เคสโทรศัพท์
จากศิลปินสู่เจ้าของแบรนด์ “MUSE” เคสโทรศัพท์หนังวีแกนสุดฮิต เจาะกลยุทธ์ ปั้นออร์เดอร์โต 10 เท่า “เราอยากทำให้ผู้หญิงทุกคนรู้สึกมั่นใจในตัวเอง รู้สึกสวยขึ้น เวลาใช้สินค้าของเรา ที่ไม่ได้มีแค่ฟังก์ชันการใช้งาน แต่ยังมีความเป็นแฟชั่น ทุกอันต้องสวย มีสีสันที่สนุกและมีความพิเศษ” คุณเบสท์-ณิชชารีย์ กิจวิริยะธนโชติ บอกถึงความตั้งใจในการสร้างแบรนด์ MUSE on the move หรือเรียกสั้นๆ ว่า MUSE (มิวส์) ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ในฐานะแฟนเพลง เราได้รู้จักคุณเบสท์ ในฐานะศิลปินวงเกิร์ลกรุ๊ป Olives เจ้าของเพลง “ยังโสด” ที่เป็นไวรัลไปทั่วประเทศ ขณะนั้นเธอเป็นนิสิตในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการวิเคราะห์การเงินและการลงทุน (หลักสูตรนานาชาติ) ด้วยความตั้งใจเลือกเรียนเส้นทางนี้ เพราะอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ระหว่างเรียนเธอเริ่มขายของออนไลน์ในเพจเฟซบุ๊ก เป็นกำไลข้อมือแฮนด์เมดที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์มาจากสำเพ็ง จากนั้นได้เริ่มสร้างแบรนด์ MUSE (มิวส์) ร่วมกับพาร์ตเนอร์ ด้วยเป็นสายแฟชั่น จึงเลือกขายรองเท้าหนังวีแกน ที่ชูความสวย ดูแพง แต่ขายในราคาไม่แพง เป็นสินค้าตัวแรกของม
ผู้บริหาร เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีเปิดร้านใหม่ CASE CLUB ครบเครื่องเรื่องเคสโทรศัพท์หลากหลายรุ่นให้เลือกกว่า 400 ลาย พร้อมดีไซน์เคสได้ด้วยตัวเอง เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตอกย้ำศูนย์กลางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ สินค้าเทคโนโลยี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ครบวงจรและใหญ่ที่สุด นำโดย นางสาวสหัพย์ภัค โชควิจิตรกุล (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พร้อมด้วย นางสาวชวรมย์ มังคละคีรี (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายผู้เช่าสัมพันธ์กลางและสนับสนุนการขาย บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีแก่ นายมนตรี วิริยะคุณากร (ที่ 2 จากซ้าย) Business Development Manager เนื่องในโอกาสเปิดร้านใหม่ CASE CLUB แบรนด์น้องใหม่จาก Comseven ร้านเคสแบรนด์ไทยที่สามารถ Customize ดีไซน์ด้วยตัวคุณเอง และ เคสโทรศัพท์หลากหลายรุ่นมีลายสุดน่ารักให้เลือกมากกว่า 400 ลาย ทั้งลายซิกเนเจอร์ ลายคอลแลบกับศิลปินไทย ลายคาแร็กเตอร์จากต่างประเทศและแบรนด์ดังอีกเพียบ ณ ชั้น 4 โซน C ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เมื่อเร็วๆ นี้
เคยปูเสื่อขายหน้าห้าง ก่อนเป็น ร้านดินปั้น ขายออนไลน์เดือนละหลายหมื่น คนเราถ้าตั้งใจทำอะไรแล้ว ย่อมเห็นผลสำเร็จ เช่นเดียวกับ คุณกัญ-กัญชนก ต๊ะมามูล ที่ฝึกฝนวิชาการปั้นดินด้วยตัวเอง บวกกับพรสวรรค์ที่มี จนสามารถเปิดร้านดินปั้น ครีเอตเป็นเครื่องประดับ เคสโทรศัพท์ และ Griptok งานแฮนด์เมด ที่เธอปั้นเองทุกชิ้น ผ่านเมนูอาหารไทย ฝรั่ง และขนมหวานหน้าตาน่าทาน สร้างรายได้ดีเดือนละ 30,000-40,000 บาท เจ้าของร้านสาว เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า เธออยากทำธุรกิจของตัวเอง เมื่อเรียนจบคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จึงเริ่มฝึกฝนการปั้นดิน ไม่ได้ผ่านการลงคอร์สจริงจัง แต่ฝึกด้วยตัวเอง จากนั้นถึงเริ่มปั้นเครื่องประดับ “เคยทำงานแฮนด์เมดขายตั้งแต่สมัยเรียน ก็ชอบตั้งแต่นั้นมา อาศัยฝึกฝนเอาเองจนทำได้ ใช้ดินไทยและดินญี่ปุ่นสลับกันไป งานปั้นชิ้นแรกคือเครื่องประดับ มีทั้งกำไล สร้อย ต่างหู พวงกุญแจ ทำเป็นรูปอาหาร เพราะชอบกินและมีหลากหลายเมนูช่วยให้เราจินตนาการได้เรื่อยๆ” คุณกัญเริ่มขายเครื่องประดับจากออฟไลน์ คือปูเสื่อขายหน้าห้าง อยู่ 3-4 ครั้ง รวมทั้งออกบู๊ธ จากนั้นย้ายมาขายอ
สมัยนี้ใครๆ ก็มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือกันแทบทั้งนั้น และสิ่งที่ตีคู่กันมาก็คืออุปกรณ์ตกแต่งหรือ “เคส”ที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม น่าใช้ บ่งบอกถึงสไตล์ของเจ้าของได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเดินไปตลาดย่านไหนก็เจอร้านขายเคสโทรศัพท์วางขายให้เกลื่อนกลาด มีทุกรุ่นทุกแบบ รุ่นไหนที่ว่าฮิต รุ่นไหนที่ว่าฮอตนั้นมีให้เลือกซื้อแถบทั้งนั้น เมื่อเคสโทรศัพท์ได้รับความนิยม จึงเป็นโอกาสทองในการเริ่มต้นธุรกิจ สร้างรายได้เข้ากระเป๋ามากมาย คุณต้นหลิว-กชกร ฝักเจริญผล วัย 19 ปี นิสิตชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ ประสานมิตร เริ่มต้นขายเคสโทรศัพท์มือถือผ่านอินสตราแกรม โดยเธอเล่าว่า ขายเคสมาได้ 2 ปีแล้ว เพราะชื่นชอบการใส่เคสคิดว่าใส่แล้วจะทำให้โทรศัพท์ดูดีขึ้น ดูสวยขึ้นตามสไตล์เคสที่ใส่ อีกอย่างเป็นคนที่เปลี่ยนเคสบ่อยเวลาซื้อมามันก็มีดีบ้างไม่ดีบ้าง จนเกิดความคิดว่าอยากจะทำเคสขึ้นมาเองจะได้ถูกใจตัวเอง ด้วยการศึกษาวิธีทำจากอินเตอร์เน็ต แล้วฝึกมาเรื่อยๆ เรียนรู้เทคนิคต่างๆ วิธีการทำให้เคสที่ได้ออกมาใสและเนียน รวมถึงเทคนิคอื่นๆ ที่นำมาปรับใช้กับเคสของที่ร้าน “ตอนแรกแค่ซื้ออุปกรณ์มาทำใช้เอ
ถึงขั้นสะพรึง ขนหัวลุก สำหรับเคสมือถือร้าน Death Store อุปกรณ์ป้องกันโทรศัพท์มือถือไม่ให้เป็นรอยสุดสยองแนว Horror Art เจาะกลุ่มคนชอบความแปลกแหวกแนว ไม่ว่าจะเป็นรูปผี ดวงตาปีศาจ สมองสุดสยอง ฯลฯ เอาใจคนชอบงานหลอน น่ากลัวฝุดๆ เรียกว่าเป็นการฉีกกฎเคสมือถือธรรมดาๆ ให้กลายมาเป็นเคสปีศาจชนิดไม่ซ้ำใคร รายแรกรายเดียวในไทยที่เห็นแล้วต้องทึ่ง จากทำไว้ใช้เอง กลายเป็นธุรกิจ ไม่ทันตั้งตัว คุณวิลาวัณย์ อ้นมั่น หรือฝ้าย สาวน้อยวัย 24 ปี เธอบอกกับเส้นทางเศรษฐีว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังแนวสยองขวัญ ส่วนตัวชอบศิลปะแขนงนี้ด้วย เลยใช้ความรู้ที่ได้จากการเรียนคณะประติมากรรมมหาวิทยาลัยนเรศวร มาปั้นเคสมือถือไว้ใช้เอง และเนื่องจากผลงานที่ออกมาเป็น 3 มิติ ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนจริง คนใกล้ตัวร้องว๊ายหวาดกลัว แต่ขณะเดียวกันคนกลุ่มหนึ่งกลับชอบ เลยเป็นที่มาของธุรกิจเมื่อปลายปี 2558 “ฝ้ายทำเคสมือถือไว้ใช้เอง เรียกแนว Horror Art เพื่อนบางคนเห็นชอบมาก เรียกร้องให้ทำขาย เลยลองขายเป็นเรื่องเป็นราวผ่านเฟสบุ๊ก และอินสตาแกรมของตัวเอง พอมีเพื่อนของเพื่อนมา เห็นต่างก็บอกต่อ ปากต่อปาก บางคนแชร์ต่อมีทั้งรังเกียจและเจตนาดี จากจุด