เงินเดือน
แก่ตัวไปเอาเงินที่ไหนมาเที่ยวมากิน เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเราจึงเห็นคนแก่วัยเกษียณจากต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก อยู่กันเป็นเดือน อยู่กันเป็นปี บางคนตั้งรกรากที่ไทยไปเลยก็มี นักท่องเที่ยวเหล่านี้เอาเงินมาจากไหน ทำไมถึงมีเงินเก็บเงินออมเหลือกินเหลือใช้กันได้ขนาดนี้ ที่สำคัญ แก่ตัวไปเราจะทำอย่างเขาได้ไหม เพราะสังคมไทยเอง ก็กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ลองมาดูกันว่า เขาทำอย่างไร ให้มีเงินเก็บไว้ใช้สบายๆ ยันวันสุดท้ายของชีวิต คะเคโบะ มรดกตกทอดการออมแบบญี่ปุ่น เริ่มกันที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้ขึ้นชื่อในเรื่องความมีระเบียบวินัย คนญี่ปุ่นมีแนวคิดในการออมที่เรียกว่า คะเคโบะ เป็นมรดกตกทอดให้คนญี่ปุ่นปฏิบัติต่อๆ กันมามากกว่า 100 ปี หัวใจของการออมแบบคะเคโบะคือ การตั้งเป้าหมายว่าในบั้นปลายจะต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ จึงจะอยู่ได้แบบสบายๆ แล้วทำการอดออมอย่างมีวินัยตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน วิธีนี้ทำให้ผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่นสามารถนำเงินบำเหน็จบำนาญ หรือเงินสนับสนุนจากภาครัฐตอนแก่ตัว ไปต่อยอดทำอย่างอื่น หรือนำไปใช้ชีวิตได้แบบชิลๆ เพราะเงินที่เก็บมานั้นมีเพียงพออยู่แล้ว ออมตั้งแต่เ
“อุตตม” ยัน คิดมารอบคอบ เงินเดือน ป.ตรี 2 หมื่น อาชีวะหมื่นแปด เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ถูกสังคมวิจารณ์นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 20,000 บาท และอาชีวะศึกษาเดือนละ 18,000 บาท ของพรรค พปชร.ว่า พรรค พปชร.พิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ และยืนยันว่าการสร้างหลักประกันรายได้ของผู้ที่จบการศึกษาสามารถทำได้จริง เพราะพรรควางมาตรการเกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพด้านการศึกษาและความเชี่ยวชาญ พรรค พปชร.เน้นการปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อสร้างคุณภาพ นายอุตตม กล่าวว่า ส่วนที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้เรียนฟรี สนับสนุนปัจจัยด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา มองว่าหากจัดให้เรียนฟรีแล้วไม่มีคุณภาพ ไม่ตอบโจทย์ของการพัฒนาคน เพื่อให้คนพัฒนาชาติต่อไปในอนาคต ดังนั้นนโยบายแจก หรือให้ฟรี เบื้องต้นต้องพิจารณารายละเอียด และบางกรณีการศึกษาต้องลงทุนในค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และไม่แพงเกินไป ขณะที่แนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ตอบโจทย์เรื่องการปฏิรูปการศึกษาไปพอสมควร พรรคจะพิจารณาและสานต่อ
กรมบัญชีกลางโต้กลับ! “ขรก.” เรียกบำนาญเพิ่ม เผยได้มากกว่า “ผู้ใช้แรงงาน” เสียอีก จากกรณีสหพันธ์ข้าราชการบำนาญแห่งประเทศไทย โดยนายชัยวัฒน์ อุดอิ่นแก้ว เลขาธิการฯ เดินทางเข้ายื่นหนังสือ ต่อนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่สอง เพื่อ เสนอร่างพ.ร.บ.บำเหน็จบำบาญ โดย ขอให้สนช.สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณา เพื่อทำให้ข้าราชการบำนาญมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีเข้าราชบำนาญสังกัดทุกประเทศ จำนวน 654,634 คน ได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่เงินบำนาญเท่าเดิม ทำให้รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย โดยข้าราชการบำนาญถือเป็นคนจนรุ่นใหม่ ได้เงินบำนาญเดือนละ 20,000 บาท หักค่าใช้จ่ายอื่น เหลือ 18,000 บาทต่อเดือน ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพนั้น เมื่อวันที่ 21 กันยายน น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีการขอเรื่องแก้ไขบำนาญให้สูงขึ้น ซึ่งในการปรับบำนาญนั้นมีการประกันไว้ว่าต้องได้รับเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ 9,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นคนที่ได้รับบำนาญ 2 หมื่นบาทต่อเดือนถือว่าเกินว่าที่รัฐบาลประกันไว้แล้ว และเกินกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ซ
เว็บไซต์ Aol.com รายงานว่า คนทำงานยุคสหัสวรรษ หรือกลุ่มมิลเลนเนียลในกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักรอาจกำลังจะเป็นกลุ่มคนเจนเนอเรชั่นแรกที่มีรายได้ในลักษณะอัตราเงินเดือนน้อยกว่าคนเจนเนอเรชั่นก่อนๆ ผลศึกษาที่ตีพิมพ์โดย British think tank Resolution Foundation พิจารณาผ่านอัตราภาวะเงินเฟ้อ เปรียบเทียบรายได้(เงินเดือน)ของคนกลุ่มอายุ 27 ปี ในปัจจุบันเทียบเคียงกับกลุ่มคนอายุ 27 ปี ในช่วง 1 ใน 4 ของศตวรรษที่ผ่านมา โดยกลุ่มมิลเลนเนียลที่ทำการศึกษานี้ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มที่เกิดในช่วงปี ค.ศ.1981-2000 โดยผลศึกษาเทียบย้อนไปกับ 2 ยุคเจนเนอเรชั่น นั่นคือ เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ และ เบบี้บูมเมอร์ เมื่อนำรายได้ของกลุ่มเจนฯเอ็กซ์คือกลุ่มที่เกิดช่วงปี 1966-1980 มาเทียบอัตราส่วนรายได้กับกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ (คำนวณผ่านอัตราเงินเฟ้อตามยุคสมัยแล้ว) พบว่าคนทำงานยุคเจนฯเอ็กซ์มีรายได้มากกว่ายุคเบบี้บูมเมอร์ 21 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ เมื่อนำกลุ่มมิลเลนเนียลมาเทียบกับกลุ่มเจนฯเอ็กซ์พบว่าทำรายได้ได้น้อยกว่ากลุ่มเจนฯเอ็กซ์อยู่ราว 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถูกให้คำจำกัดความจากผลการศึกษาว่ากลุ่มมิลเลนเนียลได้อัตรารายได้ต่อเดือนใกล้เคียงกับเจนฯ