เชฟตุ๊กตา
แม่ตา แม่ครัวตัวดี แม่พระผู้ชอบแจกสูตร ยินดีบอกหมดเปลือก ให้คนเอาไปสร้าง “คนที่เอาเมนูของแม่ไปสร้างอาชีพ บอกเลยว่ายินดีมาก เพราะที่ให้ไปคือบอกหมด ตั้งแต่วัตถุดิบต้องเลือกอะไรดี อะไรใช้แบบไหน แม่บอกหมด เพราะทุกอย่างออกมาจากประสบการณ์” เราเป็นคนหนึ่งที่ดู แม่ตา หรือ เชฟตุ๊กตา-สุพัตรา สารสิทธิ์ ที่หลายคนรู้จัก มาตั้งแต่ช่วงโควิดเล่นงาน ใครจะรู้ว่าจากเด็กแค่หั่นพริกยังบาดมือ สู่ผู้เชี่ยวชาญซอยใบมะกรูดละเอียดยิบ (อย่างน้อยๆ ก็ช่วงหนึ่งสั้นๆ ฮ่าๆ) และคิดอยากจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง สิ่งที่แม่ตามอบให้ไม่ใช่แค่สูตรอาหารเพื่อทำกินในบ้าน แต่เหมือนกับแม่พระให้กับเหล่าพ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กๆ กลับมาลืมตาอ้าปากให้ชีวิตมีจุดยืนได้ดีกว่าเดิม แม่ตา แม่ครัวตัวดี แม่ตา เล่าว่า ชีวิตเริ่มต้นการทำอาหารนั้นมาจากแม่ของเธอเป็นคนสั่งให้ไปเก็บวัตถุดิบแถวบ้าน ทั้งใช้ไปเก็บใบมะรุม ใบมะขาม หรือแม้กระทั่งวัตถุดิบอื่นๆ ในพื้นที่ ไม่เพียงแค่นั้น ด้วยสัญชาตญาณต่ออาหารก็ทำให้ตัวแม่ตาเองก็เลือกจะลองวัตถุดิบอื่นๆ ด้วยการชิม “เวลาแม่ไปไหนมาไหนก็จะตื่นเต้นเวลาเห็นวัตถุดิบแปลกๆ เราก็จะเอาของเราไปแลกแล้วขอเขามา บางทีก็นั่งส
“ขอร้องเถอะรัฐบาลมาชวนฉันไปหน่อย ฉันอยากจะทำอาหารไทยให้หลายๆ คนได้กินอาหารไทยพื้นบ้านของฉัน” “อยากให้เขารู้ถึงรสชาติไทยๆ เป็นแบบนี้ วัตถุดิบมันเป็นแบบนี้” “ช่วยฝากบอกหน่อยนะ (ยิ้ม)” เชฟตุ๊กตาทำท่ายกมือขึ้นพูดเหมือนกระซิบ เรามีโอกาสได้คุย เชฟตุ๊กตา-สุพัตรา สารสิทธิ์ ผู้ซึ่งนิยามตัวเองว่าเป็นแม่ครัวตัวดี แทนการเรียกตัวเองว่าเชฟ ทั้งยังเป็นเจ้าของร้านครัวบ้านยี่สาร แจกสูตรอาหารเคล็ดลับเข้าครัวต่างๆ ผ่านช่องยูทูบ กับข้าวกับตา ให้กับผู้คนได้นำไปต่อยอดสร้างอาชีพ ซึ่งหลายปีมานี้รัฐบาลไทยมักจะเน้นให้ความสำคัญกับคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ บางอย่างเราก็เห็นประสบความสำเร็จ หลายอย่างเราก็เห็นแค่คำพูด แต่ที่สำคัญ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ถูกหลงลืมไป เชฟตุ๊กตาเลยอยากจะส่งสารถึงรัฐบาลใหม่ ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศไทย ในเรื่องการสนับสนุนอาหารไทยพื้นบ้านสู่รสปากชาวโลก เชฟตุ๊กตา เล่าว่า รสชาติของคนไทยนั้นชอบ 3 รส มีเปรี้ยว มีเค็ม มีหวาน หรือจะว่าง่ายๆ คือ รสชาติของความกลมกล่อม “รสชาติของคนไทยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 3 รส มีเปรี้ยว มีเค็ม มีหวาน แล้วมีเผ็ดตามเป็นรสที่ตามมาอีกรสหนึ่ง ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีรสชาติที่ไม่เหม