืนนานไม่ได้ เราก็ดูๆ มองๆ หา ปรากฏว่า มี พนง.ของร้านริมชายหาด ก็คงน่าจะเล็งๆ เราอยู่ เดินมาแล้วบอกนั่งฟรี สั่งอาหารได้ #ก่อนอื่นต้องบอก

โวย ร้านนวดยึดหาดหัวหิน ตั้งโต๊ะรุกล้ำขวางชายหาด จี้จัดการเด็ดขาด! เป็นเรื่องราวร้องเรียนจากสมาชิกเฟซบุ๊ก Jerry Nathalang ซึ่งพบเจอกับเหตุการณ์ รุกล้ำที่สาธารณะแบบที่ หลายๆ คน เมื่อเห็นภาพแล้วถึงกับงง ว่า ทำไปได้อย่างไร เพราะพบว่า เป็นการวางโต๊ะนวดรุกเข้าไปในชายหาด จนถึงบริเวณที่คลื่นทะเลซัด จนคนทั่วไปหากจะเดิน ก็ต้องลงไปเดินในน้ำทะเลแทน โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ผู้ประกอบการบนหาดหัวหินมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวอย่างมาก เอาเปรียบคนเดินหาด และยังเป็นการรุกล้ำหาดหัวหินที่เป็นพื้นที่สาธารณะกันแล้วครับ มีการสร้างตัวเรือนล้ำและขวางหาดกันแล้ว และนี่ไม่ใช่รายเดียวนะครับ ฝากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วยจัดการให้หมดหาดโดยเร็วด้วยนะครับ รูปนี้ถ่ายเมื่อเช้าวันที่ 4 ก.พ. 2562 เวลาประมาณ 8 โมงเช้า โดยผู้ประกอบการจะเริ่มขนข้าวของ โต๊ะ เก้าอี้ ออกมาตั้งวางตั้งแต่เช้า”

ร้านซีฟู้ดแจงแล้ว ปมกุ้งเผาตัวละ 1,000 บาท สุดเซ็งเพิ่งจบเรื่องกรรเชียงปูจานละ 650 บาท จากกรณี วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนชื่อดัง ศิลปินแห่งชาติ สาขา วรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 และเป็นนักเขียนที่ได้รับ รางวัลซีไรต์ ถึง 2 ครั้ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่าโดนโกงที่หัวหิน หลังไปรับประทานอาหารซีฟู้ดที่ตลากโต้รุ่ง โดยสั่งอาหารมาหลายอย่างรวมทั้งกุ้งเผา 4 ตัว ก่อนจะสั่งกุ้งก็ถามราคาก่อน แต่ทางร้านไม่ยอมบอก แต่พอเรียกเก็บบิลกลับพบว่ากุ้งมีราคาสูงถึงตัวละ 1,000 บาท ทำให้เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาถึง 2 เดือนแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย. นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลและสำรวจร้านอาหารซีฟู้ดบริเวณตลาดโต้รุ่งหัวหิน ซึ่งมีมากกว่า 10 ร้าน โดยมีนายประสพชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, น.ส.ไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน, นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมด้วยกำลังฝ่ายทหาร, ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหารซีฟู้ดทุกร้าน โดยได้เข้าตรวจที่ร้านแรกคือ ร้านรถไฟซีฟู้ด ม

ที่บริเวณชายหาดหัวหิน ตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนชาว อ.หัวหิน ใช้อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ เช่น อวน แห ฉมวก ลงจับสัตว์ทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา จำนวนมากที่ลอยแพขึ้นหายใจเต็มทะเลหัวหินอย่างคึกคัก ตั้งแต่บริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาถึงริมกำแพงวังไกลกังวล ในเขตเทศบาลเมืองหัวหินระยะทางราว 2 กม. โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติยืนถ่ายภาพแชร์ในสังคมโซเชียล หลังจากชาวบ้านแต่ละรายสามารถจับปลาขนาดใหญ่ ทั้งปลาสร้อย ปลากระเบน ปลาฉลาม ปูม้า และกุ้งทะเล เพื่อนำกลับไปประกอบอาหารที่บ้าน ขณะที่มีแม่ค้าส่วนหนึ่งมารับซื้อปลาที่บริเวณชายหาด บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากมีฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ทำให้มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากไหลลงสู่ทะเล จนปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “น้ำเปลี่ยนสี” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “น้ำเบียด-น้ำกัน” ส่งผลให้น้ำทะเลมีค่าออกซิเจนที่น้อยลง สัตว์ทะเลจึงลอยขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจ และหลังจากนี้หากไม่มีฝนตกต่อเนื่องสถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับสัตว์ทะเลที่นำไปบริโภคชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีผลกระทบใดๆ เนื่องจากมีปรากฏการณ์นี้เกิด

ไปหัวหิน ทำไมต้องกินข้าวเหนียวมูนกับมะม่วง…? เพราะอำเภอหัวหินเป็นเมืองชายทะเล ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเยือนในช่วงฤดูร้อน ตรงกับช่วงเวลามะม่วงกำลังให้ผลผลิต ข้าวเหนียวมูน คือเมนูอร่อยนิยมรับประทานควบคู่กับมะม่วงสุก จึงมีผู้ผลิตจำหน่ายหลายรายเลือกยึดอาชีพนี้ แต่ที่เห็นเก่าแก่ เรียกว่าเริ่มต้นทำกันมาตั้งแต่รุ่นคุณย่า จนบัดนี้เข้าสู่รุ่นหลาน รวมระยะเวลากว่า 60 ปี นั่นคือ “ร้านมีชัย” หรือที่รู้จักในชื่อ “ข้าวเหนียวมูนเสวยแม่นงนุช” ยังคงตั้งตระหง่าน ต้อนรับผู้บริโภค   ฤดูร้อน มูนข้าวเหนียวขาย รายได้วันละ 20 กะละมัง คุณอัจนิริยา ศิลปสุนทร ทายาทรุ่นหลาน เปิดเรื่องเล่าเท้าความให้ฟังว่า กิจการค้าขายข้าวเหนียวมูนเริ่มต้นจากคุณย่า ซึ่งขณะนั้นแบ่งพื้นที่บริเวณชั้นล่างของโรงแรม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่คุณย่าดำเนินการมา เปิดขายข้าวเหนียวมูนกับมะม่วง เฉพาะช่วงฤดูร้อน คุณอัจนิริยา ศิลปสุนทร “ตั้งแต่จำความได้ เห็นคุณย่าทำข้าวเหนียวมูนขายมาตลอด รวมระยะเวลาจนถึงบัดนี้กว่า 60 ปีแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเปิดธุรกิจโรงแรมด้วย บริเวณพื้นที่ว่างชั้นล่างจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก และพอถึงฤดูร้อน คุณย่าทำข้าวเห

หัวหินนั้นไม่เคยคลายเสน่ห์ ไม่ว่าทะเลที่ไหนจะเด่นดังขึ้นชั้นในระยะหลายปีที่ผ่านมา แต่หัวหินยังคงสงบอยู่อย่างนั้น ไม่แข่งขันใคร แต่ก็ไม่ตกชั้น เป็นทะเลเงียบสงบ อากาศดีที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ใครก็สัมผัสหัวหินได้ เขมรัตน์ ช่อชูวงศ์ หรือ นุ่น เพิ่งเปิดร้านไอศกรีมอิตาเลียนขึ้นตรงข้ามถนนคนเดินหัวหิน เธอไม่ใช่คนที่นี่ แต่รักที่นี่ เพราะเสน่ห์เงียบสงบนั้น เธอวางความฝันของเธอกับร้านไอศกรีมที่เธอรักไว้ที่นี่ เขมรัตน์เรียนจบการโรงแรมที่มหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการโรงแรมที่ประเทศอังกฤษค่ะ กลับมาทำงานโรงแรมหลายแห่ง ท้ายสุดได้ไปทำงานรีสอร์ตที่จังหวัดพังงา รับผิดชอบส่วนดูแลอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอรักและสนใจเป็นพิเศษ สนุกกับการทำงาน และการชื่นชมอาหารเครื่องดื่มตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ และตามความรักส่วนตัว ไม่นานเธอพบรักกับหนุ่มอิตาลี เขาพาเธอไปเยือนบ้านเกิด เที่ยวชิมไอศกรีมรสชาติอิตาเลียน ซึ่งทำให้เธอหลงรักถอนตัวไม่ขึ้นนับแต่นั้น “ไอศกรีมอิตาเลียนมีเนื้อและรสชาติที่เข้มข้นหวานมัน มีรสให้เลือกมากมาย มีกระทั่งแบบที่แตกต่างกันไปของรสไอศกรีมแบบต่างๆ ทั้งนุ่นและแฟนชอบทาน ที่สุ