โต๊ะจีน
ลูกสาวคนเล็ก งัดความรู้ ต่อยอดโต๊ะจีนจัดเลี้ยงของพ่อ เป็น โต๊ะจีนดีลิเวอรี่ มีงบหลักพันก็สั่งได้ 3 ปีแห่งการปรับเปลี่ยน จากโต๊ะจีนจัดเลี้ยงสู่โต๊ะจีนดีลิเวอรี่ โดยลูกสาวคนเล็กของบ้าน “คุณฑิฆัมภรณ์ คงสบาย หรือ กิ๊กซี่” วัย 31 ปี เธอเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส หลังธุรกิจครอบครัวเผชิญพิษโควิด มีวัตถุดิบเก็บสต๊อกไว้มากมาย แต่ไม่มีงานจ้าง การปรับตัวมาทำโต๊ะจีนดีลิเวอรี่ ‘ครัวโต๊ะจีน สมศักดิ์ โภชนา (โพธิ์แจ้) by ลูกสาวคนเล็ก’ จึงเริ่มขึ้น โดยใช้ความรู้จากปริญญาตรีด้านฟู้ดไซน์ ปริญญาโทการบริหารจัดการธุรกิจอาหาร รวมทั้งทักษะความรู้ด้านการตลาดจากงานประจำมาประยุกต์ใช้ ครอบครัวคุณกิ๊กซี่ ทำธุรกิจโต๊ะจีนจัดเลี้ยงมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ในปี 2549 และเป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเริ่มต้นจากการเป็นพ่อครัวโต๊ะจีน เมื่อสั่งสมประสบการณ์มานาน 4-5 ปี ก็ถึงเวลาที่ต้องแยกตัวออกมาทำธุรกิจของตัวเอง และดูแลครอบครัวด้วยธุรกิจโต๊ะจีน โดยกู้เงินหลายล้านบาทมาลงทุน พร้อมตีตลาดใหม่ และเริ่มให้คุณกิ๊กซี่เข้ามาช่วยงานตั้งแต่อายุ 12 ปี ด้วยหน้าที่เล็กๆ คือ โรยผักชี ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งกิจกรรมการเรียน ตั้งแต่นั้นมา คุณกิ๊
ประธาน กกต. ยันเอง รอยุติปมโต๊ะจีนพปชร. หลังไม่พบหน่วยงานรัฐ-บุคคลต่างชาติ หนุนเงิน วันที่ 13 มี.ค. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กล่าวกรณีนายทะเบียนพรรคการเมืองยุติการสอบสวนการระดมทุนโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากไม่เข้าข่ายเป็นความผิด ว่าได้รับทราบจากนายทะเบียนว่าตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีหน่วยงานของรัฐ บุคคลต่างชาติให้เงินสนับสนุน จึงจะเสนอ กกต.ยุติเรื่อง ซึ่งตามกฎหมายแล้ว กกต.คงทำได้เพียงการรับทราบ ไม่สามารถที่จะให้นายทะเบียนตั้งกรรมการสอบใหม่ แต่ในคำร้องเรื่องดังกล่าวมีหลายประเด็น อาจจะมีบางประเด็นอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของสำนักงานฯ ส่วนที่ผู้ร้องมองว่าเรื่องดังกล่าวว่า กกต.พิจารณาไม่เป็นไปตามคำร้องนั้น เรื่องนี้เข้าใจว่า ยังอยู่ในการดำเนินงานของสำนักงาน ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ การตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริจาคไปได้รับงานจากหน่วยงานของรัฐ อาจเป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่ปรากฏ ต้องไปถามเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ส่วนเรื่องการพิจารณาคำร้องว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเด
ศรีสุวรรณ ผิดหวัง กกต. สอบโต๊ะจีน พปชร. ไม่ตรงคำร้อง ทำให้รอดยุบพรรค ถามหาความเที่ยงธรรม วันที่ 12 มี.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง ผิดหวังเลขา กกต. สอบโต๊ะจีน พปชร.ไม่ตรงกับคำร้อง ความว่า ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง แถลงเปิดเผยถึงการพิจารณาคำร้องกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จัดโต๊ะจีนระดมทุน 200 โต๊ะ ๆ ละ 3 ล้านบาท ได้ยอดรวมมูลค่ากว่า 650 ล้านบาทว่า จากการตรวจสอบผู้บริจาค ที่มีนิติบุคคล 40 แห่ง และบุคคล 84 คน ไม่พบบุคคลต่างชาติร่วมบริจาคเงิน ถือว่าไม่มีความผิด และไม่เข้าข่ายถูกยุบพรรคนั้น คำแถลงดังกล่าว ไม่ทราบว่าเลขา กกต. นำมาจากคำร้องของผู้ใด เพราะสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยไม่เคยร้องว่าเงินที่พรรค พปชร.จัดระดมทุนโต๊ะจีนนั้น มีบุคคลต่างชาติบริจาคหรือไม่ แต่คำร้องที่สมาคมฯร้องให้ กกต.ตรวจสอบ คือ 1)มีข้าราชการและหรือหน่วยงานรัฐร่วมบริจาคทั้งทางตรงหรือทางอ้อมตามมาตรา 76 แห่งพรป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่ อย่างไร 2)เงินที่นิติบุคคลบางแห่งบริจาคนั้น เ