เที่ยวไทยมีเฮ
ทีมข่าวเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ลงพื้นที่สำรวจร้านขนมครกคุณภา ณ ตลาดวังหลัง ตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช คุณภา ชัยภา วัย 50 ปี เจ้าของร้านขนมครกคุณภา เจ้าเก่าตลาดวังหลังที่ขายมากว่า 20 ปี เล่าให้ฟังว่า เดิมทีเป็นจังหวัดสุรินทร์ ก็ทำขนมครกขาย ซึ่งช่วยกันทำกับภรรยา แต่ก็อยากขายได้เงินเยอะขึ้น จึงเข้ามาขายที่กรุงเทพฯ ได้ที่ขายในตลาดวังหลัง จึงตั้งร้านขาย ขายที่นี่มาประมาณยี่สิบปีได้แล้ว สูตรขนมครก เป็นสูตรโบราณของคนเฒ่าคนแก่ สืบทอดมาจากรุ่นย่ารุ่นยาย พ่อแม่เขาก็สอนให้ทำ ก็ทำมาตลอด จนเอามาขาย ก็ขายเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ขายที่ตลาดวังหลังได้สักสองสามปี ก็เริ่มขายดีมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องมาปรับวิธีการทำขนมครกเพื่อให้ทันต่อความต้องการของคนซื้อ ที่มายืนรอ โดยวิธีการปรับนั้น คุณภา บอกว่า “ปรับโดยวิธีการหยอดขนมครก เพราะการหยอดทีละหลุมแล้วงัดขึ้นมาทีละหลุด ทีละหลุม มันทำให้เสียเวลามาก เลยใช้การราดแป้งไปทั่วทั้งถาดเพื่อให้สามารถยกขนมครกในถาดที่อังไฟขึ้นมาทั้งแผงได้ ก่อนจะเอากรรไกรมาใช้ตัดแยกทีหลังซึ่งง่ายและเร็วกว่า และที่ยังขายได้มาตลอด 20 ปี ทั้งยังมีคนมาต่อคิวซื้อ ขายได้ตลอด เพราะมีเคล็ดลับคือ ทำขนมค
วันที่ 25 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มิวสิกวิดีโอ “เที่ยวไทยมีเฮ” เวอร์ชั่นแก้ไข โดยตัดฉาก “ทศกัณฐ์หยอดขนมครก” ออกไป หลังกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) แสดงความเห็นถึงความไม่เหมาะสม มีการเจรจาจนนำไปสู่การตัดต่อใหม่นั้น นายพิสิฐ เสือสมิง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสงคราม กล่าวว่า การที่นำเอกลักษณ์ไทยมาผสมผสานกับยุคสมัยใหม่ นั้นเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับความเป็นจริงกับสิ่งใหม่กับสิ่งเก่ามาประยุกต์เข้ากันให้ได้ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะที่นำเอาเอกลักษณ์ของคนไทยในเรื่องของรามเกียรติ์ไปเผยแพร่ให้กับชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมีฉากทศกัณฐ์หยอดขนมครก ซึ่งขนมครกเป็นประเพณีตักบาตรขนมครกและน้ำตาลทราย ของวัดแก่นจันทร์เจริญ ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ซึ่ง อบจ.สมุทรสงครามร่วมกับ อบต.บางพรมและวัดแก่นจันทร์เจริญ จัดขึ้นทุกวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ทุกปี เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีไทยสมัยพุทธกาลที่สืบทอดมาเกือบ 100 ปีซึ่งเหลือเพียงแห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม โดยปีนี้เพิ่งจัดไปในวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา นายพิสิฐกล่าวว่า ส่ว
เมื่อเวลา 06.40 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการวิพากษ์วิจารณ์กรณีกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) สั่งปรับปรุงมิวสิกวีดีโอ (เอ็มวี) “เที่ยวไทยมีเฮ” ในฉากที่นำทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นตัวละครในวรรณคดีไทยมาใช้แสดงว่า ขณะนี้เขากำลังประชุมเพื่อหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ตนเข้าใจว่ามีคนคิด 2 แบบคือ 1.แบบครูอาจารย์นาฏศิลป์ที่เขาถือว่าโขนเป็นศิลปะชั้นสูง มีการครอบครูไหว้ครูต่างๆ ซึ่งเป็นการมองในมุมนักอนุรักษ์ และ 2.คนรุ่นใหม่ก็มองในมุมที่ว่าน่าจะนำมาใช้ในการโปรโมตการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเราก็ต้องไปดูความเหมาะสม ทั้งนี้ ตนสั่งให้รมว.วธ.ไปดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่า ต่อไปหากจะอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คนรุ่นหลังได้รู้จักมากขึ้น การดัดแปลงลักษณะนี้จะถือว่าผิดหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มี 2 วิธีคือ 1.หากนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมมันก็โอเค และ 2.มองอีกแง่หนึ่งของการอนุรักษ์อาจจะไม่ถูก เพราะคนเรามีสองข้างหมด คราวนี้ถามว่ามันสมควรหรือยังที่จะนำมาใช้แบบนี้ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนที่ต้องการ “ถ้ามีเอ็มวีนี้อยู่
หลังจากเป็นประเด็นร้อนให้ถกเถียงกันมาหลายวันกับเพลง ‘เที่ยวไทยมีเฮ’ เนื่องจากนางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย อดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปากร เข้าร้องเรียนต่อกระทรวงวัฒนธรรมว่ามิวสิควีดีโอเพลงนี้ ซึ่งมีฉากทศกัณฐ์หยอดขนมครก เซลฟี่ และขับโกคาร์ทนั้นไม่เหมาะสม เพราะทศกัณฐ์เป็นราชาแห่งยักษ์ ต้องสง่างาม น่าเกรงขาม โดยภายหลังอ๊อด – บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับก็ได้จัดการปรับแก้ และล่าสุดวันนี้ (23 กันยายน) เวลา 16.00 น. อ๊อด บัณฑิต ก็ได้เผยแพร่มิวสิควิดีโอ ‘เที่ยวไทยมีเฮ’ ที่ปรับแก้เรียบร้อยแล้วให้ชมผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว บัณฑิต ทองดี เป็นครั้งแรก ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีฉากเจ้าปัญหาทั้งทศกัณฐ์หยอดขนมครก, ยักษ์ปั่นสามล้อ, ขับโกคาร์ท อย่างที่มีผู้กังวล นั่นทำให้หลายคนที่ดูเอ็มวีนี้แล้วรู้สึกว่าเป็นการเน้นที่สถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า ส่วนจริงตามนั้นหรือไม่ รับชมได้ดังนี้… ที่มา มติชนออนไลน์
จากกระแสดราม่าทศกัณฐ์ เที่ยวไทยมีเฮ ลองพักมาดูภาพสวยๆ ที่ได้รับการแชร์อย่างล้นหลาม โดยเพจ “เอพี โฟโตมิวสิค โฟโตมิวสิก” ได้นำภาพหนุมานในมุมต่างๆ ของจังหวัดลพบุรีมาเผยแพร่ไว้ ซึ่งมีคนเข้าไปชื่นชมและแชร์ต่อกันจำนวนมาก โดยเจ้าของภาพถ่าย คุณประชิตชัย เปิดเผยว่า แนวคิดการถ่ายภาพเริ่มจากต้องการถ่ายภาพเพื่อใช้จำหน่ายในเว็บไซต์ จึงให้รุ่นน้องที่เรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์ลพบุรี ที่แสดงเป็นหนุมาน ช่วยสวมชุดเป็นแบบให้ แต่เมื่อถ่ายไปแล้ว อยากถ่ายหนุมานกับมุมต่างๆ ใน จ.ลพบุรี ด้วย จึงได้เป็นภาพเซ็ตนี้ออกมา ส่วนกระแสดราม่าจากเอ็มวีเที่ยวไทยมีเฮนั้น ตอนถ่ายภาพนี้ยังไม่ได้เกิดกระแสดราม่าอะไร ซึ่งตอนแรกก็กังวลว่าจะถูกมองในแง่ลบ แต่ก็อยากให้มองว่าเป็นการเผยแพร่ให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จักตัวละครในวรรณคดี และตนมีเจตนาอยากจะเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และอยากเชิญชวนคนมาเที่ยวลพบุรีเท่านั้น ที่มา ข่าวสดออนไลน์
จากกระแสดราม่า มิวสิกวิดีโอ เที่ยวไทยมีเฮ ที่ใช้ทศกัณฐ์ มาเป็นตัวละครหลักดำเนินเรื่อง ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) ออกมาให้เหตุผลว่า ไม่ได้ติดใจการพาทศกัณฐ์หรือนางในวรรณคดีไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ติดใจที่ ทศกัณฐ์ ซึ่งถือว่าเป็นราชาแห่งยักษ์ทั้งปวง รวมถึงยังเป็นตัวละครในวรรณคดีที่สง่างาม น่าเกรงขาม ทำกิจกรรมไม่เหมาะ เช่น หยอดขนมครก, ขับโกคาร์ท, ถ่ายเซลฟี่, ขี่บั้งไฟ เป็นต้น จนเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนให้ระงับการฉายเอ็มวีดังกล่าวนั้น โดยมีทั้งความคิดเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เมื่อวันที่ 22 ก.ย. กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด วธ. ทั้ง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) และผู้บริหาร วธ.เข้าร่วม หารือถึงกรณีดังกล่าว โดยมี นายอภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ. เป็นประธาน โดยใช้เวลาหารือ ร่วม 2 ชั่วโมง จากนั้น นายอภินันท์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกระแสที่หลายคนกำลังติดตาม ซึ่งจากการประชุมได้ข้อสรุปว่า ให้พบกันครึ่งทาง และเห็นควรให้ปรับปรุงแก้ไขภาพ และเนื้อหาบางส่วนให้เหมาะสมมากขึ้น เพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดร่องขุน ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาว ไทยและต่างประเทศจำนวนมากเดินทางไปเที่ยวชมศิลปะที่งดงามภายในวัดซึ่ง รังสรรค์ผลงานโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชื่อดังเช่นเดิม หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสเรื่องการนำยักษ์ทศกัณฐ์ไปเป็นตัวละครในวิดีโอ หรือเอ็มวี “เที่ยวไทยมีเฮ” จนมีบางกลุ่มออกมาต่อต้านว่าไม่เหมาะสมโดยเผยแพร่ภาพและข้อความไปต่างๆ นานาในสื่อสาธารณะหรือโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งทางอาจารย์เฉลิมชัยยังคงเห็นว่าเอ็มวีดังกล่าวเป็นเรื่องของศิลปะและ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า ปัญหาเรื่องของเก่าและใหม่หรือนักอนุรักษ์กับนักสร้างสรรค์เป็นปัญหาใหญ่ของ โลกไม่เฉพาะประเทศไทย สำหรับประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะการจะเปลี่ยนแปลงจากโบราณที่ดีไปสู่สิ่งใหม่ที่ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ ดี อย่างกรณีครูบาอาจารย์โขนแสดงนั้นยิ่งจะถือว่าตัวเองมีครูบาอาจารย์ มีความขลัง มีอุดมคติ มีจิตนาการที่ยิ่งใหญ่ ต้องอยู่ในโรงละคร อยู่ในที่อันเหมาะสมและมีความอลัง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า กรุงเทพมหานคร แซงหน้าลอนดอน ประเทศอังกฤษ ขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมมากที่สุดในโลก ในปีนี้ จากการจัดอันดับของบริษัทมาสเตอร์การ์ด เปิดเผยในวันเดียวกัน รายงานระบุว่า กรุงเทพมหานคร ที่รู้จักกันในนาม “ซิตี้ออฟแองเจิล” ติดอันดับ 1 ในการจัดอันดับ 132 ประเทศทั่วโลก สามารถเอาชนะกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเยือนมากที่สุดในโลกประจำปี 2559 ในดัชนีเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ของบริษัทมาสเตอร์การ์ด บริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินชื่อดังของสหรัฐ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า การท่องเที่ยวไทยนั้นเป็นหนึ่งความสำเร็จที่หาได้ยากสำหรับประเทศไทย ประเทศซึ่งตลาดใหญ่อันดับสองของภูมิภาคอาเซียน ต้องพบกับปัญหาความอ่อนแอในความมั่นใจของผู้บริโภคและปัญหาการส่งออกหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 แม้แต่เหตุระเบิดหลายจุดในตอนใต้ของไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมา เหตุการณ์ซึ่งตำรวจอ้างว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนอยู่เบื้องหลัง ก็ส่งผลกระทบกั