เกษตรกรเงินล้าน
หลังเจอปัญหาวิกฤตทางการเมือง ปี 2554 ธุรกิจสมุนไพรและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ที่เคยสร้างรายได้สะพัดวันละแสน กลับขายไม่ออก ขาดทุนสะสมจนกลายเป็นหนี้ก้อนโต แต่ “ศุภธิดา ศรีชารัตน์” ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค เธอปรับตัวสู้ชีวิตใหม่อีกครั้ง โดยน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต จนสามารถปลดหนี้เงินล้านได้สำเร็จภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี คุณศุภธิดา เกิดและเติบโตในครอบครัวเกษตรกร ในหมู่บ้านหนองกอง หมู่ที่ 3 อำเภอโดด อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ เธอเห็นพ่อแม่ทำนามาตลอดชีวิตแต่ไม่รวยสักที หลังเรียนจบมัธยมจึงตัดสินใจไปทำธุรกิจค้าขายที่กรุงเทพฯ โดยเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ที่ห้างเซ็นทรัล สาขาบางนา และที่อิมพีเรียล สำโรง ระยะแรกธุรกิจเติบโตดีมาก สร้างรายได้สูงถึงวัน 100,000- 200,000 บาท แต่การใช้ชีวิตในสังคมเมืองหลวงมีภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่ากินอยู่ ค่าเช่าที่ ค่าจ้างคนงาน ฯลฯ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วแทบไม่เหลือผลกำไร ต่อมาเกิดวิกฤตทางการเมือง สินค้าขายไม่ดี เกิดหนี้สินก้อนโต กว่าล้านบาท ช่วงปลายป
เป็ดไล่ทุ่งวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เป็ดไล่ทุ่งธรรมดาที่วิ่งแห่ไปตามฝูงเป็ดเมื่อถูกเจ้าของต้อน เพราะเป็ดไล่ทุ่งที่อำเภอนางรอง จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นเป็ดไล่ทุ่งที่สามารถทำเงินให้กับเจ้าของเดือนละเกือบ 2 ล้านบาท คุณศิริพร ชาญณรงค์ อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 10 บ้านหว่า ต.ลำไทรยงค์ อ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โทรศัพท์ 080-7221409 เล่าให้ฟังว่า ได้ต้อนฝูงเป็ดไข่ไล่ทุ่งมายังตำบลบึงงาม ตำบลเทอดไทย พื้นที่อำเภอเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวนเป็ดต่อฝูงอยู่ที่ 5,000-10,000 ตัว ต้อนฝูงเป็ดไปเรื่อยๆ พร้อมกับนำครอบครัวเคลื่อนย้ายที่พักตามไปด้วย ซึ่งการเคลื่อนย้ายเป็ดเริ่มขึ้นหลังจากที่ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้วเสร็จ คุณศิริพร เล่าด้วยว่า ฝูงเป็ดของตนมีทั้งหมด 5,000 ตัว เริ่มต้นจากซื้อลูกเป็ดพันธุ์ไข่ตัวเมีย ตัวละ 18 บาท ให้วัคซีน 4 ครั้ง ครั้งละ 4,000-5,000 บาท ขุนเป็ดด้วยหัวอาหารและข้าวเปลือก จากนั้นนำเป็ดไปปล่อยตามทุ่งนา ที่มีการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว โดยจ้างรถบรรทุกขนส่ง ราคาตามระยะทางใกล้ไกล ประมาณ 15,000-18,000 บาท “เป็ดจะเก็บข้าวเปลือกที่ตกหล่นตามทุ่งนากิน ใช้เวลาเจริญเติบโตประมาณ 45-60 วัน มีไข่