แอนนา ชวนชื่น
แอนนา ชวนชื่น จากเด็กขัดสนิมตามอู่รถ ไต่เต้าจนได้ดีกลายเป็นตลกแถวหน้าเมืองไทย สร้างธุรกิจขนม เมนูเด็ด เค้กส้มอัลมอนด์ไร้แป้ง เค้กกล้วยหอมโรยชีส ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน บราวนี่ครีมชีส บราวนี่อัลมอนด์ช็อกชิพ บราวนี่นูเทลล่าดาร์กช็อก เพื่อนๆ ดาราต่างกดไลก์ ขนาด บอย ปกรณ์ เอ่ยปากชมว่า “อร่อย” นอกจากความฮาที่ไม่เป็นสองรองใคร เรื่องน้ำใจไมตรีก็ต้องยกนิ้วให้ แอนนา ชวนชื่น หรือ เอนก อินทะจันทร์ ตลกชื่อดัง เพราะทุกครั้งที่ไปทำงานเป็นต้องมีขนมนมเนยติดไม้ติดมือไปฝากทุกคนในกองถ่ายให้ได้อิ่มหนำกันอย่างถ้วนหน้า โดยเจ้าตัวก็ไม่ทันคาดคิดว่านั่นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอีกอาชีพทำเงินในนาม “บ้านปู่แอน” ที่เขาตั้งชื่อตามคำเรียกขานจากหลานๆ ของปู่แอน “ทุกครั้งที่ไปกองละครผมจะต้องไปซื้อขนมเจ้าที่อร่อยที่สุด ซื้อครั้งหนึ่งหมด 2,000-3,000 บาท ซื้อไปซื้อมาทีนี้คนที่ทำเขาเสีย ซึ่งเขาก็ไม่เคยบอกสูตรเราหรอก แต่แฟนผม (เก๋-เกษร ศรีระชาติ) ชอบสังเกต แล้วก็ไปเปิดดูในอินเตอร์เน็ตมาลองทำดูจนสูตรใกล้เคียงเขา คราวนี้เลยทำเอง ซึ่งพวกค่าวัตถุดิบก็เหลือแค่พันกว่าบาท ลดจากที่เคยซื้อเขาครึ่งหนึ่งเลย พอไปให้คนที่ก
ถึงไม่ใช่นักแสดงระดับพระ-นาง แต่เชื่อเลยว่าน้อยคนนักจะไม่รู้จัก แอนนา ชวนชื่น-เอนก อินทะจันทร์ เพราะวลีเด็ดที่เป็นคำไทยสำเนียงจีนทั้ง “ถั่วต้มนะคร้าบ”, “น้ำส้วม (น้ำส้ม)” ฯลฯ นั้นคุ้นหูกันดี แถมผลงานก็มีให้เห็นบ่อยๆ ไม่ว่าจะหนัง รายการ หรือละคร ซึ่งล่าสุดก็ “แรงตะวัน” ทางช่อง 3 ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่วายกังวลถึงความไม่แน่นอนของอาชีพคนบันเทิง ดังนั้น จึงลงทุนผุดธุรกิจใหม่อย่างสบู่สมุนไพรในชื่อ “แอนเอง” “ทีแรกก็วางแผนกันว่าจะขายเค้ก เปิดร้านกาแฟ เพราะแฟนชอบทำขนม เขาทำเค้กมะพร้าว เค้กกล้วยหอมอร่อย แต่ไปดูทำเลแล้ว ต้องไปก่อสร้างเองอะไรเอง กะว่า 2 ล้านไม่อยู่ ก็เลยหันเห เบนเข็มทิศว่าลองทำอย่างอื่นดีกว่า” แอนนา เล่าให้ฟังถึงที่มา โดยมี เก๋-เกษร ศรีระชาติ ภรรยาช่วยเสริมว่า “ตอนนั้นก็ฝึกทำเค้กเองโดยดูจากอินเตอร์เน็ต พอหลังๆ ออกมาอร่อยก็เริ่มทำขายแบบโฮมเมดเลยนึกอยากเปิดร้านกาแฟ คิดดูแล้วว่าคงลงทุนเยอะเราไม่มีเงินแน่นอน ถ้าทำอาจต้องกู้เป็นหลักล้าน ต้องเป็นภาระใช้หนี้อีก” จากนั้นเลยไปค้นคว้าหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ตแล้วบังเอิญไปเจอธุรกิจสบู่ ซึ่งข้อดีคือ ทำสต๊อกไว้ขายได้ไม่จำเป็นต้องขายวันต่อวัน