พรุ่งนี้มีนัด 8 โมงเช้า ลงทะเบียน “แอปทางรัฐ” รัฐบาลรับประกัน ไม่มีล่ม!
พรุ่งนี้วันแรก (1 สิงหาคม 2567) สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วม โครงการดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน โดยสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 08.00 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สรุปมาให้แล้ว! รัฐบาลแถลง ดิจิทัลวอลเล็ต เปิดเงื่อนไข วิธีลงทะเบียน ใครได้บ้าง?
- เงินฝากเกิน 5 แสนบาท โดนตัดสิทธิ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ดูบัญชีย้อนหลังถึง 31 มี.ค. 67
- มาแล้ว! ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนลงทะเบียน 1 ส.ค. นี้
กำหนดการเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
– การลงทะเบียนประชาชนทั่วไป 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 สำหรับประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน
– การลงทะเบียนประชาชน 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 สำหรับประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้จะต้องใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชน โดยสิทธิของกลุ่มนี้จะมีข้อจำกัดที่มากกว่าผู้ที่ใช้จ่ายผ่านสมาร์ทโฟน เช่น
1. จะต้องใช้กับร้านค้าที่เปิดบริการของสมาร์ทโฟนในขณะที่มีการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพราะจำเป็นจะต้องยืนยันสถานที่ และเป็นการซื้อขายแบบ Face to Face
2. ทุกครั้งที่มีการซื้อขาย จะต้องมีการบันทึกภาพของผู้ที่นำบัตรประชาชนไปใช้ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของบัตรจริงๆ
กลุ่มที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
1. ประชาชนที่มีชื่อและที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
2. สัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3. ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาทต่อปี (สำหรับปีภาษี 2566)
4. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืน ในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
5. ต้องไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
– การลงทะเบียนร้านค้า 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป สำหรับร้านค้าสามารถซื้อร้านค้าด้วยกันได้แม้อยู่ต่างพื้นที่
ทั้งนี้ ยังเปิดเผยอีกว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเริ่มใช้จ่ายได้ ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 และคาดว่ามีร้านค้าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านร้านค้า และประชาชนใช้จ่ายได้แค่ร้านขนาดเล็ก ไม่ร่วมห้างค้าปลีกค้าส่ง ต้องซื้อในพื้นที่ใกล้เคียงทะเบียนบ้าน โดยสามารถซื้อสินค้าได้ภายในเขตอำเภอเท่านั้น
สำหรับสินค้าที่ยกเว้น ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ จะไม่รวมถึงบริการต่างๆ
การลงทะเบียนของประชาชนผ่านแอป ทางรัฐ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1. ไม่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่าน ทางรัฐ
2. เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่าน ทางรัฐ
ขั้นตอนสำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่าน ทางรัฐ
1. ดาวน์โหลดแอปทางรัฐได้จาก App Store และ Google Play
2. เปิดแอปทางรัฐ กดปุ่ม สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ และกด สมัครสมาชิก
3. กดปุ่ม สมัครด้วยบัตรประชาชน อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกด ยอมรับ
4. อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชน และ กดถ่ายรูปบัตรประชาชน ทำการกรอกเลขบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร ข้อมูลส่วนบุคคล และกด ยืนยันตัวตน
5. อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า และเริ่ม สแกนใบหน้า
6. กำหนด ชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน ในการเข้าสู่แอป แล้วกด ยืนยัน
7. ตั้งค่า PIN Code 6 หลัก แล้วกดยืนยัน PIN Code อีกครั้ง
8. กดเปิดใช้งาน การสแกนใบหน้าของท่าน โดยกด ใช้งาน
9. จากนั้นกด เริ่มใช้งาน และเตรียมพร้อมรอติดตามประกาศวันกดยืนยันขอรับสิทธิจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้เลย
*ในกรณี สแกนใบหน้าไม่ผ่าน สามารถสร้างบัญชีและเข้าใช้งานแอปทางรัฐได้ก่อน แล้วค่อยทำการสแกนใบหน้าภายหลัง โดยกดที่ปุ่ม สร้างบัญชี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สรุปมาให้แล้ว! รัฐบาลแถลง ดิจิทัลวอลเล็ต เปิดเงื่อนไข วิธีลงทะเบียน ใครได้บ้าง?
- เงินฝากเกิน 5 แสนบาท โดนตัดสิทธิ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ดูบัญชีย้อนหลังถึง 31 มี.ค. 67
- มาแล้ว! ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนลงทะเบียน 1 ส.ค. นี้
ขั้นตอนการสมัครเข้าใช้งานแอปฯ “ทางรัฐ” โดยการใช้บัตรประชาชนยืนยันด้วยตนเอง
วิธีการยืนยันตัวตนผ่านตู้อเนกประสงค์ภาครัฐ
1. สอดบัตรประชาชนที่ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ เพื่อเข้าสู่ระบบ ที่ https://www.dga.or.th/our-services/one-stop-service/dga-kiosk/map/
2. ศึกษาการให้ความยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ แล้วกด ตกลง
3. กด ลงทะเบียนทางรัฐ ที่หน้าเมนู
4. หน้าจอจะแสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้งาน จากนั้นกด ยืนยันข้อมูล
5. กรอกรหัส OTP 6 หลัก ที่ได้รับทาง SMS ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกด ยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ
6. กรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกด ยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ
7. หน้าจอจะแสดงผลว่า ท่านยืนยันข้อมูลสำเร็จแล้ว จากนั้นให้ดึงบัตรประชาชนออก และกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปพลิเคชันทางรัฐ
8. กรอกชื่อบัญชีผู้ใช้งานและรหัสผ่านที่ผู้ใช้งานลงทะเบียนผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นกด เข้าสู่ระบบ
9. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว จะเข้าสู่หน้าการยืนยันตัวตน ให้ผู้ใช้งานกด เริ่มยืนยันตัวตน
10. ศึกษาข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า แล้วกด เริ่มยืนยันตัวตน และเริ่มสแกนใบหน้า
11. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
12. เปิดการใช้งานสแกนใบหน้า โดยกด ใช้งาน จากนั้นสแกนใบหน้า เมื่อสแกนใบหน้าสำเร็จ ให้กดเริ่มใช้งาน เป็นอันเสร็จ
วิธีการยืนยันตัวตนผ่านเคาน์เตอร์ไปรษณีย์
1. เปิดแอปทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการยืนยันตัวตน โดยกดเลือก ยืนยันตัวตนที่ทำการไปรษณีย์
2. เตรียมบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ ไปยังที่ทำการไปรษณีย์ (สามารถใช้บริการได้ทุกสาขา)
3. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการ ยืนยันตัวตน แอปทางรัฐ และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
4. เมื่อทำตามขั้นตอนเสร็จแล้ว อย่าลืมตรวจสอบ เลขบัตรประชาชน ชื่อ-นามสกุล จากนั้นให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปทางรัฐ
5. หลังจากกดลิงก์ จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้า ให้กด เริ่มสแกนใบหน้า
6. เมื่อสแกนใบหน้า ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ให้กด สมัครสมาชิก
7. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกด ยอมรับ
8. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด ยืนยัน
9. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
10. เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคล โดยกดปุ่ม ใช้งาน
11. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกด เริ่มใช้งาน เป็นอันเสร็จ
วิธีการยืนยันตัวตนผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven
1. เปิดแอปทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการยืนยันตัวตน โดยกดเลือก ยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven
2. ระบุเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มือถือ จากนั้นกด สร้าง QR Code
3. แจ้งพนักงานว่ามายืนยันตัวตนแอปทางรัฐ และแสดง QR Code ให้สแกน จากนั้นเสียบบัตรประชาชนที่เครื่องอ่านบัตร รับใบเสร็จ แล้วกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปทางรัฐ
4. หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้าในแอปทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำ แล้วกด เริ่มสแกนใบหน้า
5. เมื่อสแกนใบหน้ายืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ให้กด สมัครสมาชิก
6. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกด ยอมรับ
7. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด ยืนยัน
8. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
9. เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคล โดยกดปุ่ม ใช้งาน
10. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกด เริ่มใช้งาน เป็นอันเสร็จ
วิธีการยืนยันตัวตนผ่านตู้บุญเติม
1. เปิดแอปทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการสมัคร โดยกดเลือก สมัครที่ตู้บุญเติม
2. เตรียมบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ ไปที่ตู้บุญเติม ที่รองรับการยืนยันตัวตน
3. เลือกเมนู ทางรัฐ แล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอตู้บุญเติม
4. เสียบบัตรประชาชน ที่ช่องเสียบ
5. เมื่อทำตามขั้นตอนเสร็จ ให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปทางรัฐ อย่าลืมดึงบัตรประชาชนออกหลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น
6. หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้า ศึกษาข้อแนะนำ และเริ่มสแกนใบหน้า
7. เมื่อสแกนใบหน้าเสร็จ ให้กด สมัครสมาชิก
8. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกด ยอมรับ
9. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด ยืนยัน
10. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
11. เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคล โดยกดปุ่ม ใช้งาน
12. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกด เริ่มใช้งาน เป็นอันเสร็จ
โดยสามารถค้นหาตำแหน่งตู้บุญเติม ได้ตามวิธีการนี้
1. เปิดแอปทางรัฐ กดเลือก สมัครที่ตู้บุญเติม
2. ศึกษาข้อแนะนำในการยืนยันตัวตน แล้วกด ถัดไป
3. เมื่อศึกษาจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ให้กดที่ ดูตำแหน่งตู้บริการ
4. จากนั้นหน้าจอจะแสดงตำแหน่งตู้บุญเติม เมื่อเลือกตำแหน่งตู้ที่ต้องการใช้งานแล้ว ให้กด นำทาง เพื่อให้แอปนำทางไปที่ตู้
วิธีการยืนยันตัวตนผ่าน แอป ThaiD
1. เปิดแอปทางรัฐ แล้วกด สมัครใช้งาน
2. กด เข้าสู่ระบบด้วย T้haiD
3. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกด ยอมรับ จากนั้นระบบจะนำเข้าสู่ แอป ThaiD
4. กรอกรหัสที่ผู้ใช้งานได้จากการลงทะเบียนแอป ThaiD
5. ระบบจะนำไปสู่การยืนยันตัวตนให้กด ยินยอม และกรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
6. จากนั้นระบบจะนำเข้าสู่แอปทางรัฐ
7. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
8. เปิดการสแกนใบหน้า โดยกด ใช้งาน จากนั้นสแกนใบหน้าเพื่อเข้าสู่ระบบ และกด เริ่มใช้งาน เป็นอันเสร็จ
ขั้นตอนสำหรับผู้ที่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่าน ทางรัฐ
1. เปิดแอปพลิเคชัน ทางรัฐ
2. กดปุ่ม ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ ที่หน้าแรกของแอปทางรัฐ
3. กดอนุญาตให้แอปเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
4. อ่านรายละเอียดเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิและดำเนินการต่อ
และเมื่อประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน จะต้องลงภายในวันที่ 1 ส.ค. – 15 ก.ย. 2657 และเมื่อลงทะเบียนแล้ว ทางภาครัฐจะส่งข้อมูลเพื่อตรวจสอบสิทธิจาก 3 หน่วยงานด้วยกัน ดังนี้
– มีอายุเกิน 16 ปีหรือไม่ ตรวจสอบจากกรมการปกครอง
– มีรายได้เกิน 840,000 บาทหรือไม่ ตรวจสอบจากกรมสรรพากร
– มีเงินฝากเกิน 500,000 บาทหรือไม่ ตรวจสอบจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
เมื่อผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันที่ 22 กันยายน เป็นต้นไป ระบบจะแจ้งว่าได้รับสิทธิหรือไม่ หากถูกปฏิเสธสิทธิระบบจะแจ้งรายละเอียดว่าเหตุใดจึงไม่ได้รับสิทธิ และจะมีการแนะนำหากประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อไป