เกลือ
ห่วงคนไทยไตวาย! รมว.คลัง เตรียมรีด ภาษีเค็ม จากผงปรุงรส เกลือ น้ำปลา เว็บไซต์ ข่าวสดออนไลน์ รายงานข่าว นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวในงานสัมมนา เพื่อการขับเคลื่อนมาตรการลดการบริโภคเกลือโซเดียมในประชากรไทย ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตความเค็มตามปริมาณโซเดียม โดยมาตรการภาษีสรรพสามิตเป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนให้ประชาชน และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมลดการบริโภคและลดการผลิตสินค้าที่มีปริมาณโซเดียมสูง ร่วมกับการใช้มาตรการอื่นที่ไม่ใช่ภาษี และมีเป้าหมายให้การบริโภคโซเดียมของคนไทยในแต่ละวันให้น้อยกว่า 20% ต่อคนต่อวัน หรือเหลือ 2,800 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน จากอัตราการบริโภคของคนไทยในปัจจุบันที่ 3,600 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน และมีเป้าหมายให้ลดต่ำกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีจากความเค็มนั้น ต้องไปดูว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างไร โดยอาจจะต้องใช้เวลา เพราะต้องมีการหารืออย่างรอบคอบกับผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อาหาร “ปัจจุบันคนไทยเป็นเบาหวาน ความดัน ไตวายเรื้อรัง เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมาจากการบริโภคหวาน มัน เค็ม ที่ผ่านมาคลังได้มีการจัด
แม่ค้าบอกเป็นเสียงเดียว! เพิ่มภาษีเกลือ เท่ากับเพิ่มต้นทุน คัดค้านเก็บภาษีเกลือ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ – จากกรณีที่ภาคเอกชน ได้ยื่นหนังสือไปยังคณะกรรมการนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียม เพื่อคัดค้านการจัดเก็บภาษีสินค้าที่มีความเค็มในปริมาณมาก 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จ, ขนมกรุบกรอบ และผงชูรส เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ไม่ได้ช่วยเรื่องการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค และยังเป็นการเพิ่มต้นทุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเฉพาะผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านค้า แผงลอยและทุกระดับ จนสุดท้ายผู้ประกอบการอาจผลักภาระมายังผู้บริโภค อ่านข่าว เอกชนคัดค้าน เก็บภาษีเกลือ ชี้แก้ปัญหาไม่ถูกจุด-ไม่ได้ช่วยเรื่องสุขภาพประชาชนจริงๆ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จึงสอบถามความคิดเห็นของพ่อค้าแม่ค้า เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ที่ตลาดประชานิเวศน์ คุณส้ม เจ้าของร้านลาบ กล่าวว่า เข้าใจว่ารัฐฯ เป็นห่วงสุขภาพคนไทย จึงมีนโยบายนี้ขึ้นมา แต่ก็ไม่อยากให้เก็บภาษีส่วนนี้เพิ่ม เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี แม้จะขายของได้ แต่รายจ่ายก็สูงพอๆ กัน โดยทางร้านใช้ผงชูรสวันละครึ่งกิโลกรัม ถ้าเก็บเพิ่มก็ต้องเพิ่มต้นทุนมากขึ้นไ
เอกชนคัดค้าน เก็บภาษีเกลือ ชี้แก้ปัญหาไม่ถูกจุด-ไม่ได้ช่วยเรื่องสุขภาพประชาชนจริงๆ วันที่ 23 เม.ย. นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการจัดเก็บภาษีเกลือ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จ, ขนมกรุบกรอบ และผงชูรส ไปยังคณะกรรมการนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อระดับชาติ เนื่องจากทางกลุ่มเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ไม่ได้ช่วยเรื่องการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค และยังเป็นการเพิ่มต้นทุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทำลายขีดความสามารถการแข่งขัน คิดเป็นมูลค่าผลิตภัณฑ์รวมกว่า 63,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดขนมขบเคี้ยว 36,000 ล้านบาท อาหารกึ่งสำเร็จรูป 16,000 ล้านบาท และผงชูรส 11,000 ล้านบาท “หากมีการปรับขึ้นภาษีเกลือจะส่งผลต่อภาระต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านค้า แผงลอยและทุกระดับ จนสุดท้ายผู้ประกอบการอาจผลักภาระมายังผู้บริโภค ซึ่งหากคณะกรรมการนโยบายการลดบริโภคเกลือฯ ยังคงเดินหน้าเสนอเรื่องนี้ให้กระทรวงการคลังพิจารณาหลั
เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 ผมได้ไปดูเขาทำน้ำปลาที่ข้างวัดโบสถ์ เขตหมู่ที่ 3 ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ตอนนั้น ด้วยความรู้สึกสนุก บ้านเราเลยตัดสินใจลองทำน้ำปลาเองบ้าง เราซื้อปลาขาวสร้อยสดๆ จากเขามา 3 กิโลกรัม ล้างให้สะอาด เคล้าเกลือ 1 กิโลกรัม หมักกับเนื้อสับปะรดสับ ในโหลแก้วใบเขื่อง จำได้ว่าตอนที่เขียนเรื่องน้ำปลาบ้านบัวชุมนั้น ผมยังแอบโม้เรื่องนี้ แถมท้าทายไว้อีกว่า อีกปีกว่าๆ จะเอามาอวดกัน โหลแก้วใบนั้นถูกตั้งไว้มุมห้องครัว ในจุดที่แสงแดดส่องถึงในช่วงบ่ายของวัน นานราวหนึ่งปีห้าเดือน ระหว่างนั้น น้ำจากตัวปลาก็ออกมาหล่อเลี้ยงให้เห็นเป็นน้ำใสสีน้ำตาลอ่อนๆ เมื่อเห็นว่าเหมาะควรแก่กาลแล้ว เราก็บรรจงตักน้ำนั้นใส่หม้อ ยกตั้งไฟต้ม ฟังเหมือนง่ายนะครับ แล้วที่เคยไปดูเขาทำ ก็ไม่เห็นยากสักหน่อย แต่นั่นเขาหมักในโอ่งใหญ่ แถมบางแห่งมีกระชุผิวไม้ไผ่สานวางกรองไว้กลางโอ่งอีกชั้น ส่วนโหลของเรานั้นเล็ก เมื่อจ้วงตักลงไป น้ำปลา “ดิบ” ของเราก็เลยค่อนข้างขุ่น แม้ต้มไม่นาน คือราว 15 นาที กรองผ้าขาวบางทบสองชั้นสามชั้นแล้วก็ยังไม่ใส แลไปเหมือนน้ำบูดูที่เขาขายตามตลาดปักษ์ใต้มากกว่า นอกจากนี้
DIFF. ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ ผลิตจากเกลือ ข้าวออร์แกนิก และสมุนไพรไทย จากปัญหาคนใกล้ตัวได้จุดประกายให้คุณทีม – อธิภัทร ปิยกิตติไพบูลย์ คุณเบิรด์–ณัฐนภันต์ พราหมณโชติ ชายหนุ่มในวัย 30 ปีที่ชอบค้าขาย ได้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจสินค้าประเภทสเปรย์และผงระงับกลิ่นกายออร์แกนิก “DIFF.” (ดิฟฟ์) ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติผสมผสานสมุนไพรไทย สบายใจใช้แล้วไม่เกิดคราบที่เสื้อ ตอกย้ำไม่ต้องมีกลิ่นตัวก็สามารถใช้ได้ เพราะช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวใต้วงแขน เพิ่มความมั่นใจสร้างบุคลิกภาพทุกเพศทุกวัย ลูกค้าประจำเพียบมีทั้งคนไทยและต่างชาติ และยังได้รับรางวัล 7innovation awards 2018 รางวัลนวัตกรรม แปรรูปเกลือเป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ก่อนจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณทีม จบการศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์ ทำงานในแวดวงที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ ส่วนคุณเบิร์ด จบการศึกษาด้านรัฐประศาสนศาสตร์ กระทั่งเพื่อนนักกีฬาและรุ่นน้องที่สนิทมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ทั้งสองคนเลยอยากช่วยแก้ปัญหา โดยศึกษาเรื่องสมุนไพรและวัตถุดิบจากธรรมชาติอะไรบ้างที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียระงับกลิ่นกาย ประกอบกับได้นักวิจัยจากมหาวิ
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายอำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ให้การต้อนรับ นายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์และคณะ ที่ได้เดินทางมาทำการเชื่อมโยงตลาดและเจรจาการค้าจับคู่ทางธุรกิจ ในรูปแบบกิจกรรม “หนุ่มนาข้าว สาวนาเกลือ” ภายใต้โครงการพัฒนาตลาด ศูนย์กระจายสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูปปลอดภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีผู้แทนจากภาคส่วนราชการและภาคเอกชน ของทั้งสองจังหวัดร่วมเป็นสักขีพยาน อีกทั้งยังผู้ที่ให้ความสนใจได้มารับซื้อข้าวกับเกลือเพื่อนำไปจำหน่ายและบริโภค นายอำพล กล่าวว่า จากการที่พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเดือดร้อนหนักจากราคาข้าวที่ตกต่ำ จังหวัดสมุทรสาครจึงมีความประสงค์ที่จะสนับสนุนและให้ความร่วมมือรับซื้อข้าวจากชาวนาและกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์จากจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ โดยในครั้งนี้ได้มีการรับซื้อข้าวจากสหกรณ์การเกษตรเพชรบูรณ์จำกัด จำนวน 28 ตัน มูลค่า 644,440 บาท ประกอบกับการที่จังหวัดเพชรบูรณ์ที่ช่วยรับซื้อเกลือทะเลของจังหวัดสมุทรสาครเป็นจำนวน 29 ตันมูลค่า 43,50