เบาหวาน
สังคมอุดมน้ำตาล เบาหวานครองเมือง “อภัยภูเบศร” ส่ง “มะระขี้นก” สยบ พญ.ชนิดา สยุมภูรุจินันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 21 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 ก.ค.นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยในปีนี้ได้นำกิจกรรมไฮไลต์คือ การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลโรคเบาหวาน ซึ่งในเมืองไทยมีความชุกของโรคสูงมาก ประมาณ 5.2 ล้านคน ป่วยเป็นเบาหวาน อัตราเพิ่มขึ้นปีละ 3 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตจากเบาหวานวันละประมาณ 200 คน เป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาวะของผู้ป่วยทั้งร่างกายและจิตใจรวมถึงคนรอบข้าง ทั้งจากตัวโรคเบาหวานเองและจากโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ตามมา เช่น ตาเสื่อม อัมพฤกษ์ อัมพาต และยังเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคไตวายเรื้อรัง “โรคเบาหวาน อยู่ในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ผู้ป่วยสามารถควบคุมและใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป โดยคุมให้ระดับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ ด้
กิจกรรมดีๆ จาก โรงพยาบาลพญาไท 2 เบาหวาน “ลดเสี่ยง เปลี่ยนวันนี้” โรงพยาบาลพญาไท 2 ชวนร่วมกิจกรรมดีๆ “ลดเสี่ยง เปลี่ยนวันนี้” เพื่อป้องกันโรคเบาหวานก่อนเสี่ยง เบาหวานไม่เพียงแค่เป็นโรคพบได้บ่อยแต่เมื่อเป็นแล้วอาจเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงตามมา ถึงแม้ว่าปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงเป็นเบาหวานจะมีมาก แต่หากใส่ใจในการดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างดี “เบาหวาน” ก็จะกลายเป็นเพียงโรคที่ไกลตัว ถ้าตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีด้วยการตรวจ FBS กับ HbA1C ซึ่งผลตรวจทั้ง 2 แบบ สามารถใช้วินิจฉัยโรคเบาหวานได้ แต่อาจมีความแตกต่างกันดังนี้ การตรวจน้ำตาลสะสม (HbA1C) ช่วยใช้ติดตามการควบคุมระดับน้ำตาลช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถบอกภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ การตรวจน้ำตาลในเลือด (FBS) สามารถทราบระดับน้ำตาลในเลือดว่าต่ำหรือสูงได้ แนะนำให้ตรวจควบคู่กันเพราะมีประโยชน์ในการวัดที่แตกต่างกัน ภาวะแทรกซ้อน…อันตรายที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องระวัง! การที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ มีผลให้หลอดเลือดเกิดเสื่อมสภาพ และกลายเป็นโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ไตวาย โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคอัมพฤกษ์อัมพาต เป็นต้น โดยมักจะไม่แสดงอาการใ
โลตัส รับวันเบาหวานโลก จัดกิจกรรมตรวจคัดกรองเบาหวานต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ส่งเสริมการมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของประชาชน เนื่องในวันเบาหวานโลก 14 พฤศจิกายนของทุกปี โลตัส สนับสนุนการป้องกันโรคเบาหวาน จัดกิจกรรม “ดูแล ใส่ใจ ห่างไกลเบาหวาน” ตรวจคัดกรองเบาหวานเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ ป้องกันโรคเบาหวานแก่ประชาชน โดยเป็นกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งมีบริการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด บริการตรวจร่างกายเบื้องต้น อาทิ วัดความดัน หาค่าดัชนีมวลกาย (BMI) พร้อมให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวานผ่านการร่วมกิจกรรมชิงรางวัล และแจกอะโวคาโดเพื่อสุขภาพ สอดคล้องกับนโยบายด้านความยั่งยืนของโลตัส ในประเด็นส่งเสริมการมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของประชาชน (Health & Well-being) และสนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน ให้ความรู้เรื่องการป้องกันกลุ่มโรคไม่ติดต่อ (NCDs) จากการรับประทานอาหารที่ดี สนับสนุนการออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรม “ดูแล ใส่ใจ ห่างไกลเบาหวาน” จัดในโลตัสสาขาพิเศษ 6 สาขา โดยนำร่องที่สาขาสุขุมวิท 50 และสาขารามอินทรา เมื่อวันที่ 11 – 12 พ.ย.
กินมากระวังเบาหวาน! เปิดผลสำรวจชานมไข่มุก อึ้ง! น้ำตาลสูงกว่าที่ WHO แนะนำ 18 ช้อน! ฉลาดซื้อเผย ผลตรวจวิเคราะห์สารกันบูด น้ำตาล และโลหะหนักในชานมไข่มุก 25 ยี่ห้อ พบตัวอย่างเม็ดไข่มุกมีสารกันบูด 100% แต่ไม่เกินมาตรฐาน มีเพียง 2 ยี่ห้อ ที่น้ำตาลน้อยกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ บางยี่ห้อสูงถึง 18 ช้อนชา ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยโครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ สุ่มเก็บตัวอย่างชานมไข่มุกในเดือนพฤษภาคม 2562 จำนวน 25 ยี่ห้อ ขนาดแก้วปกติ แบบไม่ใส่น้ำแข็ง ที่มีราคาตั้งแต่แก้วละ 23-140 บาท ส่งตรวจวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ ได้แก่ ปริมาณพลังงาน น้ำตาล และไขมัน รวมถึงทดสอบหาโลหะหนักประเภทตะกั่ว และสารกันบูดในเม็ดไข่มุก จากผลทดสอบพบว่า ยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลต่อแก้วน้อยที่สุด ได้แก่ ยี่ห้อ KOI Thé โดยมีปริมาณน้ำตาลเท่ากับ 16 กรัม (4 ช้อนชา) และยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลต่อแก้วมากที่สุด ได้แก่ ยี่ห้อ CoCo Fresh Tea & Juice มีปริมาณน้ำตาล 74 กรัม (18.5 ช้อนชา) ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 24 กรัม
หากพูดถึง ‘โรคเบาหวาน’ หลายๆคนอาจจะไม่แปลกใจ เพราะรู้สึกคุ้นชินกับชื่อโรคนี้มานาน ประกอบกับคนในครอบครัวหรือรอบๆ ตัว ต่างเป็นโรคนี้ในจำนวนมาก สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติได้เผยสถิติน่าตกใจว่า จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกปี 2558 สูงถึง 415 ล้านคน ในทุกๆ 6 วินาทีมีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 1 ราย และคาดการณ์ไปอีก 30 ปีข้างหน้าว่า จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานจะเพิ่มสูงขึ้นจนแตะ 642 ล้านคน เห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และผู้ที่เป็นโรคนี้ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน ทั้งนี้สามารถลดความเสี่ยงลงได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นอกเหนือจากผลสถิติที่ดูสูงจนน่ากลัวแล้ว สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือผลที่ตามมา แถมยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานเสียชีวิต คือ โรคแทรกซ้อนเรื้อรัง โดยที่พบบ่อย ได้แก่ เบาหวานในจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาเสื่อม มีเลือดออกในดวงตา และตาบอดในที่สุด เบาหวานที่ไต หากปล่อยไว้ไตจะทำงานผิดปกติและเกิดภาวะไตวาย โรคเส้นประสาทชา คนไข้จะไร้ความรู้สึกเมื่อเกิดการกระทบทางร่างกาย ทำให้เกิดบาดแผลได้ง่ายและรักษาได้ยาก เนื่องจากไม่รู้สึกต