SME ปัง! ตังได้คืน
KIND+JUGEND ASEAN 2025 ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ชูโครงการ SME ปัง! ตังได้คืน ขยายธุรกิจแม่และเด็กสู่ตลาดโลก KIND+JUGEND ASEAN 2025 มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติและเทคโนโลยีสำหรับผลิตภัณฑ์แม่และเด็กคุณภาพแห่งภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 3 ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศไทย ได้เข้าร่วมแสดงสินค้าในงานใหญ่ระดับนานาชาติ ภายใต้โครงการ SME ปัง! ตังได้คืน ปี 2 ผ่านระบบ BDS (Business Development Services) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ต้องการขยายธุรกิจและพัฒนาศักยภาพในตลาดอาเซียนและทั่วโลก พร้อมเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในการขยายตลาดและพัฒนาธุรกิจ โดยผู้ประกอบการสามารถขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า โอกาสนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างเครือข่ายธุรกิจ ขยายฐานลูกค้า และแนะนำผลิตภัณฑ์คุณภาพแก่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งงานจะจัดขึ้นในวันที่ 12-14 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร นา
สสว. จัดหนักโครงการ BDS “SME ปัง ตังได้คืน” สสว. เร่งอุดหนุน MSME เพิ่มเติม ภายใต้โครงการฯ BDS หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” จัดแคมเปญ “จ่ายหนึ่งหมื่น คืนเก้าพัน” ให้ MSME ทุกขนาด ในสัดส่วน 90% วงเงินไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับ MSME 5,000 รายแรก วันนี้ – 30 กันยายน 2566 นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. มีพันธกิจในการบูรณาการ และผลักดันการส่งเสริม MSME ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ MSME สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล โดยหนึ่งในโครงการสำคัญซึ่ง สสว. ได้ดำเนินการต่อเนื่อง และสอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริม MSME ของรัฐบาลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ MSME ในมิติต่างๆ คือ โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” ผอ.สสว. เผยอีกว่า เดิมโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ให้การอุดหนุนวิสาหกิจรายย่อย (Micro) ที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาซึ่งจดทะเบียนทำธุรกิจกับหน่วยงานภาครัฐ (SME-GP) ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ที่สัดส่วน 80% แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ขณะที่วิสาหกิจขนาดย่อม (Small)
สสว. ต่อยอดมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน ปี 2 ลุย อุดหนุนค่าใช้จ่าย SMEs ในสัดส่วน 50-80% สสว. เดินหน้าพัฒนาผู้ประกอบการ จัดเสวนา “ถอดรหัส ไขเคล็ดลับ BDS : SME ปัง ตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2” ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ปีงบประมาณ 2566 มุ่งพัฒนา ช่วยเหลือ ผู้ประกอบการผ่านมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2” พร้อมอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเอสเอ็มอี แบบร่วมจ่าย (Co-payment) ในสัดส่วนร้อยละ 50-80 วงเงินสูงสุดถึง 200,000 บาท นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายในงานเสวนา “ถอดรหัส ไขเคล็ดลับ BDS : SME ปัง ตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2” ว่า จากการที่ สสว. ได้ดำเนินมาตรการการให้ความช่วยเหลือ อุดหนุน ผู้ประกอบการ MSME เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ที่ผู้ประกอบการจะสามารถเลือกรับการบริการหรือพัฒนาทางธุรกิจกับผู้ให้บริการทางธุรกิจ ในด้านที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” ปี 2565 มาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ สสว. จึ
สสว. ต่อยอดมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ มากกว่า 370 ล้านบาท สสว. เดินหน้า พัฒนาผู้ประกอบการ ต่อยอดมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน จัดกิจกรรม “BDS Matching Day” เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา ช่วยเหลือ อุดหนุน ผู้ประกอบการ ผ่านแพลตฟอร์ม bds.sme.go.th ที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกรับการพัฒนาในหมวดต่างๆ ที่ตรงตามความต้องการและตรงธุรกิจตนอย่างแท้จริง คาดมีผู้ประกอบการเข้าร่วมเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2,100 ราย คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากกว่า 370 ล้านบาท นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังการเปิดกิจกรรม “BDS Matching Day” ว่า จากการที่ สสว. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม MSME ผ่านระบบการให้บริการสนับสนุน ด้านการพัฒนาธุรกิจ ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” ปี 2565 มาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ MSME สามารถเพิ่มโอกาสในการประกอบธุรกิจ สามารถพัฒนายกระดับผลิตภาพและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และได้รับการพัฒนาที่ตรงตามความต้องการ และมีการสร้างเครือข่
SMEs เตรียมเฮ! รับเงินจากมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” กว่า 6 เดือนที่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินการเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ผ่านมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ที่ให้ SMEs สามารถเลือกประเภทของบริการที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจตัวเองได้ โดยมีบริการขึ้นบนระบบแล้วกว่า 120 บริการ และ SMEs ยังได้รับการอุดหนุนค่าใช้จ่ายแบบร่วมด้วยช่วยจ่าย (Co-Payment) ในสัดส่วนร้อยละ 50-80 ตามขนาดของธุรกิจ สูงสุดถึงรายละ 200,000 บาท นับเป็นมาตรการที่มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้มี SMEs ที่ได้รับอนุมัติข้อเสนอการพัฒนาและเริ่มดำเนินการพัฒนาแล้วกว่า 300 ราย รวมถึงความสำเร็จของบริการในด้านการตลาดมีผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอการพัฒนาโดยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้า CARE ASIA “Total Solutions for Health & Wellness” เมื่อ 1-4 กันยายน 2565 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยใช้บริการผ่านสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทาง สสว. อนุมัติวงเงินให้กับ SMEs ที่สมัครเข้า
6 เดือนแรก ‘SME ปัง ตังได้คืน’ ผู้ประกอบการเข้าร่วม 2,000 ราย เปิดต่อเฟส 2 ถึง ก.ย.66 ตั้งเป้า 6,000 ราย ปรับเกณฑ์ขยายคุณสมบัติ SME ‘จดทะเบียนปี 64 – ธุรกิจไซซ์ M’ เข้าร่วมได้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ห้องประชุม 1801 ชั้น 18 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) แถลงผลการดำเนินมาตรการ ‘SME ปัง ตังได้คืน’ โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ Business Development Service ปี 2565 ภายใต้แนวคิดที่ต้องการช่วยผลักดันให้ SME ได้มีโอกาสเข้าถึงการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนายกระดับศักยภาพในด้านต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับธุรกิจ รวมถึงสามารถเปรียบเทียบราคาบริการ และต่อรองราคาจากหน่วยงานต่าง ๆ บนระบบ BDS ได้ด้วยตนเอง และ สสว. จะช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายแบบร่วมด้วยช่วยจ่าย (Co-Payment) ในสัดส่วนร้อยละ 50 – 80 ตามขนาดของธุรกิจ สูงสุดถึงรายละ 200,000 บาท นายวีระพงศ์ กล่าวว่า หลังจากจากการเปิดตัวโครงการฯใ
เปิดวิธีสมัคร “SME ปัง! ตังได้คืน” มาตรการใหม่ จาก สสว. วงเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนา SMEs สูงสุด 200,000 บาท จากกรณีข่าว สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ทุ่มงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ออกมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” รวมบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจ ผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ที่สมัครง่าย อนุมัติไว ตังได้คืน จากการช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการแบบร่วมจ่าย (co-payment) ในสัดส่วน 50–80% สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท ตามขนาดของธุรกิจ นั้น สสว. เชื่อ SMEs ไทย พัฒนาได้ ผ่านมาตรการ SME ปัง! ตังได้คืน เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ เปิดคุณสมบัติ และ ขั้นตอนการสมัครเข้าโครงการ ดังนี้ คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ คุณสมบัติของผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการขอยื่นข้อเสนอการพัฒนาเพื่อรับความช่วยเหลือ อุดหนุน จากโครงการฯ จากเงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต้องมีสถานะความเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ 1. เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงที่ออกตามพ
สสว. ลงพื้นที่-สร้างความมั่นใจ SMEs ไทย พัฒนาได้ ผ่านมาตรการ SME ปัง! ตังได้คืน จากความมุ่งมั่นในการยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้สามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพและสามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จึงทุ่มงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ออกมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” รวมบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจ ผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ที่สมัครง่าย อนุมัติไว ตังได้คืน จากการช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการแบบร่วมจ่าย (co-payment) ในสัดส่วน 50–80% สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท ตามขนาดของธุรกิจ ล่าสุด สสว. จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร เพื่อพบผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” ที่ได้รับการพัฒนาผ่านระบบ BDS ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า มาตรการ SME ปัง! ตังได้คืน” เป็นมาตรการใหม่ของ สสว. ที่เกิดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจจากหน่วยงานชั้น