เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured ข่าววันนี้

11 เดือนที่ผ่านมา มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 72,480 ราย รับอานิสงส์ เศรษฐกิจฟื้นตัว

11 เดือนที่ผ่านมา มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 72,480 ราย รับอานิสงส์ การท่องเที่ยว เศรษฐกิจฟื้นตัว

วันที่ 26 ธันวาคม 2565 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,773 ราย เทียบกับเดือนตุลาคม 2565 ลดลง 2% และเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 เพิ่มขึ้น 2% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 20,069 ล้านบาท

ประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่ติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 2,684 ราย เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2565 เพิ่มขึ้น 36% เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 ลดลง 7% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 9,417.60 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

ทั้งนี้ ยอดรวมการจดทะเบียนตั้งใหม่ 11 เดือนปี 2565 (ม.ค. – พ.ย.) มีจำนวน 72,480 ราย เพิ่มขึ้น 4.66% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 408,613.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.19% และยอดเลิกกิจการ รวม 16,096 ราย เพิ่มขึ้น 18.21% มีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 104,978.64 ล้านบาท ลดลง 71.01%

ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการจัดตั้งบริษัทใหม่เพิ่มขึ้น มาจากเศรษฐกิจไทยมีทิศทางดีขึ้น เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น การท่องเที่ยวในช่วงปลายปี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ประกอบกับการใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย

จึงส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกรมคาดว่ายอดจดทะเบียนตั้งใหม่ทั้งปี 2565 จะสูงถึง 76,000 ราย เกินไปกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 68,000-72,000 ราย

ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 พ.ย. 2565) จำนวน 852,395 ราย มูลค่าทุน 20.73 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,446 ราย คิดเป็น 23.63% บริษัทจำกัด จำนวน 649,570 ราย คิดเป็น 76.21% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,379 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

ขณะที่การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนพฤศจิกายน 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 50 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 33 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 6,029 ล้านบาท

เป็นผลให้ในปี 2565 (ม.ค. – พ.ย. 2565) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 530 ราย เพิ่มขึ้น 6% เงินลงทุน 112,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. – พ.ย. 2564)

นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 1,262 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 307 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 6 ราย เงินลงทุน 16 ล้านบาท ตามลำดับ

Related Posts

เปิดจักรวาล Karun! ปั้นแบรนด์น้องใหม่ เจริญสังขยา, Summer Bowl และ Avery Wong ปี 66 รายได้รวม 100 ล้านบาท  
เปิดเทรนด์ผู้บริโภคยุคนี้ ไม่เน้นถูกสุด แต่ต้อง ‘คุ้มสุด’