เกษตรกรไทย
ลงขันคนละหมื่น! สร้างแบรนด์ “ช็อกโกแลตพร้อมดื่ม” จากโกโก้ไทย ปรับแพ็กเกจจิ้ง ดันยอดขายโตหลักแสน ช็อกโกแลตพร้อมดื่ม ในกระป๋องอะลูมิเนียมดีไซน์เก๋ที่เราเห็นนี้ เป็นของแบรนด์ “Chocoholic” ที่เริ่มต้นมาจากความหลงใหลในโกโก้ของเกษตรกรไทย ประกอบกับความมหัศจรรย์ของรสชาติที่ไม่เหมือนกันในแต่ละพื้นถิ่น ทำให้ คุณอ๋อมแอ๋ม-ฉัตร์ฐิตา อิสระกิจปภัสร์, คุณเบนซ์-กัญจน์สุธา อิสระกิจปภัสร์, คุณอาย-พิชญา พยอมแย้ม และคุณบอส-ณัฐนนท์ อัตตะไพบูลย์ รวมตัวกันสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา เริ่มต้นแบรนด์ Chocoholic คุณอ๋อมแอ๋ม หนึ่งในเจ้าของแบรนด์ ให้สัมภาษณ์กับเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ว่า หลังจากได้ชิมคราฟต์ช็อกโกแลตในงานงานหนึ่ง ทำให้รู้ว่าแต่ละพื้นถิ่นมีรสชาติไม่เหมือนกัน จากกระบวนการหมักและจุลินทรีย์ ทำให้รสชาติบางจังหวัดเป็นมะพร้าว บางจังหวัดเป็นมะขาม บางจังหวัดเป็นลูกเกด และบางจังหวัดเป็นกล้วย ซึ่งเป็นความเท่ที่ไม่ค่อยมีใครหยิบยกมานำเสนอ ขณะเดียวกัน ก็เป็นวันแรกที่ได้รู้ ในวัย 30 ปี ว่าประเทศไทยสามารถปลูกโกโก้ได้ ทำให้เธอมองเห็นโอกาสนำโกโก้มาต่อยอดสร้างธุรกิจ “เรารู้สึกว่ามันเล่าได้มากกว่านี้ ทำให้ดังได้มากกว่านี้” คุ
“โก โฮลเซลล์” สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ ฤดูกาลผลไม้เริ่มแล้วที่ GO Wholesale (โก โฮลเซลล์) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร จุดหมายใหม่เพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งมั่นดำเนินนโยบายสนับสนุนเกษตรกรไทยในทุกมิติ ด้วยการคัดสรรผลไม้คุณภาพยอดนิยมประจำฤดูกาลจากภาคตะวันออก อาทิ มังคุด เงาะ สละ ทุเรียน มาจำหน่าย เพื่อเพิ่มช่องทางระบายผลผลิตจากชาวสวนให้มากขึ้น ผ่านการกระจายสินค้าสาขาของโก โฮลเซลล์ ทั้งนี้ มีเกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกผลไม้ทั่วประเทศ ให้ความสนใจนำผลผลิตมาจำหน่ายที่ โก โฮลเซลล์ แหล่งรวมวัตถุดิบอาหารที่เป็นช่องทางจำหน่ายใหม่ในตลาดค้าส่งให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร และกลุ่มโฮเรก้า เป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งการเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออกอย่างเป็นทางการ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป โก โฮลเซลล์ เปิดดำเนินการสาขาแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2566 ปัจจุบันมีสาขา 6 แห่ง ประกอบด้วย ศรีนครินทร์, เชียงใหม่, อมตะ ชลบุรี, พัทยาใต้, พระราม 2, รังสิต และล่าสุดกำลังจะเปิดสาขาลำดับที
ชูเนื้อไทยพรีเมียม “เนื้อสยาม” ร้านไม่ลับฝั่งธนฯ ของเชฟวัย 32 ที่ตั้งใจอยากสนับสนุนเกษตรกรไทย ก่อนจะมาเป็นร้าน เนื้อสยาม เนื้อไทยพรีเมียมสุดฉ่ำ สไตล์โฮมเมดที่ Beef Lover ชื่นชอบ และชวนกันลัดเลาะไปตามซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 บางแวก 112 เพื่อมาลิ้มลอง รู้ไหมว่าร้านนี้เกิดขึ้นมาด้วยพรหมลิขิต เชฟติ๋ว-รัตติกาล จับใจนาย เจ้าของร้านหน้าใส พ่วงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อ เรียนจบ Meat Science หรือว่า วิทยาศาสตร์เนื้อสัตว์มาโดยตรง เล่าว่า แรกเริ่มทำงานประจำแล้วจับพลัดจับผลูมาเปิดร้าน House of beeF ที่ขายแค่เมนู บาร์บีคิว แบบออนไลน์ ไม่มีหน้าร้านในช่วงโควิด-19 ซีซัน 2 แน่นอนว่ายากมาก! แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ จนขยับขยายกลายมาเป็นร้านเนื้อคู่ ที่มีหน้าร้านและอาหารให้เลือกมากมาย และสุดท้ายไม่ท้ายสุดก็เปลี่ยนมาเป็น ร้านเนื้อสยาม ในปัจจุบัน “คำว่า เนื้อสยาม เราตั้งใจสื่อสารกับลูกค้าทุกคนอย่างตรงไปตรงมาว่า สยาม หมายถึง ประเทศไทย เพราะฉะนั้น วัตถุดิบหลักของเนื้อสยาม ส่วนใหญ่จึงเป็นเนื้อไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ยกเว้นวัตถุดิบรองอื่นๆ เช่น เป็นผักบางชนิดหรือว่าลิ้นวัวที่นำเข้าจากอาร์เจนต
แม็คโคร เคียงข้างเกษตรกรไทย รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรท้องถิ่นต่อเนื่อง หนุนสร้างงานสร้างอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจโต ควบคู่การเดินหน้าเปิดสาขา ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 2566 แม็คโคร ผู้นำธุรกิจค้าส่ง ภายใต้บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสนับสนุนผลผลิตจากเกษตรกรและเอสเอ็มอีท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยการพัฒนาศักยภาพ อบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ และช่วยให้เข้าถึงช่องทางจำหน่าย ล่าสุดรับซื้อสินค้าเกษตรที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครราชสีมาและอุดรธานี อาทิ เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม ผักสลัด กล้วยหอมทอง ฝรั่งกิมจู เงาะน้ำโสม มะละกอฮอลแลนด์ มะม่วงหนองวัวซอ ดอกไม้สด และสินค้าอื่นอีกมากมาย มาจำหน่ายในแผนกอาหารสดของแม็คโคร ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรรายย่อยและเอสเอ็มอี สอดคล้องตามเจตนารมณ์การเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส อีกทั้งสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าที่มีความสด สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เพื่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค ล่าสุดแม็คโครเปิดสาขานครราชสีมา (เซฟวัน) และอุดรธานี บนทำเลศักยภาพที่เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ปักหมุดการเป็น Destination ค้าส่งในภาคอีสาน โดยชูจุดเด่นแหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภ
ค้นพบแล้ว! วิธีลด-ชะลอ การตกกระของกล้วยไข่ เพิ่มมูลค่าผลไม้ไทย ส่งออกฉลุย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยทีมนักวิจัยสรีรวิทยาและอณูชีววิทยาของพืช ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ คิดค้นวิธีการลดและชะลอการตกกระของผลกล้วยไข่ด้วยเมทิลซาลิไซเลต ผ่านการควบคุมการตายของเซลล์อย่างเป็นระบบ (Programmed Cell Death) ซึ่งผลงานวิจัยนี้ได้ให้องค์ความรู้ใหม่ที่สร้างประโยชน์ต่อผู้บริโภคและผู้จำหน่าย จากการเล็งเห็นความสำคัญและแก้ปัญหาคุณภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าแก่ภาคการเกษตรของประเทศ โดยเฉพาะการคงสภาพของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ชะลอไม่ให้เสียหายระหว่างการขนส่ง ไปจนถึงวางจำหน่าย เดิมประเทศไทยเพาะปลูกกล้วยไข่เพื่อการบริโภคในประเทศเพียงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ กล้วยไข่จึงเป็นหนึ่งในผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง ในปี 2564 มีมูลค่าการส่งออกมากถึง 210.5 ล้านบาท ทีมนักวิจัยฯ ประกอบด้วย ผศ.ดร.กอบเกียรติ แสงนิล, ผศ.ดร.อุษรา ปัญญา และนายสิรวิชญ์ โชติกะคาม นักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิชาชีววิทยา ค้นพบครั้งแรกว่าการตกกระของผลกล้วยไข่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการตายของเซลล์อย่างเป็นระบบ (Programmed Cell Death) ที่ถ
ซัคเซสมอร์ ส่งผลิตภัณฑ์ทรานส์ฟอร์ม ช่วยเกษตรกร ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM แนะนำผลิตภัณฑ์ทรานส์ฟอร์ม (Transform) ภายใต้แบรนด์ Growing more ยืนหยัดเคียงข้างเกษตรกร เดินหน้ากลยุทธ์พร้อมสู้วิกฤตร่วมกับเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน พร้อมผุดรายการใหม่ชื่อ “เกษตรทรานส์ฟอร์ม LIVE” รายการไลฟ์สดที่เกาะติดทุกความเคลื่อนไหวเรื่องของเกษตรกร ถามตอบ Q&A กันสดๆ ทุกเรื่องเพื่อเคียงข้างเกษตรกรไทย วันที่ 1 เม.ย. 2565 นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ตลอดจนสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่คุกคามโลกอยู่ขณะนี้ ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของเกษตรกร ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนโลก บริษัทฯ จึงออกผลิตภัณฑ์ ทรานส์ฟอร์ม (Transform) ภายใต้แบรนด์ Growing More ผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจเกษตรกรที่ต้องเผชิญความไม่แน่นอนในการเพาะปลูก ผลิตภัณฑ์ทรานส์ฟอร์ม เป็นธาตุรองเสริมอาหารชนิดเข้มข้นที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช สมบูรณ์ไปด้วยธาตุอาหารเสริม และธาตุอาหารหลักที่มีคุณภาพสูง โดดเด่นด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทส
เกษตรกรไทย ได้จับเงินแสน พลิกวิกฤต ส่งผลไม้ขายเซเว่นฯ วันละหมื่นแพ็ก! ในช่วงโควิดระบาด ตลาดในประเทศ คือโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการ SMEs ไทย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ พามาดูเรื่องราวของ “ทริปเปิ้ล เฟรช” SMEs ที่เห็นช่องทางการเติบโตของตลาดผลไม้ในประเทศ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ทริปเปิ้ล เฟรช สามารถจำหน่ายผลไม้พร้อมรับประทานให้กับทางเซเว่น อีเลฟเว่น มากกว่า 10,000 แพ็กต่อวัน คุณสนธยา กลิ่นหวล ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มจัดหาและจัดซื้อผลไม้ บริษัท ทริปเปิ้ล เฟรช จำกัด เล่าให้ฟังว่า เดิมบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูปอาหาร และต้องการขยายธุรกิจสู่สินค้าประเภทอื่น จึงทำการศึกษาตลาดอย่างจริงจัง และพบว่า สินค้าประเภทผลไม้สดมีโอกาสในการเติบโตสูง และมีช่องว่างทางตลาดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตลาดค้าปลีกในประเทศ เนื่องจากผลไม้สดส่วนใหญ่ของไทยถูกส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศเป็นหลัก สำหรับผลไม้สดที่ไม่ได้ส่งออก จะถูกส่งขายไปยังศูนย์กลางตลาดค้าส่งผลไม้ทั่วประเทศ ซึ่งกว่าผลไม้เหล่านี้จะถึงมือผู้บริโภครายย่อยก็อาจทำให้สูญเสียคุณประโยชน์ในการบริโภค จึงมองว่าหากสามารถลดขั้นตอนและช่วงเวลาในการส่งมอบผลไม้สดให้
น้ำท่วม ปี 64 กระทบผลผลิตข้าวนาปี สูญ 6.3-8.4 พันล้านบาท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางของไทย จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวนาปี ซึ่งผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดในเดือน ก.ย.-ต.ค. 64 คิดเป็นราว 14.5% ของปริมาณผลผลิตข้าวนาปีทั้งปีการผลิต โดยมูลค่าความเสียหายน่าอยู่ที่ราว 6,300-8,400 ล้านบาท บนสมมติฐานที่เป็นพื้นที่นาข้าวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งสิ้นราว 5 ล้านไร่ และเสียหายจากต้นข้าวตายไปราวร้อยละ 30-40 ของพื้นที่นาข้าวทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำฝนที่อยู่ในเกณฑ์ดีซึ่งเอื้อต่อการเพาะปลูกข้าวในภาพรวมทั้งปี ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปรังไม่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในช่วงต้นปี ทำให้ภาพรวมผลผลิตข้าวทั้งปี 64 น่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีที่ราว 30 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 1.9 % (YoY) โดยราคาข้าวเฉลี่ยทั้งปี 64 อาจอยู่ที่ราว 8,700-9,200 บาทต่อตัน หรือลดลง 18.9-23.3% สำหรับในเดือน พ.ย. 64 ซึ่งเป็นช่วงผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดมากที่สุด หรือคิดเป็น 67.1% ของปริมาณผลผลิตข้าวนาปีทั้งปีการผลิต ราคาข้าวอาจปรับตัวลดลงจากปริมาณผลผลิตข้าว
สรุปมาตรการ จัดการหนี้นอกระบบแบบครบวงจร ของ ธ.ก.ส. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน ผ่าน 3 โครงการ วันที่ 26 เม.ย.64 คุณธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และบุคคลในครัวเรือนที่ประสบปัญหาดังกล่าว ธ.ก.ส. จึงได้ออกมาตรการจัดการหนี้นอกระบบ 3 โครงการ ดังนี้ 1. โครงการแก้ไขหนี้นอกระบบของเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน สำหรับชำระหนี้นอกระบบที่เกิดจากเกษตรกรลูกค้า คู่สมรส บุตร บิดามารดาของเกษตรกรลูกค้าหรือของคู่สมรสซึ่งอยู่ในอุปการะของเกษตรกรลูกค้า วงเงินกู้ไม่เกินรายละ 100,000 บาท เว้นแต่กรณีมีวัตถุประสงค์ในการสงวนที่ดินทำกินที่ลูกหนี้ใช้ที่ดินในการจำนองไม่เกินรายละ 150,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ระยะเวลาชำระหนี้ 10 ปี สูงสุดไม่เกิน 12 ปี พร้อมรับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองสินเชื่อกรณีเสียชีวิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท และการคืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่ชำระหนี้ 2. โครงการสินเชื่อชำระดีมีวงเงิน Smart Cash
หอการค้าไทย จับมือ ซีพี ออลล์ หนุนผู้ประกอบการ-เกษตรกร กว่า 28,000 ราย เมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 คุณกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย ได้มีการสร้างความร่วมมือกับสมาชิกและเครือข่ายบริษัทต่างๆ ในการขับเคลื่อนโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยกว่า 8 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือดังกล่าวกับกลุ่มซีพี ออลล์ ถือว่ามีผลสัมฤทธิ์ชัดเจนเป็นอย่างมาก ซึ่งแบ่งเป็น 4 ด้าน ดังนี้ 1. การพัฒนาศักยภาพ SMEs และส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ Modern Trade 2. การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและเข้าสู่ตลาด 3. การสร้างนักธุรกิจด้านเกษตรและยกระดับสินค้า ผ่านโครงการสร้างปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และโครงการอบรมมาตรฐานความปลอดภัยในสินค้าเกษตร ด้วยมาตรฐาน ThaiGAP 4. การส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ หอการค้าไทยได้ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเข้าไปส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน และมีการบริหารจัดการโคเนื้ออย่างครบวงจร อย่างไรก็ตาม สินค้าประเภทพืช ผัก ผลไม้ มักประสบกับปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ อีกทั้งสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ยังส่งผลกระทบต่อการจัดจำ