อนาคตใหม่
สถาบันกรีนโนเวชั่น จัดงานประชุมวิชาการด้านกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 3 พรรคใหญ่ ภูมิใจไทย-อนาคตใหม่-ประชาธิปัตย์ ตบเท้าเข้าร่วม โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2562 จากการเปิดเผยโดย พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ว่าคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นจากกระทรวงอื่นๆ นับเป็นการส่งสัญญาณจากภาครัฐที่น่าจับตามอง ต่อ ‘กัญชา’ พืชที่เป็นทั้งความหวังและความกังวลจากหลายฝ่าย หลังประเทศไทยได้ก้าวสู่การเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีการปลดล็อกกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา ท่ามกลางกระแสที่มาแรงกว่าใครในเวลานี้ มีอีกหนึ่งความพยายามในการมองหาจุดร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงสุดจากความผลักดันกัญชาให้กลายเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจของไทยในอนาคต นั่นก็คือ Greenovation Cannabis Conference งานประชุมวิชา
‘ปิยบุตร’ลั่น! สัตยาบัน อนาคตใหม่ คือสิ่งตอกย้ำ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน วันที่ 31 มี.ค. นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนาคตใหม่ กล่าวถึง การลงนามคำประกาศสัตยาบัน ว่าที่ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้พรรคอนาคตใหม่จัดงานสัมมนาว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ เราได้รับเกียรติจากคุณอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” และยังมีการอบรมวิธีเตรียมตัวและข้อควรปฏิบัติของ ส.ส. ภายใต้หัวข้อ “ต้องการทำอะไรเมื่อได้เป็น ส.ส. หลังจากนั้นว่าที่ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด รวมทั้งผมและคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ลงนามคำประกาศสัตยาบัน 5 ข้อร่วมกัน สำหรับเตรียมตัวเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป การจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ เพราะมีประชาชน มีระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่ทุกคนต้องตระหนักว่าถ้าอำนาจสูงสุดไม่เป็นของประชาชนก็จะไม่มี ส.ส. ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นตำแหน่งเดียวที่ใช้อำนาจรัฐโดยมีที่มาจากการเลือกของประชาชน
ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ผู้พิการหนึ่งเดียวเข้าสู่สภา : ข่าวทะลุคน ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ : พรรคอนาคตใหม่ ภายใต้การนำของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกคาดหมายจะได้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ มากถึง 50 คน ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ หรือ เม่น ไทยแลนด์ ในฐานะผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 23 จะได้ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้พิการเพียงคนเดียวที่จะได้เข้าสภาในการเลือกตั้งครั้งนี้ วัย 43 ปี ชาว ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย เคยรวมทีมลงสมัครการเมืองท้องถิ่น ในเทศบาล ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน เสนอตัวเป็นรองนายกเทศมนตรี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ มีผลงานระดับนาชาชาติหลายรายการ อาทิ คว้าเหรียญทองแดง ในเอเชียนพาราเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้ คว้าเหรียญเงิน เอเชียนพาราเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย เมื่อต.ค. 2561 ได้รับโล่เกียรติบัตรคนพิการต้นแบบระดับประเทศ จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อปี 2561 สมัครเข้าพรรคอนาคตใหม่ ก่อนได้รับเลือกเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ประกาศจะต่อสู้เพื่อพัฒนาสังคมผู้พิการอย่างเต็มที่ และสร้างกติกาที่เป็นธรรม เร่งพัฒนาจ.ตรัง ที่ล้าหลังจังหว
อนาคตใหม่ ลั่นมีคะแนนทุกเขตในมือแล้ว ท้า กกต. เปิดให้หมดจะตรงกันมั้ย อนาคตใหม่ – เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวถึงการลงสัตยาบันร่วมกับ 6 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และการไปยื่นเรื่องร้องเรียนให้ กกต. เปิดผลคะแนนการเลือกตั้งที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 3 น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบการทำงานของ กกต. เป็นภารกิจหลักของพรรคอนาคตใหม่ ความเป็นห่วงของประชาชนชาวไทย 50 ล้านคนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ยังจดจ่อกับการทวงผลการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ และทวงถามความโปร่งใสและเป็นธรรมในการปฏิบัติงานของ กกต. โดยเมื่อวันที่ 26 มี.ค. พรรคอนาคตใหม่ ไปยื่นหนังสือขอให้กกต.เปิดข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเป็นรายหน่วย ทั้งการเปิดเผยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง บัตรที่พิมพ์ บัตรที่ใช้ บัตรที่เหลืออยู่ รวมถึงผลการเลือกตั้ง บัตรดี และบัตรเสีย เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลได้ นี่คือนโยบาย Open Data ที่ให้อำนาจประชาชนตรวจสอบข้อมูลภ
ชูวิทย์ ทำนาย พปชร.+ปชป.+ภท. รัฐบาลเสียงหมิ่นเหม่ งานนี้ “งูเห่า” โผล่แน่! วันที่ 25 มี.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการจับขั้วตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง โดย งูเห่ามาแน่ ผมไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะวิเคราะห์การเมืองไทยช่วงนี้เลย เพราะสิ่งที่ผมพูดเริ่มจะชัดเข้าไปทุกที ก่อนหน้าเลือกตั้ง ผมวิเคราะห์ว่า 1.ประชาธิปัตย์คะแนนจะลด (ดันลดอย่างเหลือเชื่อ) 2.อนาคตใหม่มาแน่ (มาอย่างล้นหลาม) 3.เพื่อไทยจะไม่ได้มากเท่าเก่า (สะดุดแผน ทษช. และ ส.ส. ที่พึงมี ปาร์ตี้ลิสต์เลยไม่ได้สักที่นั่ง) 4.นายกฯ “ตาอยู่” (คงต้องดู เร็วๆนี้ อย่ากระพริบตา เตรียมปลูกกัญชากันหรือยัง?) 5.พลังประชารัฐ + ประชาธิปัตย์ สูสีกับ เพื่อไทย + อนาคตใหม่ + เครือข่าย (คมเฉือนคม ใครเร็วกว่า ตกลงได้ก่อน ได้เป็นรัฐบาล) 6.พรรคกลางๆจะมีราคา (ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน มีสง่าราศี หากแพ็คกันได้เป็นมัด ต่อรองได้กระทรวงสำคัญ) 7.จะมีนักการเมืองพูดว่า “จำเป็นต้องร่วมรัฐบาล เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้” (ต้องมีคนพูดประโยคนี้แน่นอน เร็วๆนี้) ตอนนี้ถึงส่วนสำคัญ
เพื่อไทย เปิดทางพรรคร่วม เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ แต่ต้องคุยกันก่อน เมื่อวันที่ 25 มี.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรค เพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย และพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงหลังพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งส.ส.มากสุดในการเลือกตั้ง 24 มี.ค. โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ต้องกราบขอบคุณทุกคะแนนเสียง เราจะมุ่งมั่นทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ถึงแม้เราจะส่งผู้สมัครส.ส.แค่ 250 เขต แต่ขอบคุณที่ประชาชนไว้วางใจ การเดินหน้าหลังจากนี้เราจะรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล โดยเราเป็นพรรคได้ที่นั่งส.ส.มากสุดจากการตัดสินใจของประชาชน เราจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคที่ร่วมจะเป็นพรรคไม่สืบทอดอำนาจ ยังคงยึดหลักการเดิมและพรรคอุดมการณ์เดียวกัน ส่วนเรื่อง 250 ส.ว. ควรทำตามเสียงประชาชน เพราะเป็นหลักการที่เรายึดไว้ แม้ผลการเลือกตั้งจะยังไม่เป็นทางการ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ไม่ต้องกังวลไม่มีปัญหาทั้งสิ้น ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ต้องคุยกัน พรรคเพื่อไทยจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง เราจะพูดคุยกับพรรคร่วม โดยเอาประโยชน์ของชาต
กทม.นับคะแนน 100% พปชร.พลิก ยึดเก้าอี้ อนาคตใหม่ ผลงานดี เทียบชั้นเพื่อไทย เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของหน่วยเลือกตั้งทั้ง 30 เขตของ กทม. หลังจากเมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค. สามารถสรุปผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ 29 เขต แต่พบว่าเหลือเพียงเขตเลือกตั้งที่ 9 เขตหลักสี่ เขตจตุจักร (ยกเว้นแขวงจตุจักรและแขวงจอมพล) ที่ส่งคะแนนล่าช้า ล่าสุด สำนักงานเขตหลักสี่แจ้งผลนับคะแนนแล้ว ปรากฏว่าในที่สุด พรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ ได้คะแนน 33,321 คะแนน กลับมาพลิกชนะ พรรคเพื่อไทย นายสุรชาติ เทียนทอง ที่ได้ 30,564 คะแนน อย่างไรก็ตาม นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผอ.เขตหลักสี่ ได้ชี้แจงว่า กรณีที่ล่าช้าและเกิดกระแสข่าวบัตรมากกว่าคนมาใช้สิทธินั้น ไม่เป็นความจริง เพียงแต่ระบบการคำนวณคะแนนมีปัญหา และหน่วยจตุจักร ส่งคะแนนช้าไป ดังนั้น ผลสรุปทำให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คว้าเก้าอี้ ส.ส.กทม. 11 ที่นั่ง รองลงมาพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) รวม 10 ที่นั่ง และพรรคเพื่อไทย (พท.) รวม 9 ที่นั่ง ดังนี้ เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เ
อนาคตใหม่ เฮสนั่น กวาด ส.ส.เกินคาด ทั้งที่เริ่มจากศูนย์ เผยรับเรื่องโกงเลือกตั้งอื้อ เมื่อเวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัคร ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ ร่วมติดตามการนับคะแนนผ่านรายการโทรทัศน์ ต่างส่งเสียงไชโยปรบมือเมื่อเห็นคะแนนของพรรคอนาคตใหม่นำในหลายเขตโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ฝั่งธนบุรี ที่นำห่างหลายพื้นที่ จากนั้น เวลา 21.45 น. น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แจ้งยกเลิกกำหนดการแถลงข่าวเดิมในเวลา 22.00 น. เนื่องจากการนับคะแนนยังไม่แล้วเสร็จ และคาดว่าจะใช้เวลานานเกินไปกว่าจะมีการแถลงข่าว จึงขอเลื่อนไปแถลงในวันที่ 25 มี.ค. ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท น.ส.พรรณิการ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการทุจริตเลือกตั้งว่า ประชาชนร่วมกันตรวจสอบแล้วส่งข้อมูลมาทางโซเชียลจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องบัตรเลือกตั้งเกิน มีหลายพื้นที่มีปัญหา ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ที่ติดตามมีผู้สังเกตุการณ์ และผู้สมัคร ส.ส.ส่งเข้ามาร่วมกันตรวจสอบ ซึ่งอาจมีการร้องเรียนในขั้นต่อไป โดยเท่าที่เห็นมีความผิดปกติทุกพื้นที่อย่างมาก พรรคอนาคตใหม่พอใจผลการเลือกตั้งเบื้องต้นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้เ
สนาม กทม. เดือด อนาคตใหม่ คะแนนรวมพลิกแซง พลังประชารัฐ เบียดเก้าอี้ เพื่อไทย เมื่อเวลา 23.45 น. ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) นางวิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) แถลงผลการนับคะแนนการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 30 เขต โดยขณะนี้ผลการนับคะแนนผ่านไปแล้ว 3,213,021 บัตร คิดเป็นร้อยละ 76.62 มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 4,489,390 คน มาใช้สิทธิ 4,486,590 คนเป็นบัตรดี 3,062,655 บัตร บัตรเสีย 89,754 บัตร บัตรไม่เลือกผู้สมัครใด 60,612 บัตร โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรากฎว่าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้คะแนน 790,785 คะแนน รองลงมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้คะแนน 783,618 คะแนน และพรรคเพื่อไทย (พท.) 598,935 คะแนน อย่างไรก็ตาม ท่ี่นั่งตามรายเขต ดังนั้น พลังประชารัฐ ได้ 12 ที่นั่ง พรรคอนาคตใหม่ 10 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 8 ที่นั่ง ดังนี้ เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตพระนคร พรรคพลังประชารัฐ น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ 22,446 เขตเลือกตั้งที่ 2 เขตสาทร พรรคพลังประชารัฐ น.ส.พัชรินทร์ ชำศิริพงษ์ 26,909 เขตเลือก
อนาคตใหม่ ชี้บัตรเลือกตั้งตปท. ถึงไทยช้าไม่ใช่ “บัตรเสีย” ท้ากกต.เปิดกฎหมายอ่าน อนาคตใหม่ – จากกรณี นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. เผยถึงเรื่องบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรชุดสุดท้าย ที่ส่งมาถึงประเทศไทย ปรากฏว่า เหตุที่ล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากเกิดการคลาดเคลื่อนระหว่างรอยต่อของสายการบิน ระหว่างประเทศ ทำให้บัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ กว่า 1,500 ใบ อาจถูกส่งมาถึงเมืองไทยไม่ทันเวลา 17.00 น. ซึ่งอาจจะวินิจฉัยเป็น “บัตรเสีย” นั้น อย่างไรก็ตามล่าสุด เวลา 18.00 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เผยช่วงหนึ่งในการแถลงข่าวที่พรรคว่า กรณีที่ กกต. บอกว่า บัตรจากต่างประเทศที่ถูกมาส่งไม่ทันก่อน 17.00 น. จะถือเป็นบัตรเสียนั้น อยากให้ไปลองเปิด กฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 114 ดู ซึ่งบัตรจากต่างประเทศหากมาถึงล่าช้า จะถือเป็นบัตรเสียต่อเมื่อ บัตรเหล่านั้นมีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่ยุติธรรม ต่อให้บัตรเดินทางมาช้า ก็จะไม่ได้บัตรเสีย อยากให้สบายใจได้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ต่างประเทศ ที่มา ข่าวสดออนไลน์