แม่ค้า
ใครจะคิดว่าผักสวนครัวบ้านๆ ผักธรรมดาๆ อย่าง กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย ผักชีลาว มะเขือ แตงกวา คะน้า ถั่วฝักยาว เห็ดหูหนู ฯลฯ จะสามารถสร้างรายได้มหาศาลหลักล้านต่อเดือนให้ คุณนภคสร สามงามไกร หรือ เจ๊นุ่น ผักสด เจ๊ใหญ่แห่งวงการขายผักสด “รายได้หลักล้านได้ไม่ยากถ้าเห็นโอกาส ที่พูดมาทั้งหมด ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก และอย่างน้อยทุกบ้านต้องมีผักเหล่านี้ 1-2 อย่างในตู้เย็น ตรงนี้แหละทำให้เราเห็นเงินล้าน” เจ้าของร้าน เจ๊นุ่น ผักสด กล่าว จุดเริ่มต้นอาชีพแม่ค้าของเจ๊นุ่น เริ่มตั้งแต่สมัยเด็ก เธอมั่นใจมาตลอดว่าอยากเป็นแม่ค้า เพราะชอบค้าขาย หลังเรียนจบจึงยึดอาชีพเป็นเเม่ค้าทันทีโดยไม่ได้ทำอาชีพอื่น “นุ่นชอบขายของ ชอบพูดคุยกับลูกค้า สร้างฐานลูกค้าด้วยสองมือกับความพยายามของตัวเอง ทำตรงนี้ใจต้องรัก เพราะไม่ได้ทำงานในออฟฟิศเย็นๆ ต้องตากแดดร้อนๆ อย่างตัวนุ่นเป็นเกษตรกรเองด้วย ไหนจะต้องคุมคนงานปลูกผักของตัวเอง ไหนจะต้องขับรถไปหาลูกไร่อื่นๆ เพื่อหาสินค้ามาเติมให้จำนวนเพียงพอกับออร์เดอร์ที่เข้ามาในแต่ละวัน” “ทุกคนเป็นแม่ค้าได้ แต่เป็นแม่ค้าที่มีลูกค้าประจำแ
“หอยทอดป้าเขียวในตำนาน” แม่ค้าวัย 88 ปี ขายหอยทอด 25 บาท ไม่ขึ้นราคา แค่คนกินมีความสุขก็คือกำไร กว่า 70 ปี บนเส้นทางของแม่ค้าหอยทอด ที่ต้องพายเรือกว่า 2 ชั่วโมงไปขายหอยทอดที่ตลาด ย้อนไปเมื่อสมัยที่ยังใช้เหรียญสลึงเพื่อจับจ่ายใช้สอยกัน เธอผู้นี้คือ ป้าเขียว-เขียว เกียมตั๊ด อายุ 88 ปี ตำนานความอร่อย กับหอยทอดเตาถ่านสูตรโบราณ วันนี้มีโอกาสดีๆ ที่ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้พูดคุยกับ ป้าเขียว เจ้าของร้านหอยทอดสูตรโบราณ และป้าเขียวได้เล่าเรื่องราวในอดีต ชีวิตของแม่ค้าที่ต้องพายเรือผ่านลุ่มน้ำแม่กลอง ลัดเลาะตามลำคลองไปขายของในทุกๆ วัน ย้อนไปเมื่อ 70 ปีก่อน ในตอนนั้นป้าเขียวมีอายุ 18 ปี ก็เริ่มต้นอาชีพแม่ค้าขายหอยทอดที่เป็นสูตรมาจากคุณแม่ของเธอ จากนั้นก็ยึดอาชีพนี้เพื่อหารายได้ ซึ่งในตอนนั้น ราคาที่ซื้อขายกันยังเป็นเหรียญสลึง หอยทอดธรรมดาไม่ใส่ไข่ ขายในราคา 1 บาท ในส่วนของหอยทอดใส่ไข่ ราคา 6 สลึง “พอได้แฟนก็คิดทำมาค้าขาย ก่อนนี้แม่ฉันขาย พอแม่เสีย ฉันก็เลยขายต่อ” ป้าเขียว เล่าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ในวัยสาว ป้าเขียวก็จะพายเรือไปขายหอยทอดอยู่ตลอด โดยระยะทางจากบ้านไปตลาดน้ำท่าคาใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง
ชีวิตดิ่งจนไม่อยากอยู่ กลับมาตั้งตัวได้ ด้วยไก่ยอทอด ราดน้ำจิ้มซีฟู้ด ชิ้นละ 10 บาท ใครๆ ก็อยากมีอิสระในชีวิตและหน้าที่การงาน แม้อาชีพที่ทำจะมั่นคง มีเงินเดือนสูงแต่ก็มากไปด้วยความกดดัน จึงทำให้ ครูภาพ หรือ สุภาพ แนบกลาง ตัดสินใจลาออกจากงาน มาเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหาร แต่แล้วเมื่อเกิดโควิดระบาด ร้านอาหารที่ไปได้ดีต้องหยุดชะงัก นั่นทำให้ครูภาพมองหาอาชีพใหม่ จนได้มาเป็น ไก่ยอครูภาพ เมนูที่คิดถึงในวัยเด็กนำมาสู่เมนูปลดหนี้ นอกจากมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวแล้ว ยังสร้างอาชีพให้หลายครอบครัวกว่า 100 สาขา มรสุมชีวิต ดิ่งขั้นสุดจนไม่อยากอยู่ ครูภาพ วัย 53 ปี เล่าให้ฟังว่า เธอมีอาชีพการงานมั่นคง เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีเงินเดือนกว่าครึ่งแสน แม้จะดูว่ามากมาย แต่ก็มีความกดดันในหน้าที่การงานไม่น้อย จนรู้สึกอยากมีชีวิตอิสระ จึงตัดสินใจลาออกจากงานเมื่อปี 2560 จากนั้นได้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารมาเปิด แต่ก็เจอความกดดันเรื่องต้นทุนและข้อผูกมัดหลายๆ อย่าง จึงเปลี่ยนมาเปิดธุรกิจของตัวเอง ขายเมนูประเภทตำ ยำ ซึ่งไปได้ดีมาก มีลูกค้าทั้งคนทั่วไปและดารามาอุดหนุน เรียกว่าประสบความสำเร็จมากๆ เวลาผ่
อดีตสาวโรงงาน ขายเกี๊ยวเด้งจัมโบ้ ตัวละ 10 บาท วันละ 3,000 ชิ้น จากสาวโรงงาน ผันตัวมาเป็นแม่ค้า ค้าขายหลายอย่างเพราะอยากได้เงินเพิ่ม ก่อนจับทางถูก มาขาย เกี๊ยวเด้งจัมโบ้ เมนูที่เริ่มต้นจากความชอบของ คุณเอลฟ์-รวิกันต์ กิจเจริญ และลูกสาว ปัจจุบันขายดีวันละ 3,000 ตัว และขายแค่ชิ้นละ 10 บาท เคล็ดลับการขายคืออะไร ทำไมลูกค้าถึงติดใจอุดหนุนไม่ขาด เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาไปพูดคุยกับคุณเอลฟ์ แม่ค้าเกี๊ยวเด้งจัมโบ้ ลาออกจากโรงงานมาเป็นแม่ค้า คุณเอลฟ์ เล่าให้ฟังว่า หลังจากถูกสั่งพักงาน 1 เดือน เธอได้เริ่มต้นอาชีพแม่ค้าขายเฟรนช์ฟรายด์หน้าหมู่บ้าน ตามคำแนะนำของพี่สาวที่ยึดอาชีพค้าขายมานาน ซึ่งผลตอบรับดีมากๆ ขายดีจนทำให้ตัดสินใจลาออกจากสาวโรงงานมาค้าขายเต็มตัว “ทำงานโรงงานได้วันละแค่ 300-400 บาท แต่เราไปขายของแค่วันแรกได้มา 2,000 กว่าบาทแล้ว เรามั่นใจแล้ว เพราะถ้าวันแรกขายได้ขนาดนี้ แล้วทำไปเรื่อยๆ หรือขยับขยายไปขายอย่างอื่น เราต้องได้มากกว่านี้แน่นอน” คุณเอลฟ์ขายเฟรนช์ฟรายด์ได้ปีกว่า จนหน้าหมู่บ้านมีการทำถนน ทำให้พื้นที่เริ่มคับแคบ จึงต้องขยับขยายไปขายที่ตลาดอ้อมใหญ่ที่มีผู้คนพลุกพล่า
เปลี่ยนยูนิฟอร์ม จากแอร์ฯ สู่แม่ค้าขายข้าวคลุกกะปิ สุดภูมิใจอาชีพนี้ ขายดีวันละเกือบ 400 กล่อง จากแอร์โฮสเตส สู่แม่ค้าขายข้าวคลุกกะปิ อีกอาชีพที่สร้างเงินให้กับ คุณพลอย-หทัยพัชร วสุศักดิ์ศิริ อายุ 29 ปี คุณพลอยทำงานเป็นแอร์โฮสเตสมานาน 3 ปี ในช่วงหมดสัญญา ประกอบกับโควิดระบาด เธอตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับที่บ้าน และอยากช่วยธุรกิจร้านอาหารของครอบครัวอย่างเต็มตัว จากเมื่อก่อนที่แวะเวียนเข้ามาช่วยบ้าง “ก็เสียดายเหมือนกัน แอร์โฮสเตสเป็นอาชีพแรกและอาชีพเดียวที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก และไม่คิดว่าจะเลิกเป็น จะเรียกว่าทิ้งโอกาสไหม อาจจะนิดหน่อย แต่เราคิดว่าก็ได้ไปใช้ชีวิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนั้นมาค่อนข้างพอใจแล้ว เลยอยากมาทำตรงนี้เต็มตัวดูบ้าง” คุณพลอย เล่าเสริม ร้านอาหารของครอบครัวชื่อ จั๊บญวนแม่พลอย เปิดให้บริการมานาน 12 ปี และคุณพลอยได้เปิดร้านใหม่ชื่อชูรส ที่เธอบริหารงานเองร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยมีเมนูเด่นคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ กวยจั๊บญวน และข้าวคลุกกะปิ “จากการเปิดร้าน เราสังเกตว่าทำไมลูกค้ามาสั่งข้าวคลุกกะปิทีละ 10-20 กล่อง มากกว่ามาสั่งก๋วยเตี๋ยว บางทีมีการจ
ทุน 3,000 บาท ขายไก่แดงย่างข้างเมรุ สูตรหมักน้ำตาลมะพร้าว ขายดีวันละ 1,000 ไม้ หมดเกลี้ยงทุกวัน ไม่ง่ายเลยที่จะขายไก่ย่างให้ได้วันละ 1,000 ไม้ แต่สำหรับแม่ค้า “เจ๊โอ๋-ภัสสร เหล็กมน” เจ้าของร้านไก่ย่างที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ “ไก่แดงย่างข้างเมรุ” เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนจดจำทั้งกลิ่นสีและรสชาติ ติดอกติดใจและบอกต่อกันจนกลายเป็นเมนูยอดฮิตในย่าน วัดโพธิ์เอน อ.บางกรวย จ.นนทุบรี ด้วยสีแดงที่เคลือบบนผิวไก่ประกอบกับกลิ่นหอมที่ย่างบนเตาถ่านโชยไปทั่วบริเวณนั้นทำให้ดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบของปิ้งย่าง โดยเฉพาะไก่ย่างที่ไม่ได้มีเพียงเนื้อน่องไก่เท่านั้น แต่ยังมีให้เลือกหลากหลายในทุกส่วนความอร่อย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องในไก่ ตับ เนื้อ ปีก ตูด และเนื้อติดโครงที่เคี้ยวเพลินยิ่งนัก ความโดดเด่นนี้ไม่เฉพาะแค่รสชาติแต่รวมไปถึงการย่างแบบสุกกำลังดีบ่งบอกความพิถีพิถัน แม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆ ข้างทางแต่ใส่ใจในทุกรายละเอียด จนทำให้ไก่แดงย่าง เมนูธรรมดาพื้นๆ ที่หากินได้ทั่วไป กลายเป็นของที่ต้องหากินและลองชิมในราคาเพียงไม้ละ 10 บาทเท่านั้น เจ๊โอ๋ เจ้าของร้านไก่แดงย่างข้างเมรุ เล่าว่า กว่าจะมาถ
ขายดีจนไม่มีเวลากินข้าว! ทอดเทียม เมนูตั้งตัวของสาวออฟฟิศ ยอดขายพีกวันละหลายหมื่น จากแม่ค้าออนไลน์ สู่พนักงานประจำ เมื่ออยากเติบโตและอยากมีธุรกิจของตัวเอง ทำให้ คุณแอน-ปาณิสรา สว่างอารมณ์ ตัดสินใจลาออกมาเปิดร้าน “ทอดเทียม” ขายเมนูชุบแป้งทอดต่างๆ โรยด้วยกระเทียมเจียวและพริกขี้หนูทอด เป็นเมนูจานด่วนที่เจาะกลุ่มลูกค้าพนักงานออฟฟิศ และผู้คนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ ปัจจุบันร้านของเธอเปิดมาได้ 6 เดือน สามารถสร้างยอดขายเฉลี่ย 35,000-50,000 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ยังไม่หักค่าต้นทุน คุณแอนในวัย 32 ปี เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานเป็นสาวแบงก์ และลาออกมาเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้ากับสกินแคร์ออนไลน์ ซึ่งแม้จะขายดีมาก แต่จากการลงทุนสต๊อกสินค้าก็ทำให้มีหนี้หลักแสน ประกอบกับสถานการณ์โควิดระบาดและปัจจัยอื่นๆ รอบตัว ทำให้เธอต้องถอยออกมาตั้งหลักใหม่ด้วยการทำงานออฟฟิศ “เป็นมนุษย์ออฟฟิศมีเงินกินมีเงินใช้ทุกเดือน และเหลือพอจ่ายหนี้บ้างนิดหน่อย แต่ด้วยใจเราอยากใช้หนี้หมดไวๆ อยากสร้างเนื้อสร้างตัวเพราะอายุมากแล้ว และอยากมีธุรกิจของตัวเองโดยไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร เลยตัดส
กล้วยปิ้ง อาชีพลงทุนง่าย ขายยังไงได้วันละ 1,000 ไม้ แถมใจดี สอนฟรี ให้คนอยากมีอาชีพ 8 ปีของ “กล้วยช่วยได้” เติบโตขึ้นมากจากวันแรก ที่ คุณงิ้ม-จิรา เบญจเทพานันท์ เปลี่ยนอาชีพจากเซลส์ เป็น “แม่ค้า” โดยนำสูตรกล้วยปิ้ง พร้อมน้ำราดสุดกลมกล่อมของแม่มาต่อยอด เริ่มต้นจาก 1 เตาปิ้ง สู่ 4 เตาในปัจุบัน แถมยังขายดิบขายดี วันละ 1,000 ไม้ สร้างรายได้ราวหลักแสนบาทต่อเดือน อีกทั้ง ยังเปิดสอนฟรีให้ผู้ที่สนใจนำไปสร้างอาชีพแบบไม่มีกั๊ก ขอแค่เพียงติดต่อมา ทำไม กล้วยปิ้งจากร้านกล้วยช่วยได้ถึงขายดี และเปิดสอนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มาติดตามได้ในบทสัมภาษณ์นี้ คุณงิ้ม วัย 51 ปี เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า อดีตเธอทำงานเป็นเซลส์ในบริษัทของครอบครัว ซึ่งอาชีพนี้ต้องขับรถไปต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ จนเริ่มไม่อยากขับเพราะอายุมากขึ้น ประจวบเหมาะครอบครัวตัดสินใจย้ายบริษัทไปอยู่ตำบลศาลายา ด้วยอยากทำงานอยู่แถวบ้านเหมือนเดิม จึงเริ่มมองหาอาชีพทำกิน สุดท้ายมาลงตัวที่ กล้วยปิ้ง “ชอบกินกล้วยปิ้งมาตั้งแต่เด็ก แม่ก็ทำให้กินบ่อยๆ สูตรนี้อร่อยมากเข้นข้นไม่เหมือนใคร เลยคิดว่าถ้านำมาพัฒนาก็น่าจะดี ตอนแรกคิดขายบนรถ ไปซื
ร้านเสริมสวยเจ๊ง เปลี่ยนมาขับเก๋ง เปิดท้ายขายส้มตำ หาเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ จากร้านเสริมสวยที่เคยรุ่งเรือง มีเงินส่งให้ครอบครัว และส่งลูกๆ จนเรียนจบ มาปีนี้ ไม่รุ่งเรืองเหมือนที่ผ่านมา เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ คุณกาญจนา บุญเกิด อายุ 43 ปี ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ เปิดท้ายขายส้มตำ “ยาริส ส้มตำยำแซ่บ” เพราะยังมีภาระ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ คุณกาญจนา เล่าย้อนให้ฟังว่า เปิดร้านเสริมสวย ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มานาน 2 ปี ให้บริการ ขัดหน้า สปา อบสมุนไพร ฯลฯ รายได้เฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นบาท มีเงินส่งให้ครอบครัว และส่งลูกเรียนจนจบ กระทั่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้บรรยากาศร้านเงียบเหงา เพราะต่างคนต่างกลัว ไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน จึงทำได้เพียงเคลียร์ของในสต๊อก เช่น เครื่องสำอาง ลูกประคบสมุนไพรต่างๆ มีทั้งทิ้งไปบ้าง ขายขาดทุนบ้าง ส่วนเครื่องขัดตัว เครื่องอบ และเตียงนวดหน้ายังเก็บไว้อยู่ “ตอนนั้น โควิดเริ่มระบาดหนัก มีการประกาศล็อกดาวน์ ทำให้ร้านต้องปิดโดยปริยาย ตัดสินใจไปขับฟู้ดแพนด้าอยู่ 2 เดือน เป็นผู้หญิงคนเดียวในอำเภอแม่สอดที่ยึดอาชีพนี้ ได้เงินเดือนละหมื่นกว่าบาท แต่ต้องเสียค่าโท
แม่ค้าน่าร้ากกก! ทำมาสารพัดอาชีพ พริตตี้-เปิดผับ-ลูกจ้าง-เจ้าของร้านวุ้น หลายวันก่อน มีโอกาสไปเดินเตร็ดเตร่แถวห้างดังย่านฝั่งธน แหล่งช็อปปิ้งทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีโอกาสพบปะกับแม่ค้าขนมหวานท่านหนึ่ง อัธยาศัยยิ้มแย้ม น่ามอง เลยลองเข้าไปเลียบเคียงดูสินค้าที่เธอกำลังเชิญชวนให้เลือกซื้อ เห็นเป็นวุ้น สีสันสดใสสารพัดหน้า ราคาขายชิ้นละไม่แพงนัก เลยอุดหนุนมาชุดหนึ่ง ระหว่างรอขนมใส่ถุงกลับบ้าน ถือโอกาสชวนคุย แม่ค้าหน้าหวานใจดีเหลือหลาย ให้ข้อมูลกันแบบกันเอง แนะนำตัว ชื่อ มิว – แพรวไพลิน ยูโซะ อายุสามสิบเศษ พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ เรียบจบปริญญาตรีจากคณะการโรงแรม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เคยรับจ๊อบ เป็น “พริตตี้” ตามงานอีเว้นต์ต่างๆ ทั้งงานบ้าน งานรถ ทำอยู่จนเรียนจบ แม้รายรับจะดีมากแต่ก็ไม่แน่นอน บางเดือนมี บางเดือนไม่มี เลยรู้สึกเบื่อ กระทั่งเลิกรับงานไปในที่สุด เมื่อหันหลังให้วงการพริตตี้รับงานตามอีเว้นต์แล้ว คุณมิว คิดอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เลยไปลงหุ้นเปิดร้านเหล้า ย่านตลิ่งชันอยู่ 5 ปี โดยเธอ ทำหน้าที่ทุกอย่าง ทั้งคุมลูกน้อง ทำบัญชี ดูแลร้าน ฯลฯ พ